วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

10 สุดยอดโปรแกรมป้องกันไวรัส ฟรี!


ทางเว็บไซต์ Geekersmagazine ได้จัดอันดับ 10 สุดยอดโปรแกรมป้องกันไวรัสฟรีๆ ที่ให้คุณนำไปใช้งาน ปกป้องคอมพิวเตอร์จากเหล่าไวรัสตัวร้าย มีอะไรบ้าง มาติดตามกันเลย

 1. Kaspersky Free Antivirus
          Kaspersky โปรแกรมป้องกันไวรัสที่หลายคนคุ้นเคยและได้รับความนิยมในเรื่องของการป้องกันไวรัสที่มีคุณภาพ Kaspersky ถือเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีฟีเจอร์การทำงาน ครอบคลุมการปกป้องคอมพิวเตอร์จากไวรัส ด้วยคุณสมบัติป้องกันแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็น ไวรัส, สปายแวร์, มัลแวร์ , โทรจัน, เวิร์ม, rootkist, botnets เป็นต้น และเสริมความแข็งแรงด้วยฟีเจอร์ Firewall เพื่อป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ สามารถไปดาวน์โหลด ได้ที่ Kaspersky Lab โดยโปรแกรมเป็นแบบฟรี  Trial สามารถใช้งานได้ 30 วัน 

 2. Avast Free Full Antivirus

          Avast Antivirus โปรแกรมป้องกันไวรัสอีกตัว ที่หันมาพัฒนาแอนตี้ไวรัสแบบฟรีแวร์อย่างต่อเนื่อง มาพร้อมกับคุณสมบัติป้องกันไวรัสพื้นฐานและความปลอดภัยกับการทำงานรวดเร็ว ป้องกันไวรัส สปายแวร์ และยังมีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล การรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ สามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการ 32-bit และ 64-bit

3. Norton AntiVirus 2012
          Norton โปรแกรมป้องกันไวรัสที่โลดแล่นอยู่ในวงการแอนตี้ไวรัสมานาน ถึงแม้จะถูกผู้พัฒนาโปรแกรมป้องกันไวรัสเจ้าอื่นๆ ยึดตำแหน่งไปครอง แต่ทาง Norton ก็ยังคงพัฒนาโปรแกรมป้องกันไวรัสของตัวเองให้ทันยุคทันสมัย เพิ่มคุณสมบัติการทำงานของโปรแกรมใหม่ๆ เช่น เชื่อมต่อกับเฟซบุ๊กเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย จัดการมัลแวร์ที่แอบแฝงอยู่บนเว็บไซต์ต่างๆ เป็นต้น Norton ยังคงให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานทุกระดับ หากสนใจสามารถดาวน์โหลด Norton AntiVirus 2012 เวอร์ชั่นล่าสุดแบบ  Trial ทดลองใช้งาน 30 วัน

 4. Microsoft Security Essentials
          Microsoft Security Essentials หรือ MSE โปรแกรมป้องกันไวรัสหน้าใหม่จากไมโครซอฟท์ที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน และกลายเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสยอดนิยมเพราะเป็นฟรีแวร์ที่แจกจ่ายฟรีไม่มีข้อผูกมัด  คุณสมบัติต่างๆ ของ Microsoft Security Essentials ก็ไม่ได้น้อยหน้าโปรแกรมป้องกันไวรัสเจ้าอื่นๆ มาพร้อมกับการปกป้องคอมพิวเตอร์ของคุณจากไวรัส สปายแวร์ มัลแวร์และอื่นๆ ที่เป็นอันตรายด้วยการรักษาความปลอดภัยและการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

5. AVG Free Anti-Virus
          AVG โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ดีอีกตัวนึงในตลาดโปรแกรมป้องกันไวรัส ด้วยความไว้วางใจจากผู้ใช้งาน 98 ล้านคนทั่วโลก AVG มีการพัฒนาที่ทันสมัยอยู่เสมอและที่สำคัญเป็นโปรแกรมฟรีแวร์ ที่แจกจ่ายให้ใช้งานกันแบบฟรีๆ สำหรับคุณสมบัติการป้องกันไวรัสเรียกได้ว่าครอบคลุมการทำงาน ช่วยปกป้องคอมพิวเตอร์ของคุณ ให้ห่างไกลไวรัส สปายแวร์ มัลแวร์ รวมไปถึงตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยการใช้งานเว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์

6. Comodo Free Antivirus
          Comodo Antivirus ถือเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีรางวัลการันตีการป้องกันไวรัสที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานโดยออก Comodo Free Antivirus เป็นโปรแกรมฟรีแวร์แต่มาพร้อมกับคุณภาพและคุณสมบัติการป้องกันไวรัส ไม่ว่าจะเป็น ไวรัส โทรจัน สปายแวร์ และ Firewall ที่แข็งแกร่ง การรักษาความปลอดภัยที่แข็งแรง หากกำลังมองหาโปรแกรมป้องกันไวรัสที่พร้อมไปด้วยฟีเจอร์ต่างๆ แบบตัวเดียว Comodo Antivirus เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม

7. McAfee Free Antivirus
          McAfee โปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยและเป็นโปรแกรมป้องไวรัสที่มีคุณสมบัติโดดเด่นที่ทำให้การป้องกันไวรัส สแกนรักษาความปลอดภัยที่น่าสนใจ ด้วยอินเตอร์เฟซของโปรแกรมที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนจึงเลือกใช้งาน  McAfee เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัส ปกป้องข้อมูลสำคัญประจำคอมพิวเตอร์ โปรแกรมเป็นแบบฟรี Trial ทดลองใช้งาน 30 วัน

 8. Trend Micro Free Full version Antivirus
          Trend Micro เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมป้องไวรัสและป้องกันสปายแวร์ที่ดีอีกตัว พร้อมกับคุณสมบัติการทำงานที่ครอบคลุมการใช้งาน สามารถทำงานร่วมกับ Windows XP/ Windows7 และ Windows Vista ได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกเหนือจากนี้แล้ว Trend Micro ก็ยังพัฒนาโปรแกรมป้องกันไวรัสสำหรับโทรศัพท์ด้วยความใส่ใจผู้ใช้งานทุกรูปแบบ โปรแกรมเป็นแบบฟรี Trial ทดลองใช้งาน 30 วัน

 9. Avira Free Antivirus
          Avira Antivirus หรือที่รู้จักกัน คือ "ร่มแดง" เนื่องจาก โปรแกรมนี้ใช้สัญลักษณ์ ร่มแดง นั้นเอง โปรแกรมตัวนี้ถือได้ว่าเป็นซอฟต์แวร์ แอนตี้ไวรัสที่มีคุณภาพและได้รับความนิยมอย่างมาก กับประสิทธิภาพการทำงานและเทคโนโลยีชั้นสูงที่มีผู้ใช้งานทั่วโลก ความสามารถไม่ได้น้อยหน้าโปรแกรมป้องกันไวรัสเจ้าอื่นๆ ด้วยการป้องกันไวรัสได้มากกว่า 300,000 ชนิดและมีการอัพเดทข้อมูลอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันไวรัสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และการใช้งานที่ง่ายรวมไปถึงใช้ทรัพยากรของคอมพิวเตอร์น้อย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าๆ

 10. BitDefender Free Edition
          BitDefender โปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีคุณสมบัติครอบคลุมมากที่สุดทำให้การใช้งานทรัพยากรของคอมพิวเตอร์ค่อนข้างเยอะ จึงทำให้ไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่ถ้าแลกกับคุณภาพและประสิทธิภาพการทำงานที่ได้นั้น ถือว่า BitDefender ทำงานได้ดีมากทีเดียว ด้วยฟีเจอร์การทำงาน รวมไปถึงเครื่องไม้เครื่องมือที่เข้ามาเสริมทัพ และข่าวดีก็คือ BitDefender ได้ออกโปรแกรมป้องกันไวรัสแบบฟรีแวร์ มาในชื่อ BitDefender Free Edition ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติการทำงานและป้องกันไวรัสขั้นพื้นฐานและมีประสิทธิภาพป้องกันในระดับนึง

แหล่งที่มา  เว็บไซต์กระปุกดอทคอม

SimSimi แอพปากร้าย แต่น่ารัก...อ่ะ

มารู้จักกับ "SimSimi" สุดยอดแอพฯที่กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์กับความสามารถในการโต้ตอบสุดกวน

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บนหน้าวอลล์เฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ของใครหลายคนคงมีเจ้าตัวการ์ตูนสีเหลืองหน้าตาจิ้มลิ้มคล้ายลูกเจี๊ยบ กำลังป่วนให้เราเจ็บๆ คันๆ กับคำตอบสุดแสบแต่ละอย่างที่เจ้าตัวอ้วนเหลืองประเคนมาให้ ที่มาของความฮาเหล่านั้นมาจากแอพพลิเคชั่นสัญชาติเกาหลีที่ชื่อ “SimSimi” (ซิมซิมิ)
ดูเผินๆ SimSimi อาจเหมือนแอพที่ใช้แชตธรรมดาอย่าง WhatsApp หรือ Line เพียงแต่เปลี่ยนจากแชตกับเพื่อนมาเป็นพิมพ์โต้ตอบกับ SimSimi หรือโรบอตแชตนั่นเอง ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย คุยกันได้ทุกเรื่องตั้งแต่การเมือง วงการบันเทิง จนถึงเรื่องส่วนตัว ไม่เว้นแม้แต่คำสแลง SimSimi ก็ไม่หวั่น ตอบกลับมาแต่ละทีก็ยียวนกวนประสาท ทำให้เราทั้งขำทั้งแค้นได้ในคราวเดียว ส่วนเรื่องไหนที่ SimSimi ไม่รู้จัก มันก็จะตอบกลับมาอย่างถ่อมตัวว่า “I Have No Response. Teach Me Please.”

