1. Adobe Spark
2. ClipChamp
1. Adobe Spark
Adobe Spark เป็นบริการทำภาพกราฟิกและวิดีโอจากค่าย Adobe ผ่านเว็บไซต์ spark.adobe.com และบน iOS เป็นโปรแกรมที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก มี Service หลักๆ อยู่ 3 อย่างคือ
- Adobe Spark Post : สร้าง Social Graphic, Poster , Print
- Adobe Spark Page : สร้างเว็บไซต์ Portfolios แบบง่ายๆ
- Adobe Spark Video : สร้างและตัดต่อวีดีโอ
โปรแกรมสามารถเลือกช่วงวิดีโอที่ต้องการใช้งานก่อนอัปโหลดได้ เช่น ไฟล์วิดีโอของคุณขนาด 200 mb แต่ไม่ได้ใช้ทั้งซีนที่ถ่ายมา คุณสามารถเลือก trim เฉพาะส่วนที่ใช้เพื่ออัปโหลดได้ ซึ่งจะไม่ต้องอัปโหลดขึ้นไปถึง 200 mb ทั้งไฟล์ อันนี้ดี
Adobe Spark เป็นบริการส่วนหนึ่งของ Adobe Creative Cloud แน่นอนว่าสามารถ Sign in เพื่อเก็บงานที่เราตัดเอาไว้บน Cloud ได้ด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่างานวิดีโอนั้นใช้พื้นที่เก็บไฟล์เยอะมาก ถ้าต้องการพื้นที่เพิ่มก็ต้องจ่ายตัง แต่ถ้าไม่ได้อยากเก็บไฟล์บนพื้นที่ของเค้า หลังจากตัดงานเสร็จแล้วค่อยลบทิ้งก็ได้
ใช้งาน : spark.adobe.com
จุดเด่น
- มีฟีเจอร์การตัดวิดีโอแบบเบสิคครบครัน ใช้งานง่าย learning curve ไม่สูง
- มีความสำเร็จรูปสูง มีตีมสวยๆ ทันสมัย พร้อมกับเพลงฟรีให้เลือกใช้ได้
- สามารถ Sync เข้า Adobe Creative Cloud เพื่อเก็บไฟล์งาน
- การ Drag and Drop ทำได้ดีสไตล์ Adobe ทำให้ใช้งานได้ลื่นไหลมากๆ
- เบื้องต้นใช้งานได้ฟรี
- สามารถซื้อพื้นที่เพิ่มสำหรับเก็บไฟล์ได้
ClipChamp โปรแกรมที่ออกแบบมาสำหรับทำงานตัดต่อวิดีโอไวๆ ผ่าน Web Browser โดยเฉพาะ หน้าตาเรียบหรู เครื่องมือมีไม่มาก ดูครั้งแรกแล้วใช้งานเป็นทันที เหมาะกับผู้ที่เริ่มหัดใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอเบื้องต้น หรืองานด่วนงานไว แต่ไม่มีเครื่องมือในตอนนั้น
ความดีงามของ ClipChamp คือตอนแรกเราไม่ต้องรออัปโหลดวิดีโอขึ้นไปบนเครื่องเพื่อตัดงาน แต่โปรแกรมมันจะอ่านไฟล์จากเครื่องเรา ทำให้ประหยัดเวลา แต่จะไปอัปโหลดส่วนที่เราใช้ตอน Export อีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมี Footage สวยๆ รวมไปถึง Background Animation และเพลงต่างๆ ให้ใช้กันฟรีๆ ตัวฟรีก็มีให้เลือกค่อนข้างเยอะอยู่ และจุดที่ยังอยากให้เพิ่มคือรูปแบบตัวอักษร และ Transition ยังมีให้น้อยมาก เหมาะสำหรับงานคัทชนง่ายๆ เท่านั้น
ใช้งาน : clipchamp.com
จุดเด่น
- มีฟีเจอร์ตัดวิดีโอเบสิคครบ หน้าตาสวยงาม ดูทันสมัย
- ปรับสีไฟล์วิดีโอเบื้องต้นได้ค่อนข้างดี
- โปรแกรมจะอ่านไฟล์จากเครื่องเรา ทำให้ไม่ต้องอัปโหลดวิดีโอทั้งหมดขึ้นไปทีเดียว
- มี Asset คุณภาพดีให้เลือกมาใช้ในงานได้ ตั้งแต่ Video Footage สวยๆ และเพลงประกอบหลากหลายแนว
- เบื้องต้นใช้งานได้ฟรีแต่จะติดลายน้ำ
- Upgrade แบบ Premium เพื่อ Export แบบ 720p ขึ้นไป,
มี Asset ให้เลือกใช้มากขึ้น และนำลายน้ำออกจากงาน
WeVideo โปรแกรมตัดวิดีโออีกหนึ่งตัวที่เน้นความง่ายและรวดเร็ว แต่ฟีเจอร์ที่จัดมาให้ถือว่าครบพอสมควรเลย เรียกได้ว่าเกือบเท่ากับโปรแกรมฟรีบน Desktop เลยทีเดียว
เมื่ออัปโหลดไฟล์ขึ้น WeVideo เราจะสามารถนำไฟล์นั้นมาทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอโหลดเสร็จ แต่โปรแกรมจะค่อยๆ ทยอยอัปโหลดขึ้นไปเรื่อยๆ ขณะที่เราใช้งาน ก็เปลืองเน็ตเอาเรื่องอยู่ แต่ถ้าใช้งานกับ WiFi ก็ไม่มีปัญหา
เบื้องต้นนั้น WeVideo ตัวฟรีเค้าจะมี Theme ให้เลือกใช้งาน แต่มีอันที่ดูแล้วสวยๆ ดูทันสมัยเพียงไม่กี่ตัว แต่ในเรื่องของเสียง, การวางข้อความ และ Transition ทำออกมาได้ดีเกินความฟรีไปเลย
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเจ้า WeVideo เราสามารถเพิ่ม Layer เพื่อวางวิดีโอหรือเสียงซ้อนกันได้อย่างไม่จำกัด เพราะโปรแกรมฟรีตัวอื่นไม่มีตรงนี้
ใช้งาน : www.wevideo.com
จุดเด่น
- เครื่องมือเบื้องต้นค่อนข้างเยอะกว่าตัวฟรีโปรแกรมอื่น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยกับการที่ใช้งานยากขึ้นหน่อย
- สามารถ import ไฟล์วิดีโอจาก Cloud Service เจ้าดังๆ ได้ เช่น Dropbox, Google Drive
- สามารถใส่ Layer ทั้งวิดีโอและเสียงซ้อนกันได้ไม่จำกัด
- มี Theme, Footage, Sound ให้เลือกใช้ รวมถึง Motion ของข้อความต่างๆ สวยงามดี
- เบื้องต้นใช้งานได้ฟรีแต่จะติดลายน้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น