สาเหตุที่ SimSimi สามารถโต้ตอบได้อย่างคล่องแคล่วก็เพราะว่าเราสามารถสอนและเพิ่มประโยคคำพูดโต้ตอบต่างๆ ได้ แค่เพียงเข้าไปในปุ่ม Teach ด้านล่าง กรอกในช่อง If Someone Say ถึงเรื่องที่ SimSimi ไม่รู้จัก จากนั้นในช่อง SimSimi May Response ให้พิมพ์ข้อความที่อยากให้ตอบ แล้วคลิกปุ่ม OK จากนั้นก็กรอกรายละเอียดส่วนตัวอีกนิดหน่อย และรอเวลาตรวจสอบอีกประมาณ 30 นาที เท่านี้ SimSimi ก็จะมีคำตอบฮาๆ ให้สมใจ

ใครอยากฮาท้องคัดท้องแข็งก็โหลดแอพพลิเคชั่น SimSimi ได้เลย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เล่นได้ทั้งไอโฟนและแอนดรอยด์ ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถเล่นบนเว็บไซต์ได้อีกด้วย

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 31 มกราคม 2555 เวลา 11:10 น

แท็บเล็ตใช้ดี ราคาโดน

Asus เปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ Eee Pad Transformer Prime ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์

Eee Pad Transformer Prime แท็บเล็ตตัวใหม่ล่าสุดจาก Asus ซึ่งคนรุ่นใหม่ผู้รักเทคโนโลยีไม่ควรพลาด เพราะโดดเด่นด้วยผลงานดีไซน์เก๋ไก๋ เหมาะแก่การพกพา โดยตัวเครื่องมีรูปทรงเพรียวบางเพียง 83 มม. จึงเบาเป็นพิเศษ มีน้ำหนักเพียง 586 ก. หน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว แถมยังมีลวดลายพิเศษ พื้นผิวแบบวัสดุอะลูมิเนียมเงางาม

ด้านประสิทธิภาพก็ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น โดยใช้ระบบปฏิบัติการ Android 3.2 Honeycomb (รองรับการอัพเกรดเป็น Android 4.0 Ice Cream Sandwich) และหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด NVIDIA Tegra 3 Quad-Core เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลด้วยภาพที่คมชัด หน้าจอ Super IPS+ มุมมองกว้าง 178 องศา ให้สีสันสดใสสมจริง

Transformer Prime มาพร้อมกับกล้องหน้าขนาด 1.2 ล้านพิกเซล และกล้องหลังขนาด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED แถมยังสามารถเชื่อมต่อกับแผงคีย์บอร์ด QWERTY เพื่อการใช้งานที่ง่ายดายมากยิ่งขึ้น คล้ายกับการใช้งานโน้ตบุ๊กดีๆ เครื่องหนึ่ง โดยสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 18 ชม.เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสนับสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth, HDMI, USB อีกด้วย

Eee Pad Transformer Prime วางจำหน่ายแล้ว ราคา 20,900 บาท

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 31 มกราคม 2555 เวลา 11:30 น.

เม้าส์ไร้สายดีไซน์เฉี่ยว

เมาส์ไร้สายดีไซน์เฉี่ยวจาก Targus ที่มีความแม่นยำสูงใช้ได้แทบทุกพื้นผิว

เพื่อการใช้งานคอมพิวเตอร์ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด อุปกรณ์เสริมอย่างเม้าส์ก็เป็นส่วนสำคัญซึ่งไม่อาจมองข้ามไปได้ ล่าสุด ทาร์กัส อิงค์ ผู้ผลิตกระเป๋าคอมพิวเตอร์แบบพกพา และอุปกรณ์เสริม ส่งเม้าส์ไร้สาย Targus Blue Trace (AMW50AP53) เอาใจผู้ใช้ เพื่อการทำงานที่ราบรื่นกว่าเดิม

โดย Blue Trace มาพร้อมกับดีไซน์โฉบเฉี่ยว สีดำมันวาว จับกระชับมือด้วยร่องยางชนิดพิเศษที่ด้านข้าง ไม่เพียงเท่านั้น ยังใช้เทคโนโลยีบลูเทรซ (Blue Trace) โดยผสานรวมระบบออปติคอลเข้ากับเทคโนโลยีเลเซอร์ซึ่งมีความแม่นยำสูง เพื่อการควบคุมเม้าส์อย่างง่ายดายตามใจสั่ง แถมยังใช้งานได้บนพื้นผิวทุกประเภท จะหยาบ เรียบ หรือบนพรมก็ไม่มีหวั่น ทั้งนี้ Blue Trace มีอุปกรณ์รับสัญญาณยูเอสบีขนาดเล็กซึ่งรองรับการเชื่อมต่อแม้จะอยู่ห่างถึง 10 ม.เลยทีเดียว

เม้าส์ไร้สาย Targus Blue Trace (AMW50AP53) วางจำหน่ายแล้ว ราคา 810 บาท สอบถามรายละเอียดโทร. 02-640-3000

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 31 มกราคม 2555 เวลา 11:38 น.

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

5 เทรนด์เทคโนโลยีน่าจับตาในปี 2012

          ตลอดปี 2011 ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในแวดวงเทคโนโลยีมากมาย ตั้งแต่การเกิดใหม่ของ Windows Phone การเติบโตขึ้นของร้านแอพพลิเคชั่นออนไลน์ การบูมของแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน ขาลงของ Flash ที่มาพร้อมกับการที่ HTML5 ถูกยอมรับมากขึ้น ตลอดจนเครือข่ายสังคมซึ่งตอนนี้กลายเป็นบ้านหลังที่สองของใครหลายๆ คน

          โดยทั่วไป ทิศทางของเทคโนโลยีในกลุ่มผู้บริโภค (Consumer Technology) ในปี 2012 คงยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก และจะยังคงสืบเนื่องมาจากปีที่แล้ว หากแต่จะทวีความเข้มข้นมากกว่าเดิม เชื่อมต่อเข้าถึงกันผ่านเครือข่ายสังคมหรือบริการกลุ่มเมฆมากขึ้น รวมทั้งเส้นแบ่งระหว่างอุปกรณ์พกพาที่จะเจือจางลงอันเนื่องมาจากโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบปฏิบัติการ และบริการเสริมที่จะเชื่อมข้อมูลของผู้ใช้ให้สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต

 แท็บเล็ต และอัลตร้าบุ๊ก สองอุปกรณ์พกพามาแรงท่ามกลางความเสื่อมถอยของเน็ตบุ๊ก

          ย้อนกลับไปเมื่อราว 3-4 ปีที่แล้ว เน็ตบุ๊กนับเป็นผลิตภัณฑ์น้องใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของผู้บริโภคที่ต้องการอุปกรณ์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และใช้งานเพียงเข้าสู่โลกออนไลน์ได้เป็นอย่างดี ทว่าตั้งแต่แท็บเล็ตได้ถือกำเนิดขึ้น ความต้องการเน็ตบุ๊กก็น้อยลงเนื่องจากอุปกรณ์น้องใหม่สามารถใช้งานเพื่อสนองความต้องการได้ดีพอกัน อีกทั้งยังมีข้อดีอื่นที่เหนือกว่าคือ การตอบสนองผ่านหน้าจอระบบสัมผัสที่สามารถทำงานได้รวดเร็ว ร้านค้าออนไลน์ที่สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพื่อเสริมความสามารถ และการประหยัดพลังงานที่ทำได้ดีกว่า เพราะฮาร์ดแวร์ภายในได้ถูกออกแบบมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ

          ถ้าจะกล่าวว่า 2011 เป็นปีแห่งแท็บเล็ต 2012 ก็คงจะกล่าวได้ว่าเป็นปีแห่งอัลตร้าบุ๊ก อุปกรณ์น้องใหม่ภายใต้แนวคิดของบริษัท Intel ที่ต้องการหลอมรวมข้อดีด้านประสิทธิภาพที่มากกว่าของโน้ตบุ๊กเข้ากันกับการตอบสนองที่ทันใจกว่าของแท็บเล็ต และขายภายใต้ราคาที่ต่ำกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐ

          ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ได้มีอัลตร้าบุ๊กหลายรุ่นเริ่มวางจำหน่ายและสามารถทำยอดขายได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ ประกอบกับแรงหนุนจาก Intel เองจึงทำให้ผู้ผลิตหลายแบรนด์เริ่มเอาใจออกห่างจากเน็ตบุ๊ก เข่น Samsung และ Dell ที่มีแนวโน้มว่าจะเลิกผลิตอุปกรณ์ดังกล่าวแน่นอน อีกทั้งหลายรายก็อาจเลิกพัฒนาแท็บเล็ตด้วย เพราะประสบปัญหาไม่สามารถดึงคะแนนนิยมของผู้บริโภคออกจาก iPad ได้

          แล้วปีนี้เราจะได้เห็นอะไรจากแท็บเล็ตกับอัลตร้าบุ๊ก? แน่นอนว่าประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น น้ำหนักที่เบาลง หน้าจอความละเอียดสูง และการประหยัดพลังงานยังคงเป็นกุญแจและจุดขายสำคัญของอุปกรณ์ทั้งสอง ด้านแท็บเล็ตเราคงได้เห็นสงครามระหว่าง iPad และกองทัพ Android กันต่อไป แต่รายหลังคงมีทิศทางที่เป็นเอกภาพมากขึ้น โดย Google ไม่น่าจะปล่อยให้ Android 4.0 ประสบปัญหา Fragmentation ที่ต้องทำให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือนลุ้นหวยทุกครั้งว่าอุปกรณ์ที่ตนซื้อมาจะสามารถอัพเกรดไปใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ได้หรือไม่

          ด้านอัลตร้าบุ๊กนั้นก็เช่นกัน ที่คาดได้ว่ารุ่นถัดมาจะต้องมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมด้วยโปรเซสเซอร์ใหม่ แต่ว่าเนื่องจากคอนเซ็ปต์อัลตร้าบุ๊กได้รับการกำหนดโดย Intel จึงอาจทำให้หลายรุ่นที่ออกมาจากแต่ละค่ายไม่มีจุดขายที่โดดเด่นต่างจากกันมากนัก ผลก็คือแทนที่อัลตร้าบุ๊กจะเป็น MacBook Air Killer ก็อาจกลายเป็นต้องมารบแย่งลูกค้ากันเองมากกว่า

 อินเทอร์เฟซใหม่เอาใจแอพพลิเคชั่นโมบายล์

          ความเคลื่อนไหวหลายอย่างที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าอินเทอร์เฟซดั้งเดิมอายุ 20 กว่าปีที่ประกอบไปด้วยหน้าต่าง ไอคอน เมนู และลูกศรเมาส์ จะเริ่มหลีกทางให้ระบบสัมผัส การใช้ท่าทาง รวมทั้งการสั่งด้วยเสียงที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากกว่าเดิม แนวโน้มนี้ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นกับแอพพลิเคชั่นโมบายล์เท่านั้น แต่กับเดสก์ท็อปดั้งเดิมก็ได้ถูกนำมาใช้งานด้วย Mac OS X Lion และ Windows 8 เป็นตัวอย่างที่ดี เพราะ Lion นับเป็นระบบปฏิบัติการตัวแรกจาก Apple ที่ถูกพัฒนาเพื่อให้ใช้งานกับท่าทางระบบสัมผัสที่หลากหลาย การเปิดแอพพลิเคชั่นแบบเต็มจอ และ Launchpad หน้าจอแสดงรายชื่อแอพพลิเคชั่นที่ได้รับอิทธิพลมาจาก iOS แบบเต็ม ๆ

          ด้าน Windows 8 ก็ได้รับการพัฒนาให้รองรับระบบสัมผัสมาตั้งแต่ต้นโดยการแบ่งอินเทอร์เฟซออกเป็นสองชั้น คือ Metro สำหรับใช้งานร่วมกับหน้าจอสัมผัสของแท็บเล็ต และ Classic หรือแบบดั้งเดิมที่ใช้งานร่วมกับเมาส์และคีย์บอร์ดที่เราคุ้นเคย หลายฝ่ายมองว่าจุดเด่นของ Windows 8 ข้อนี้เป็นเหมือนกับดาบสองคม นัยหนึ่งก็จะเอื้อต่อการพัฒนาอุปกรณ์ประเภทไฮบริจ ที่รวมกันระหว่างแท็บเล็ตกับโน้ตบุ๊กอย่าง ASUS Transformer Prime แต่อีกด้านหนึ่งก็มีความวิตกว่าจะสร้างความซับซ้อนและความสับสนในการใช้งานโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นที่อาจไม่สามารถทำงานได้อย่าง "ไร้รอยต่อ" ระหว่างอินเทอร์เฟซทั้งสอง

          แต่ว่าดาวเด่นในปีนี้ ก็เห็นจะเป็นเทคโนโลยีการใช้ท่าทางและการสั่งด้วยเสียงที่ชัดเจนว่าจะมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ ความสำเร็จของ Kinect จากที่เป็นเพียงอุปกรณ์เล่นเกมนั้นได้ถูก Microsoft ให้คำมั่นแล้วว่าจะพอร์ตมาลงพีซีแน่นอนในปีนี้ โดยจะได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้งานในระยะใกล้มากขึ้น มีความแม่นยำกว่าเดิมถึงขั้นอาจตรวจจับริมฝีปากของเราได้ รวมทั้งจะสนับสนุนด้านการพัฒนาต่อยอดด้วยการปล่อย Software Development Kit (SDK) สำหรับนักพัฒนาที่สนใจ ส่งผลให้มีก็แต่จินตนาการของเราเท่านั้นที่เป็นข้อจำกัด

          สำหรับการสั่งด้วยเสียงนั้น Siri ลูกเล่นเด่นที่สุดของ iPhone 4S ทำให้ความฝันที่คอมพิวเตอร์จะสามารถตอบสนองผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติใกล้เคียงความจริงเข้าไปทุกที ถึงแม้จะเป็นที่ยอมรับว่าเทคโนโลยีน้องใหม่นี้ยังมีอุปสรรคด้านภาษาและสำเนียงที่รองรับซึ่งต่างไปในแต่ละพื้นที่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้คู่แข่งอย่าง Google ละความพยายามในการพัฒนาออกมาเป็นคู่แข่ง Majel คือชื่อรหัสของการสั่งด้วยเสียงจากยักษ์ใหญ่ด้านเอ็นจิ้นค้นหาที่ได้สานต่อการพัฒนามาจาก Voice Actions เดิมที่รองรับคำสั่งเป็นราย ๆ ไป แต่ Majel จะมีความคล้ายคลึงกับ Siri มากกว่าตรงที่สามารถตีความบริบท (Context) ของเหตุการณ์ตอนนั้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ คาดว่า Android เวอร์ขั่นใหม่คงมีเทคโนโลยีนี้เสริมมาด้วยแน่นอน

          นอกจากเดิมที่นักพัฒนาต้องทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ที่มีอยู่มากมายแล้ว อินเทอร์เฟซใหม่โดยเฉพาะสองอย่างหลังที่ไม่ต้องการสัมผัสร่างกายใด ๆ นั้น ทำให้การพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์พกพาในยุคหน้ามีความท้าทายกว่าเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีจินตนาการสูงสามารถนำอินเทอร์เฟซใหม่นี้มาประยุกต์พัฒนาแอพพลิเคชั่นให้มีลูกเล่นน่าสนใจมากขึ้น

          ข่าวดีอีกข้อหนึ่งก็คือ เทคโนโลยีเว็บฯ ยุคหน้าอย่าง HTML5 นั้นถูกพัฒนาเสริมเขี้ยวเล็บมากขึ้นกว่าเดิมจนเป็นที่ยอมรับ การยกเลิกพัฒนา Flash Player บนอุปกรณ์พกพาโดย Adobe นับเป็นสัญญาณที่ดีว่าอีกไม่นาน นักพัฒนาคงไม่ต้องปวดหัวเรียนรู้คุณลักษณะหลายประการที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มเฉพาะ Gartner ได้ทำนายว่า ภายในปี 2015 แอพพลิเคชั่นกว่าครึ่งที่เคยเป็นเนทีฟแอพ ซึ่งสามารถรันได้บนอุปกรณ์เฉพาะอย่าง จะถูกเปลี่ยนมาเป็นเว็บแอพฯ ที่สามารถใช้งานได้ผ่านทางเว็บบราวเซอร์ทั่วไป

 ประสบการณ์ใช้งานที่เข้าใจเราได้มากขึ้น

          เครือข่ายสังคมที่เราใช้งานทุกวัน ไม่เพียงแต่มีข้อดีที่ทำให้เราเชื่อมถึงกันได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ข้อมูลทุกๆ อย่างรวมทั้งคอนเทนต์ที่เรา "แบ่งปัน" หรือกด "ชอบ" ล้วนแต่สะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกเฉพาะของแต่ละคนได้ Facebook ได้ใช้ความจริงข้อนี้ในการแสดงโฆษณาข้าง ๆ หน้าจอเวลาใช้งาน Zite แอพพลิเคชั่นยำข่าวชื่อดังบน iOS สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการอ่านได้ว่าเราชอบบทความในลักษณะใด ซึ่งจะส่งผลต่อการเปิดใช้งานครั้งต่อไปให้คัดเลือกเฉพาะประเภทข่าวที่เราสนใจเท่านั้นมาแสดงผล หรือจะเป็นระบบแนะนำสินค้าใน Amazon ที่สามารถเสนอขายสินค้า ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันหรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจให้กับเราได้โดยอ้างอิงจากพฤติกรรมการเลือกดูสินค้าที่ผ่านมา

          กล่าวให้เข้าใจโดยง่ายคือ คอนเซ็ปต์ของ Context-Aware Computing นั้น จะนำข้อมูลที่เกี่ยวโยงกับผู้ใช้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความชอบ พฤติกรรมต่าง ๆ รวมทั้งเครือข่ายเพื่อนฝูงมาพัฒนาปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้และบริการให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการคาดเดาความต้องการเพื่อที่จะป้อนคอนเทนต์หรือลักษณะการบริการที่เหมาะสมกับเรา

          จากตัวอย่างที่กล่าวไปจะเห็นได้ว่า ไม่เพียงแต่บริการออนไลน์ในอนาคตที่มีแนวโน้มที่จะเข้าใจความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคลได้มากกว่าเดิมเท่านั้น แต่ความเป็นไปได้ในการนำไปประยุกต์ใช้ยังมีหลากหลาย แนวคิดหนึ่งที่น่าสนใจคือ การเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้เข้ากันกับบริการอื่นที่มีอยู่แล้ว ทั้งอีคอมเมิร์ซ โมบายล์แบงก์กิ้ง โลเคชั่น รวมทั้ง Augmented Reality ให้กลายมาเป็นบริการที่โดดเด่นด้วยความเป็นอินเทอร์แอ็คทีฟ และมอบประสบการณ์ที่สอดคล้องกับบุคลิกของผู้ใช้ได้มากที่สุดและเอื้อให้มีปฏิสัมพันธ์ในระยะยาว ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญของการบริการทั้งปวง

 Internet of Things เมื่อทุกสิ่งเชื่อมถึงอินเทอร์เน็ต

          ตามจริงแล้ว Internet of Things (IoT) ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นไอเดียดั้งเดิมที่กำลังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นอย่างช้าๆ แนวคิดนี้อธิบายว่า วัตถุที่เราใช้งานในชีวิตประจำวันจะมีความชาญฉลาดมากขึ้น สามารถเชื่อมถึงกันและสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้โดยอาศัยเซ็นเซอร์ที่ฝังอยู่ภายใน ซึ่งแต่ก่อนสามารถทำได้ยากเพราะกระบวนการผลิตไมโครชิพยังไม่ได้รับการพัฒนามากเท่าปัจจุบัน แต่ช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ เราได้เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เซ็นเซอร์มีขนาดเล็กลง รวมทั้งระบบปฏิบัติการที่ได้รับการพัฒนาให้ยืดหยุ่นมากขึ้นนั้นก็เอื้อให้แนวคิดนี้มีความเป็นไปได้สูง

          ไม่เพียงแต่เซ็นเซอร์เท่านั้นที่มีส่วนให้ IoT ได้รับการพัฒนา แต่เทคโนโลยีที่เกี่ยวโยงกันอย่างการรู้จำภาพ (Image Recognition) และ Near Field Communication (NFC) ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน ลูกเล่นการรู้จำภาพทำให้สัญลักษณ์อย่าง QR Code สามารถนำไปใช้ในการระบุตัวตนและให้ข้อมูลกับวัตถุได้ทุกรูปแบบ ตั้งแต่สินค้าและบริการ ไปจนถึงข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางโลโก้ที่อยู่บนเสื้อยืด ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับอุปรณ์พกพาในปัจจุบันที่มักติดกล้องถ่ายภาพมาให้และบริการ 3G ที่ทำให้การสแกนและการเชื่อมต่อฐานข้อมูลออนไลน์เป็นไปอย่างรวดเร็ว

          ที่น่าจับตาในปีนี้ NFC หรือเทคโนโลยีรับ-ส่งข้อมูลระยะสั้นที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ทั้งบริการไมโครเพย์เมนต์ผ่านทางเครื่องอ่านที่ช่องทางชำระเงิน หรือใช้แทนกุญแจห้องพัก แต่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายชี้ว่า กว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกใช้งานอย่างแพร่หลายก็คงต้องรอจนกว่าจะถึงปี 2015 ที่อุปกรณ์พกพาทุกชิ้นจะรองรับลูกเล่นดังกล่าว ระหว่างนี้สิ่งที่ต้องทำคือ พัฒนารูปแบบการใช้งานและการรักษาความปลอดภัยให้ดีขึ้น สร้างความรับรู้ให้เกิดขึ้นกับผู้บริโภคทั่วไป รวมทั้งชี้ให้ร้านค้าให้ตระหนักถึงคุณประโยชน์ที่จะได้รับจากเทคโนโลยีนี้

 ร้านค้าออนไลน์ หรือซีดีจะถึงจุดจบ?

          โมเดล App Store จาก Apple และ Android Market จาก Google ได้วางรากฐานการซื้อ-ขายแอพพลิเคชั่นและโปรแกรมในยุคหน้าไว้อย่างเหนียวแน่น ด้วยราคาขายที่สามารถทำให้ถูกกว่าวางจำหน่ายตามร้านค้าปลีกและความง่ายในการใช้งาน ทำให้ไม่แปลกใจที่ยอดดาวน์โหลดของร้านค้าออนไลน์ทั้งสองจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

          Gartner ได้คาดเดาว่า ภายในปี 2014 ยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นโดยรวมต่อปีจะเพิ่มเป็น 7 หมื่นล้านครั้ง ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงเมื่อดูจากยอดขายของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่เพิ่มขึ้นในทุกปี ผลกระทบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลยคือ สื่อออฟติคอลดั้งเดิมอย่างซีดีหรือดีวีดี มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมลดลง Steam จากบริษัท Valve นับเป็นผู้เบิกทางการขายซอฟต์แวร์เกมออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จนกระทั่งนำไปสู่การพัฒนาต่อยอด อย่างเช่น OnLive บริการสตรีมมิ่งเนื้อหาเกมที่ต้องการเพียงคอมพิวเตอร์สักเครื่องที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็สามารถเสพเกมระดับ AAA ได้

          ทางด้านซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชันทั่วไปก็คงต้องยกให้ Apple ที่ใจถึงไม่ยอมขาย Mac OS X Lion แบบกล่อง แต่ให้ดาวน์โหลดผ่านทาง Mac App Store เท่านั้น รวมถึงการที่ทยอยวางจำหน่ายซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ผ่านทางร้านค้าออนไลน์แต่เพียงแห่งเดียวด้วย โดยได้สอดคล้องกับแนวโน้มแล็ปท็อปในยุคหน้าที่จะมีลักษณะเป็น MacBook Air/อัลตร้าบุ๊กที่มีความบางเบา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีออฟติคอลไดรฟ์มาให้ด้วยนั่นเอง

          มาในปีนี้แนวโน้มดังกล่าวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ซ้ำกลับทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะ Microsoft จะได้ฤกษ์เปิดใช้งาน Windows Store สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ Windows 8 ทั้งหมด โดยมาพร้อมกับข้อเสนอที่ยั่วยวนใจอย่างลดการหักค่าหัวคิวลง เมื่อแอพพลิเคชั่นใดสามารถทำยอดขายได้เกินที่ระบุ หรือการวางจำหน่ายแอพพลิเคชั่นเฉพาะบางพื้นที่เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และด้วยฐานผู้บริโภค Windows ที่กว้างอยู่แล้ว ยิ่งทำให้น่าติดตามมากว่ายอดดาวน์โหลดของ Windows Store จะเป็นอย่างไร

          สรุปโดยภาพรวมคือ เทรนด์เทคโนโลยีในปีนี้มีแนวโน้มที่จะเชื่อมถึงกันมากขึ้นผ่านช่องทางบริการออนไลน์ต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ โดยผ่านทางอุปกรณ์พกพาที่อาจหลอมรวมกันแบบไฮบริจ ใช้งานด้วยอินเทอร์เฟซแบบใหม่ เสริมเขี้ยวเล็บด้วยแอพพลิเคชั่นนับไม่ถ้วน ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของเราได้ถูกต้อง ทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่ของใหม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราจะได้เห็นการใช้งานที่แพร่หลายมากกว่าเดิมแน่นอน

แหล่งที่มา  เว็บไซต์กระปุกดอทคอม

ศักยภาพ IT ไทยตกอันดับ

          ที่ประชุมเศรษฐกิจโลก เผยการจัดอันดับศักยภาพด้านไอทีทั่วโลก ไทยหล่นลงมาอยู่ที่ลำดับ 59 จาก 47 ขณะที่ ลำดับดัชนีความพร้อมด้านเทคโนโลยี อยู่อันดับที่ 75 ซึ่งเป็นรองประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม

          ที่ประชุมเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) จัดลำดับศักยภาพด้านไอทีทั่วโลก และดัชนีความพร้อมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในปี 2010-2011 ให้ประเทศสวีเดน มีศักยภาพพร้อมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก จากทั้งหมด 138 ประเทศ ตามมาด้วยประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ขณะที่ ประเทศไทย อยู่ในลำดับที่ 59 หล่นลงมาจากลำดับที่ 47 จากในปีก่อนหน้านี้ โดยมีคะแนนเท่ากับประเทศโคลัมเบียและประเทศปานามา

          ส่วนดัชนีชี้วัดความพร้อมในงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอที ของไทย ก็ตกมาอยู่ในอันดับที่ 75 สำหรับ ลำดับศักยภาพทางด้านไอทีและดัชนีชี้วัดความพร้อมด้านไอทีของไทย เป็นรองในกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม

          ขณะที่ ข้อมูลของสำนักการบริการอย่างทั่วถึง หรือ ยูโซ่ ของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ระบุว่า สถานการณ์ในการเข้าถึงสารสนเทศของคนไทยพบว่า จำนวนครัวเรือนที่มีอุปกรณ์ไอทีทั่วประเทศ ปี 2553 มี 15 ล้านครัวเรือน หรือ ร้อยละ 78 จากจำนวนครัวเรือนทั้งหมด กว่า 19 ล้านครัวเรือน

แหล่งที่มา   เว็บไซต์กระปุกดอทคอม

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

มูลค่า Apple สูงที่สุดในโลก!!


รายงานจาก Millward Brown เผยออกมาแล้วว่า Apple ได้ขึ้นเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าแพงที่สุดในโลกแล้ว เอาชนะแชมป์เก่าอย่าง Google อย่างไม่เห็นฝุ่น โดยในตาราง BrandZ Top 100 Most Valuable Global Brands 2011 ด้วยมูลค่า $153.3 billion หรือ มากกว่า1แสนห้าหมื่นล้านเหรียญฯ ที่เพิ่มจากปีที่แล้วถึง 84% ซึ่งความดีความชอบนี้ต้องยกให้กับสองศรีพี่น้อง iPhone 4 และ iPad กระดานชนวนไฮเทค ที่ขายดีกระหน่ำ เป็นเทน้ำเทท่า แม้ว่าแผ่นดินไหว สึนามิมาก็ไม่มีหวั่น

ส่วน Google แชมป์เก่า ทำมูลค่าได้ที่ $111.5 billion ลดลงไป 2% จากปีที่แล้ว ณ จุดๆ นี้ Appleได้กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำแซงหน้าพี่ใหญ่ตลอดกาลอย่าง Microsoft ไปเสียแล้ว และน่าจะรักษาแชมป์ได้อีกสมัย เมื่อตัวราคาของ iPad2 ราคาก็ไม่ได้แพงจนกระอักเลือด เริ่มต้นที่ 15,900 บาท ไม่ได้แพงเว่อร์เกินหน้าเกินตา Macbook รุ่นอื่นๆ



แหล่งที่มา  เว็บไซต์ c2notebook.com Tuesday, 24 May 2011เว็บไซต์ thaiMAC

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

เพลงนี้มันเพลงอะไร...

SoundHound แอพฯสุดฉลาดที่ช่วยให้สามารถค้นหาชื่อเพลงได้ง่ายๆจากเสียงของเพลงนั้น

เป็นปัญหาเสมอ เวลาที่ฟังเพลงแล้วอยากรู้ว่า เอ๊ะ!...เพลงนี้ชื่อเพลงอะไรหว่า นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก จะถามเพื่อนหรือพี่กูเกิลก็จำเนื้อเพลงไม่ได้ ลืมเรื่องขัดใจข้อนี้ไปได้เลย เพราะวันนี้เรามีตัวช่วยด้วยแอพพลิเคชั่น SoundHound ที่จะช่วยบอกได้ว่า เพลงที่กำลังฟังอยู่นี้คือเพลงอะไร

SoundHound มีวิธีการทำงานง่ายๆ แค่เพียงยื่นสมาร์ตโฟนของคุณ เข้าไปใกล้ๆ ต้นกำเนิดเสียงเพลงนั้น แค่เพียงเวลาไม่กี่วินาทีระบบก็จะประมวลออกมาว่า เพลงที่คุณกำลังตามหานั้น มีชื่อเพลงว่าอะไรและใครร้อง นอกจากนี้ คุณยังสามารถฮัมเพลงหรือร้องเพลงให้เจ้าแอพฯ นี้ฟังได้ เพียงแต่ว่าต้องเป๊ะสักนิดหนึ่ง ถ้าผิดคีย์หรือร้องเพี้ยนก็คงหากันไม่เจอ

ไม่เพียงเท่านั้น ผลลัพธ์การค้นหาของหลายๆ เพลง จะมาพร้อมกับคลิปมิวสิกวิดีโอบนยูทูบ เนื้อเพลง และเว็บไซต์ที่สามารถดาวน์โหลดได้แบบถูกต้องตามกฎหมาย ใครชอบใจก็โหลดมาใช้ได้ฟรี ทั้งระบบ Android และ iOS รับรองไม่ผิดหวัง
แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 26 มกราคม 2555 เวลา 11:46 น

ZTE V9+ แท็บเล็ตราคาเบาน่าใช้

แซตทีอี บุกตลาดแท็บเล็ตในประเทศไทย ส่ง ZTE V9+ แท็บเล็ตราคาเบาๆ เพื่ออิสระที่มากกว่าเดิมของการใช้อินเทอร์เน็ต

ZTE V9+ แท็บเล็ตระบบแอนดรอยด์ 2.3 (Gingerbread) มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลซีพียู 1GHz และแรม 512MB มีขนาดเหมาะแก่การพกพา บางเพียง 12.6 มม. ขนาดหน้าจอสัมผัสเพียง 7 นิ้ว ใช้ระบบ WAVGA ความละเอียด 1024x600 พิกเซล 16 ล้านสี จึงให้ภาพคมชัด สีสันสมจริง

ส่วนคนรักการถ่ายภาพก็ยิ้มได้ โดย ZTE V9+ มีกล้องหลังความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส และกล้องหน้า 0.3 ล้านพิกเซล แถมยังเพลิดเพลินเพลงเพราะเต็มอารมณ์ด้วยระบบ Surround Audio Effect ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยให้ไม่พลาดทุกการอัพเดตข่าวสารผ่านอินเทอร์เน็ต เพราะรองรับการเชื่อมต่อ 2G, 3G และ Wi-Fi รวมถึงระบบดาวเทียมค้นหาตำแหน่ง GPS Receiver & AGPS/G-Sensor

ZTE V9+ วางจำหน่ายแล้วในราคา 10,900 บาท (รวม Vat) ซึ่งแค่เปิดตลาดได้ไม่นานก็ขายได้มากกว่า 5 แสนเครื่องทั่วโลก หาซื้อได้แล้วที่ร้านเทเลวิซและร้านตัวแทนจำหน่าย WDS ทุกสาขาทั่วประเทศ

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 26 มกราคม 2555 เวลา 11:51 น.

หูฟังดีไซน์เท่ Philips O’Neill The Stretch

Philips O’Neill The Stretch หูฟังดีไซน์สุดเท่ที่มาพร้อมคุณภาพเสียงแน่นๆและวัสดุที่แข็งแรง

ใครที่กำลังเบื่อหูฟังธรรมดารูปลักษณ์เดิมๆ เราขอแนะนำให้รู้จักกับหูฟังคุณภาพเยี่ยม รูปลักษณ์สุดเจ๋ง จากฟิลิปส์ซึ่งจับมือกับ O’Neill ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาทางน้ำชั้นนำของสหรัฐ ร่วมกันผลิตหูฟัง Philips O’Neill รุ่น The Stretch

The Stretch มีตัวขับเสียงขนาด 40 มม. ให้เสียงดังฟังชัด ครบถ้วน การันตีคุณภาพว่าดีเยี่ยม ซึ่งมาพร้อมกับสายหูฟังที่มีความยาวกว่า 1.2 ม. แถมยังดีไซน์พิเศษป้องกันปัญหาสายพันกัน ไม่ขาดและหักง่าย จึงโยกย้ายออกสเต็ปได้ตามใจ นอกจากจะมีรูปลักษณ์เจิดจนสามารถใส่เป็นเครื่องประดับได้แล้ว The Stretch ยังทนทานต่อการใช้งาน เพราะสายคาดศีรษะทำจากวัสดุพิเศษ TR55 มีความยืดหยุ่นสูง แข็งแรง และฟิตกับขนาดศีรษะได้ดี

ไม่เพียงเท่านั้น The Stretch ยังสามารถเชื่อมต่อได้กับไอโฟน ไอแพด และไอพอด ควบคุมการเล่นเพลงได้ด้วยปลายนิ้ว เติมเต็มโลกแห่งเสียงเพลงได้เนิ่นนานไม่รู้เบื่อ มี 5 สีให้เลือก ได้แก่ ขาว ดำ ดำด้าน เทา และเขียวทหาร วางจำหน่ายแล้วในราคา 3,990 บาท

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 26 มกราคม 2555 เวลา 11:54 น

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

สยองสุดๆ หุ่นยนต์"ทารก"ไร้ผิวหนัง!!!

ความรับผิดชอบดูแลเด็กทารกเป็นเรื่องใหญ่ที่พ่อแม่ทุกคนรู้ดี เดี๋ยวนี้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จึงต้องเรียนรู้วิธีดูแลทารกกันก่อนที่จะได้รับขวัญชีวิตใหม่ที่จะเกิดขึ้นมา ซึ่งส่วนใหญ่สถานที่ฝึกมักจะใช้ตุ๊กตาที่มีขนาด และโครงสร้างคล้ายเด็กทารกจริงๆ ให้ได้ลองประคับประคองดูแล แน่นอนว่า ตุ๊กตาเหล่านั้นจะไม่มีการขยับส่วนต่างๆ ของร่างกายเหมือนทารกจริง ดังนั้นแบบฝึกหัดการดูแลในลักษณะดังกล่าวก็จะยังคงแตกต่างจากทารกจริงอยู่ไม่น้อย

 

ล่าสุด Chris Clarke ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างหุ่นยนต์เคลื่อนไหว (animatronic baby) ที่ถอดแบบมาจากเด็กทารก โดยสามารถแสดงท่าทางต่างๆ ได้เหมือนกับทารกจริงๆ ตั้งแต่การร้องไห้ ดิ้นไปมาในท่าแอ่นพุง พยายามพลิกตัวตลอดเวลา ลองนึกดูว่า หากพ่อแม่มือใหม่ต้องมาดูแลเจ้าหุ่นยนต์ทารกตัวนี้แทนตุ๊กตา หรือไข่ปลอม คงจะสนุก(ปนสยอง)พิลึก โดยเฉพาะการที่มันมีแต่โครงสร้างที่เป็นเหล็กเช่นนี้ (เหมือนเลี้ยงลูก Terminator)

อย่างไรก็ตาม เจ้าหุ่นยนต์ทารกที่เห็นในคลิปนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งจะสังเกตว่า มันยังไม่สมบูรณ์ 100% เนื่องจากยังไม่ได้รับการตกแต่งด้วยผิวหนังเพียมที่จะใช้ห่อหุ้มทั้งตัว ตลอดจนเสื้อผ้า เชื่อว่า หากทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งรูปร่าง หน้าตา และการขยับร่างกายจะต้องดูเหมือนจริงมากๆ
แหล่งที่มา  เว็บไซต์ MTHAI

พาสเวิร์ดยอดแย่

ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเผย 25 รหัสผ่านยอดแย่ที่ผู้คนนิยมใช้ในปี 2011


SplashData บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์ เปิดเผยผลการวิจัยถึง 25 รหัสผ่านยอดแย่ประจำปี 2011 โดยรวบรวมมาจากรหัสผ่านที่ถูกขโมยและถูกเหล่าแฮกเกอร์เจาะระบบนำมาประจานให้ได้อาย ลองดูสิว่าพาสเวิร์ดอีเมล พาสเวิร์ดล็อกอินสมาชิกเว็บไซต์ต่างๆ ของคุณ ติด 1 ใน 25 อันดับพาสเวิร์ดยอดแย่บ้างหรือเปล่า

อันดับ 1.password 2.123456 3.12345678 4.qwerty 5.abc123 6.monkey 7.1234567 8.letmein 9.trustno1 10.dragon 11.baseball 12.111111 13.iloveyou 14.master 15.sunshine 16.ashley 17.bailey 18.passw0rd 19.shadow 20.123123 21.654321 22.superman 23.qazwsx 24.michael และ 25.football

ทั้งนี้ รหัสผ่านที่ดีควรประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์ที่หลากหลาย โดยอาจเลือกใช้ประโยคยาว ก่อนจะใช้เครื่องหมาย Underscore (_) คั่นกลาง ที่สำคัญกว่านั้น อย่าใช้รหัสผ่านชุดเดียวกับทุกบัญชีออนไลน์ที่คุณมี เพราะถ้าเกิดอันหนึ่งแฮกเกอร์เจาะได้ อันที่เหลือก็ไม่ต้องพูดถึง

นอกจากนี้ อาจเลือกใช้บริการซอฟต์แวร์จัดการรหัสผ่านอย่าง LastPass, Roboform, KeePass โดยซอฟต์แวร์เหล่านี้จะช่วยจำรหัสผ่าน ทีนี้จะสร้างพาสเวิร์ดยาวซับซ้อนแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะลืม

ดังนั้น ใครที่มีพาสเวิร์ดติด 1 ใน 25 ทราบแล้วก็เปลี่ยน!

แหล่งที่มา    เว็บไซต์โพสทูเดย์ 24 มกราคม 2555 เวลา 19:15 น.

วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

เติมเต็มโลกการฟังเพลง

Transcend เปิดตัวเครื่องเล่นเอ็มพี3 MP300 ที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดและอายุการใช้แบตเตอรี่ที่ยาวนาน 

สำหรับผู้ที่มีดนตรีในหัวใจ ต้องไม่พลาด Transcend MP300 เครื่องเล่นเพลงดิจิตอลรุ่นใหม่จาก Transcend Information, Inc. (Transcend) ที่มาพร้อมขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก คุณจึงเพลิดเพลินกับบทเพลงไพเราะได้ทุกแห่งไม่รู้เบื่อ

Transcend MP300 รองรับไฟล์เสียงรูปแบบต่างๆ ทั้ง MP3/WAV และ WMA การใช้งานก็ง่ายดาย สามารถควบคุมการทำงานได้ด้วยนิ้วมือเดียว ตัวเครื่องเล่นมี Dual-Color LED ที่ให้ความสะดวกในการแสดงสถานะการทำงาน ทั้งสถานะของแบตเตอรี่และสถานะการโอนถ่ายไฟล์ จึงไม่จำเป็นต้องมีจอภาพแสดงผลอีก นอกจากนี้ยังมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน 15 ชม.ต่อเนื่องด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว

ไม่เพียงแค่สมประโยชน์ในแง่ของการฟังเพลงเท่านั้น Transcend MP300 ยังทำหน้าที่เป็นแฟลชไดรฟ์ช่วยจัดเก็บข้อมูลอย่างเอกสารและรูปภาพต่างๆ ได้อีกด้วย โดยไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์ในการทำงาน การถ่ายโอนไฟล์ก็ทำได้ง่ายดายเพียงแค่เลือกแล้ววางผ่านระบบ USB 2.0

Transcend MP300 มีน้ำหนักเบาเพียง 15 กรัม วางจำหน่าย 2 รุ่นตามความจุ คือ 4 GB ในราคาประมาณ 1,200 บาท และ 8 GB ราคาประมาณ 1,400 บาท

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 24 มกราคม 2555 เวลา 11:08 น.

ประทับใจด้วย"Sony TX55"

ภาพหนึ่งภาพแทนคำได้พันคำ มาบันทึกความทรงจำอันงดงามด้วยกล้องคุณภาพเยี่ยมกันดีกว่า Sony Cybershot DSC TX55 กล้องดิจิตอลที่มีความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับเลนส์ขนาด 26-130 มม. มีออพติคัลซูม 5 เท่า จึงได้ภาพระยะใกล้โดยไม่เสียความละเอียดและความคมชัด มีโหมดฟังก์ชั่นการใช้งานพิเศษอีก 7 เอฟเฟกต์ เช่น การวัดแสง การปรับสมดุลแสงสีขาวได้หลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมี Superior Auto และ CMOS Sensor ซึ่งช่วยในการอ่านข้อมูลพิกเซลจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว มั่นใจได้ว่าจะได้ภาพชัด ใสสะอาด การรบกวนต่ำ และใช้กำลังไฟน้อย ผู้ใช้จึงไม่พลาดทุกความทรงจำพิเศษ

นอกจากการถ่ายภาพนิ่งแล้ว Sony TX55 ยังสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ในระดับ Full HD/ AVCHD ซึ่งสามารถบีบอัดภาพได้ประสิทธิภาพสูงกว่าฟอร์แมตการบีบอัดแบบเดิม ภาพที่ได้จึงรับประกันว่าคุณภาพเยี่ยม

นอกเหนือจากคุณสมบัติการภาพถ่ายที่โดดเด่นแล้ว Sony TX55 ยังมีเอกลักษณ์พิเศษตรงที่มีความบางเพียง 12.2 มม. สั่งงานง่ายดายด้วยปลายนิ้วแค่เพียงทัชสกรีนที่หน้าจอแอลซีดีขนาด 3.3 นิ้ว วางจำหน่ายแล้ว ราคา 14,690 บาท

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 24 มกราคม 2555 เวลา 13:06 น.

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

สเกตบอร์ดสุดเจ๋งสั่งซิ่งด้วยเสียง

บริษัทในสหรัฐเปิดตัวสเกตบอร์ดสุดไฮเทคติดระบบจับความเคลื่อนไหวสั่งงานได้ด้วยเสียง

บรรดาสาวกสเกตบอร์ดทั้งหลาย เห็นทีอาจต้องรีบหยอดกระปุกออมสินเป็นการด่วน เพราะล่าสุดนั้น เคโอติก มูน แล็บส์ บริษัทมะกันแห่งหนึ่ง ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ประสบความสำเร็จในการสร้างสเกตบอร์ดสุดล้ำ ที่สามารถสั่งงานได้ด้วยเสียง

โปรเจกต์ เอสเค 8” คือสเกตบอร์ดแห่งโลกอนาคต โดยผู้ผลิตถึงกับกล้ารับประกันว่า สักวันอาจแทนที่รถยนต์ก็เป็นได้

เพราะจากการผสมผสานเทคโนโลยีสุดไฮเทคหลากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์เคลื่อนไหวของไมโครซอฟท์ หรือระบบสั่งงานด้วยเสียงของซัมซุง จนนำไปสู่สเกตบอร์ดสุดล้ำที่ผู้เล่นสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยการสั่งงานด้วยเสียง และจากการเคลื่อนไหวของมือ

ขณะเดียวกัน ตัวสเกตบอร์ดนั้นยังเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูงถึง 32 ไมล์ต่อชั่วโมงอีกด้วย
นอกจากนี้ หากจะเร่งความเร็วก็เพียงแค่ขยับมือไปด้านหน้า ในทางกลับกัน หากจะลดความเร็ว ก็แค่ดึงมือกลับ

เพียงแค่ผู้เล่นทรงตัวได้ดีก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก
เรียกได้ว่าทั้งสะดวกและไฮเทคเช่นนี้ เป็นใครก็อยากได้

แต่ก็อาจต้องรีบเก็บเงินเป็นการด่วน เพราะผู้ผลิตเผยว่าวางจำหน่ายเมื่อใด ราคาไม่ถูกแน่นอน!

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์  19 มกราคม 2555 เวลา 14:05 น.

บล็อกกี้ กล้องวิดีโอ 3D ไซส์มินิจากโซนี่

บล็อกกี้กล้องวิดีโอไซส์มินิที่สามารถบันทึกวิดีโอแบบสามมิติพร้อมหน้าจอ LCD ที่ช่วยให้คุณดูภาพ 3 มิติโดยไม่ต้องใช้แว่น

แค่ชื่อก็น่ารักแล้ว สำหรับกล้องวิดีโอพอกเก็ต HD 3D ตัวแรกของโลก โซนี่ บล็อกกี้ 3D ที่มาพร้อมรูปลักษณ์เพรียวบาง พกพาง่าย แถมการใช้งานก็แสนสะดวก เพราะมีจอแสดงภาพที่หมุนอัตโนมัติจึงถ่ายได้ทั้งแนวราบและแนวตั้ง บล็อกกี้ใช้เลนส์โซนี่ f/2.8 และตัวเซ็นเซอร์ CMOS Exmor 5.1 ล้านพิกเซล ขนาด 1/4 นิ้ว จึงบันทึกภาพได้แม้อยู่ในที่ที่แสงสว่างน้อย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบออโต้โฟกัส ออโต้ มาโคร และมี Face Detection จึงมั่นใจได้ว่าวัตถุที่ถ่ายจะชัดเจนแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถถ่ายภาพ 3 มิติได้อย่างง่ายดาย

ด้านการบันทึกภาพเคลื่อนไหว บล็อกกี้ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน โดยสามารถบันทึกได้ 29 นาทีแบบต่อเนื่องและบันทึกยาวได้สูงสุดถึง 2 ชั่วโมง ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ โดยผู้ใช้สามารถใส่เลนส์ 360 เพื่อให้ภาพต่างๆ บันทึกไว้ในฟอร์แมตรูปโดนัทหรือภาพยนตร์พาโนราม่าได้ทันที

ส่วนการรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ก็ทำได้เลย เพราะบล็อกกี้มาพร้อมกับหน้าจอ 3D LCD จึงเพลิดเพลินกับคอนเทนต์สามมิติได้ไม่รู้เบื่อ โดยไม่ต้องใช้แว่นตาเพิ่ม นอกจากนี้ยังแชร์คอนเทนต์ต่างๆ ได้ทันใจผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ (ทั้ง Windows และ Mac OS) และทีวี ส่วนการชาร์จก็ง่ายดาย แค่เพียงเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วยสายยูเอสบี

โซนี่ บล็อกกี้ 3D วางจำหน่ายแล้ว ราคา 9,440 บาท

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 19 มกราคม 2555 เวลา 20:28 น.

ZTE Bladeสมาร์ตโฟนน้องใหม่ราคาสุดคุ้ม

ZTE แบรนด์มือถือน้องใหม่ เปิดตัวสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ รุ่น ZTE Blade ในราคาสุดคุ้ม 5,790 บาท

แบรนด์น้องใหม่ในไทย แต่เป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง แซตทีอี (ZTE) จับมือ ดับบลิวดีเอส (WDS) ผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของไทย เปิดตัวสุดยอดสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ รุ่น ZTE Blade ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์และฟังก์ชั่นการทำงานครบครัน ในราคาสุดคุ้ม

ZTE Blade มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว กว้าง 11.8 มม. ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 Froyo มีกล้องถ่ายภาพขนาด 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส ใครที่ชื่นชอบการบันทึกความทรงจำด้วยภาพถ่าย ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต อัพเดตข้อมูลข่าวสารต่างๆ ก็ทำได้อย่างคุ้มค่า ผ่านกูเกิล โครม บราวเซอร์ รองรับการใช้ 2G 3G Wifi และระบบจีพีเอสในตัว

ทั้งนี้ แม้เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน แต่ ZTE Blade ก็มียอดขายกว่า 8 ล้านเครื่องทั่วโลก แถมยังได้รับความนิยมมากในยุโรป สนใจหาซื้อZTE Blade ได้ที่ร้านเทเลวิซและร้านตัวแทนจำหน่าย WDS ทุกสาขาทั่วประเทศ ในราคาเบาๆ เพียง 5,790 บาท

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 19 มกราคม 2555 เวลา 18:55 น.

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

W262 เอ็มพี 3 สุดโดนจากโซนี่

โซนี่คอดเครื่องเล่นเอ็มพี 3 รุ่นใหม่ วอล์คแมน W262 ที่พกพาคุณภาพเสียงชั้นเลิศที่มาพร้อมสีสันสุดแสบ
เครื่องเล่นเอ็มพี 3 Sony Walkman รุ่น NWZ-W262 สวยงามเตะตาเราตั้งแต่แรกเห็น โดดเด่นด้วยสีสันโดนๆ แบบดูโอโทนทั้ง 4 เฉด ได้แก่ ดำ ขาว ชมพู และน้ำเงิน เชื่อมโยงหูฟังแบบ In-Ear ทั้งสองข้างด้วยสายยางคุณภาพดี ทนทาน และดัดเป็นรูปทรงได้ตามใจ ปราศจากสายหูฟังรุงรัง เพราะออกแบบโดยรวมเอาหูฟังเข้าไว้กับตัวเครื่องเล่น จึงพกพาไปไหนต่อไหนได้ง่ายดาย แถมยังกันน้ำ จึงสามารถถอดมาล้างทำความสะอาดโดยการปล่อยให้น้ำผ่านเบาๆ ได้

ว่ากันด้วยหัวใจหลักอย่างการฟังเพลง ขึ้นชื่อว่าเป็น Sony Walkman คุณภาพเสียงก็หายห่วง ซึ่ง W262 นั้น ให้เสียงใสกิ๊ง เก็บรายละเอียดทุกโน้ตได้ยอดเยี่ยม ครบทุกอรรถรสการฟังเพลงทุกแนว มาพร้อมความจุ 2GB อยากฟังเพลงไหนก็แค่ลากและวางไฟล์เพลงจากพีซี ส่วนการค้นหาเพลงโปรดก็ทำไม่ยาก เพียงแค่เลือกฟังก์ชั่น ZAPPINTM ซึ่งจะเล่นตัวอย่างท่อนฮุกของเพลงให้ฟัง เมื่อเจอเพลงที่ต้องการแล้วก็กดเล่นซ้ำได้ทันที

การใช้งานก็ทำได้สะดวก ด้านขวามือของหูฟังมีปุ่ม Play/Pause และปุ่ม Forward/Rewind นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนโฟลเดอร์เพลงหรือรับฟังตัวอย่างเพลงได้เพียงแค่กดค้าง 1 ครั้ง ส่วนปุ่มด้านซ้ายมือมีไว้สำหรับเพิ่ม/ลดระดับเสียง และปุ่ม Shuffle/Playlists สำหรับเลือกโหมดการเล่นเพลงตามที่ต้องการ

นอกจากนี้ W262 ยังใช้งานได้อย่างยาวนาน เมื่อชาร์จเป็นเวลา 3 นาที จะเล่นเพลงได้ต่อเนื่องนาน 1 ชม. ส่วนชาร์จนาน 1.5 ชม. ก็สามารถเพลินได้ยาวนานถึง 8 ชม. รับรองไม่มีเหงา

Sony Walkman รุ่น NWZ-W262 วางจำหน่ายแล้ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. 02-715-6100 ราคา 3,490 บาท

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 19 มกราคม 2555 เวลา 11:56 น.

คาดการณ์ 10 แนวโน้มเทคโนโลยีในปี 2555 โดย CEO ของ Mashable

ภาพโดย Richard Moross/Flickr
Thumbsup.in.th เปิดเผยคำคาดการณ์ของ Pete Cashmore  CEO ของ Mashable.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์แหล่งข่าวสารออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ถึงแนวโน้มของเทคโนโลยีต่างๆ ในปี 2012 โดย Cashmore คาดเดาเทคโนโลยีที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้น ดังนี้

1. Touch Computing – วิธีการป้อนข้อมูลแบบใหม่ที่ใช้การสัมผัสจะกลายเป็นวิธีการหลักในปี 2555 นี้ ซึ่งการสัมผัสจะกลายเป็นวิธีการที่มาทดแทนวิธีเดิม ดังที่การแสดงผลแบบกราฟฟิกสวยงามเคยเข้ามาแทนการพิมพ์ชุดคำสั่งในยุคก่อน ดังนั้นเมาส์ก็อาจจะถูกทดแทนด้วยการสัมผัสก็เป็นได้ ซึ่งตัวชี้ก็คือการพัฒนาระบบปฏิบัติการที่เน้นรองรับการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น OS X หรือ Windows 8 ต่างก็ได้รับการต่อยอดมาจากระบบปฏิบัติการบนมือถือ



2. Social Gestures – การแบ่งปันหรือแชร์ข้อมูลให้คนอื่นทราบจะกลายเป็นเรื่องปกติ ต่อไปนี้เวลาเราฟังเพลง ดูหนัง หรืออ่านหนังสือบนโลกออนไลน์ ข้อมูลกิจกรรมเหล่านี้จะถูกแจ้งให้เพื่อนเราทราบผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เราได้อนุญาตไว้ แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้ก็อาจจะเกิดอาการผวาในเรื่องความเป็นส่วนตัวก็ได้



3. NFC และ Mobile Payments – ในปีนี้น่าจะเป็นปีที่ mobile payment เติบโตอย่างงดงามโดยเฉพาะเทคโนโลยี NFC ซึ่งเราอาจจะเห็นในรูปแบบของการใช้โทรศัพท์ที่รองรับ NFC ในการชำระเงินที่จุดต่างๆ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าในปี 2556 ทุกๆ 1 ใน 5 ของโทรศัพท์จะรองรับ NFC ด้วย



4. Beyond iPad – ในขณะที่ Touch Computing เติบโตโดยมี iPad เป็นเจ้าตลาด Kindle Fire ของ Amazon กลับผงาดขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่ต้องจับตามองได้ โดยเฉพาะช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมาที่ยอดการซื้อ Kindle Fire กระโดดขึ้นมาจนน่าตกใจ สิ่งทีสำคัญที่ทำให้ Kindle Fire และ Amazon น่ากลัวก็คือการมีฐานของข้อมูลที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์, หนังสืออีบุ๊ค, รายการทีวี และคอนเทนต์รูปแบบอื่นๆ ที่ Amazon รองรับอยู่แล้ว ซึ่งคอนเทนต์เหล่านี้มีพลังมากกว่าแค่ตัวเครื่อง ซึ่ง Amazon อาจจะกลายเป็นแพลทฟอร์มสำหรับนักพัฒนาที่สามารถต่อกรกับ iPad ได้



5. TV Everywhere – (สำหรับตลาดในประเทศตะวันตกเป็นหลัก) ในขณะเราเริ่มคุ้นเคยกับการดูวิดีโอหรือคลิปต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์และคิดว่ารายการทางเคเบิ้ลหรือทีวีทั่วไปกำลังจะได้รับความนิยมลดลง บริษัทยักษ์ใหญ่หลายๆ รายก็ได้เริ่มปรับตัวและเปิดให้เราสามารถดูรายการต่างๆ บนอุปกรณ์พกพาได้ด้วย ซึ่งการสมัครเพียงครั้งเดียวจะทำให้ผู้บริโภคสามารถดูรายการต่างๆ ได้หลากหลายช่องทางและทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจไม่ยกเลิกการสมัครเป็นสมาชิกบริการเหล่านี้



6. Voice Control – การสั่งงานหรือควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยเสียงกลับมาฮือฮาอีกครั้งกับการมาของ Siri บน iPhone 4S ซึ่งด้วยความสามารถที่เหนือชั้นมากขึ้นจึงทำให้กระแสนี้กลับมาบูมและแน่นอนว่าผู้ให้บริการ ผู้พัฒนาและผู้ผลิตอีกมากมายจะกระโดดลงมาสู่เส้นทางนี้อย่างแน่นอน



7. Spatial Gesture – นอกจากการสัมผัสที่กำลังมานั้น การควบคุมด้วยการเคลื่อนไหวก็กำลังจะเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน ลองนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Minority Report ที่ Tom Cruise ขยับมือในอากาศเพื่อสั่งงานคอมพิวเตอร์ดู นั่นแหละครับคือกระแสที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากที่ Kinect ของ Microsoft ได้เกิดขึ้นและมีนักพัฒนาจำนวนไม่น้อยได้พยายามดัดแปลงเอาไปใช้งานในรูปแบบอื่นๆ



8. Second-screen Experiences – ประสบการณ์การใช้งานจอที่สองกำลังจะเกิดขึ้น ลองนึกว่าคุณกำลังดูโทรทัศน์โดยมี iPad ในมือแล้วคุณใช้ iPad ฟังเสียงรายการที่เปิดอยู่ จากนั้นบนจอ iPad ก็แสดงผลคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับรายการนั้นๆ ทันที บริการดังกล่าวเริ่มมีให้เห็นแล้ว เช่น Disney ที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับภาพยนตร์เรื่อง The Lion King หรือ Bambi ซึ่งบริการรูปแบบนี้น่าจะมีให้เห็นมากขึ้นในปีนี้



9. Flexible Screens – ถึงเวลาของหน้าจองอได้แล้ว Nokia และ Samsung ออกมาประกาศแล้วว่าจะมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้หน้าจอที่ยืดหยุ่นออกมาให้เห็นในปีนี้ ซึ่งการใช้งานอาจจะเอื้อต่อการซูมเข้าออกเวลาดูรูป หรือการเลื่อนหน้าด้วยการบิดจอ แต่การงอระดับที่จะม้วนจอเก็บในกระเป๋ากางเกงได้นั้นคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีทีเดียว



10. HTML5 – เราได้ยินชื่อนี้มานานแล้ว แต่คงถึงเวลาที่ HTML5 จะเกิดอย่างจริงจังเสียที ซึ่งความนิยมของ iOS และ Android ก็มีส่วนช่วยผลักดันไม่น้อย เพราะการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบน HTML5 จะช่วยให้การแสดงผลต่างๆ อยู่ในคุณภาพที่ดีมากและไม่ขึ้นกับระบบปฏิบัติการ นั่นหมายถึงว่านักพัฒนาสามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพียงครั้งเดียวแล้วให้แสดงผลได้ทั้งบน iOS และ Android พร้อมๆ กัน



แม้นี่จะเป็นเพียง 10 รายการ ท่ามกลางนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีอยู่อีกเป็นร้อยเป็นพัน แต่ก็เป็นที่น่าจับตามองว่าแล้วชีวิตเราจะต้องเปลี่ยนไปในรูปไหนอีก สิ่งสำคัญก็คือเราควรรู้จักเทคโนโลยีเหล่านี้ไว้ เพราะแม้เราจะไม่สิ่งไปหามัน แต่มันก็จะหาทางเข้ามาสู่ชีวิตเราจนได้ไม่ช้าก็เร็ว

แหล่งที่มา   นสพ. M2F วันพฤหัสบดีที่ 19 ม.ค. 55 (068),  เว็บไซต์ thumbsup.in.th

วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

คิงส์ตันเปิดตัว Wi-Drive 64GB

คิงส์ตันเปิดตัว ไดร์ฟเก็บข้อมูลเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สาย รองรับทั้งแท็บเล็ตและสมาร์ตโฟน

บริษัท คิงส์ตัน เทคโนโลยี ประเทศไทย เปิดตัว แอพพลิเคชั่นล่าสุดเพื่อการใช้งาน Wi-Drive บน Kindle Fire และ Wi-Drive ขนาด 64GB ที่จะวางจำหน่ายในปลายเดือน มี.ค.ที่จะถึงนี้ รวมถึงอัพเดตฟรีสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์ Apple ที่รองรับทั้ง AirPlay และ DRM

Kingston Wi-Drive เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพาชนิดไร้สาย สำหรับแท็บเล็ตและสมาร์ตโฟน ไม่ว่าจะเป็น Kindle Fire, Apple iPhone, iPad และ iPod touch ที่ให้ผู้ใช้สามารถจัดเก็บและแบ่งปันเนื้อหาในแบบไร้สายกับผู้ใช้อื่นๆ ได้ถึง 3 คนพร้อมกัน การันตีความคุ้มค่าด้วยคุณภาพระดับรางวัล สามารถใช้กับ Kindle Fire แท็บเล็ตระบบแอนดรอยด์ และด้วยแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุดที่ดาวน์โหลดได้จาก Amazon Appstore for Android ทำให้ผู้ใช้ Kindle Fire สามารถเพิ่มความจุในการจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นจากเดิม ไม่ว่าเป็นการจัดเก็บและแบ่งปันภาพถ่าย วิดีโอ ไฟล์เพลง และอื่นๆ ซึ่งความสามารถในการอัพเดต App ด้วยความจุขนาดใหม่ โดดเด่นด้วยดีไซน์เล็กกะทัดรัด สะดวกในการพกพา ด้วยเทคโนโลยีแฟลชเพื่อการจัดเก็บข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ที่รองรับระบบ USB

ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ไฟล์เหล่านี้ได้ด้วยสัญญาณไร้สายในตัวของ Wi-Drive โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือสายสัญญาณใดๆ


แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 17 มกราคม 2555 เวลา 17:15 น.

เลือกเคสให้สมาร์ตโฟนกันเถอะ

มารู้จักคุณสมบัติของ"เคส"สมาร์ตโฟนแต่ละแบบเพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้ตรงใจและการใช้งานมากที่สุด

คนเราแต่งตัวให้เก๋กู๊ดได้อย่างไร สมาร์ตโฟนสุดรักสุดหวงของเราก็สวยเจิดด้วย “เคส” ได้อย่างนั้น ซึ่งนอกจากจะเป็นเหมือนเครื่องประดับอีกชิ้นหนึ่งแล้ว เคสที่ดียังจะช่วยกันกระแทกและป้องกันรอยขีดข่วนรอบตัวเครื่องได้อีกด้วย “เคส” ในท้องตลาดมีหลายเรตราคาให้เลือกได้ตามใจ ตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน ว่าแล้วก็มาทำความรู้จักเคสแต่ละแบบก่อนดีกว่า

1.ฮาร์ดเคส
เป็นเคสลักษณะแข็งแรง ทนทาน มั่นใจได้ว่ากันกระแทกได้ดี แถมไม่ทำให้ตัวเครื่องเหนียวเหนอะเวลาหยิบจับ แต่ความแข็งไม่ยืดหยุ่นของฮาร์ดเคสก็ทำให้เกิดข้อเสียที่ต้องระวังคือ อาจทำให้เกิดการเสียดสีกับตัวเครื่องจนเกิดเป็นรอยขณะที่เราใส่และถอดเคส แถมบางชิ้นยังลำบากในการต่อกับอุปกรณ์เสริม อย่างที่ชาร์จแบตในรถ เป็นต้น

ดังนั้น หากอยากใช้ฮาร์ดเคส ก่อนใส่ควรลองลูบขอบๆ ว่าคมหรือไม่ หรือจะให้ดีควรหุ้มฟิล์มกันรอยทั้งเครื่องก่อนก็ถือว่าจะช่วยป้องกันได้ดีที่สุด

2.ซอฟต์เคส
คือเคสแบบอ่อนนุ่ม มีน้ำหนักเบา และเนื่องด้วยทำจากซิลิโคน ซอฟต์เคสจึงมีความยืดหยุ่นสูง ใส่และถอดจากเคสได้ง่าย หมดกังวลว่าเครื่องจะเป็นรอย และราคาก็แสนย่อมเยา (สามารถเปลี่ยนได้บ่อยตามใจอยาก) แต่ข้อเสียก็คือ ซอฟต์เคสจากซิลิโคนจะทำให้เครื่องเหนียวนิดหน่อย แถมยังชอบดูดเอาสิ่งสกปรกอย่างฝุ่นหรือคราบแป้งไว้ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ มักไม่ค่อยพอดีเป๊ะกับตัวเครื่องและขาดง่าย

3.เคสหุ้มรอบด้าน
เป็นเคสที่ดูแลสมาร์ตโฟนราวกับอยู่ในรถถังชนิดที่กันกระแทก และหายห่วงเลยว่าหน้าจอจะได้รับอันตรายหากบังเอิญตกลงพื้น แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องรอยรอบตัวเครื่อง ที่สำคัญยังปรับให้เป็นฐานตั้งสมาร์ตโฟนของเราได้อีกด้วย แต่ข้อเสียของเคสปิดหน้าหลังแบบนี้คือ ยังไม่ค่อยมีแบบสวยๆ โดนๆ น่ะสิ
ส่วนเรื่องสีสันและลวดลายก็เลือกได้ตามใจชอบ อาจดูให้แมตช์กับหูฟังหรือกระเป๋าที่ใช้เป็นประจำ จะแบบไหนไม่ว่ากัน

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 17 มกราคม 2555 เวลา 21:29 น.

จะทำอย่างไรถ้า iPhone ตัวโปรดตกน้ำหรือเกิดความชื้น ?


ตัวอย่างจากคลิปวีดีโอ จะทำอย่างไรเมื่อ iPhone ตกน้ำ สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ ตั้งสติ อย่าตกใจ หลังจากนั้นให้ทำตามวิธีการ 3 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
  1. หยิบ iPhone ขึ้นมาจากน้ำ จากนั้นให้กดปุ่ม Power On/Off เพื่อปิดการทำงานของ iPhone (iPad และ iPod ก็ทำแบบเดียวกัน)
  2. เมื่อปิดเครื่องเรียบร้อยแล้ว ให้ถอดซิมการ์ดออกจากเครื่อง (กรณีที่เป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออื่น ก็ให้ถอดแบตเตอรี่ออกด้วย)
  3. จับ iPhone ลงถุงหรือถังข้าวสาร  จากนั้นทิ้งไว้ 2-3 วัน (ข้าวสารจะดูดความชื้นให้หายไปจนหมด) แล้วทดลองเปิดเครื่องดู ว่าทำงานปกติหรือไม่
 
หากใช้วิธีการดังกล่าวแล้วยังไม่ได้ผล iPhone ตัวโปรดก็ยังไม่สามารถคืนชีพกลับมาได้ ทางออกสุดท้ายก็คือ ต้องนำเครื่องส่งศูนย์  โดยทาง Apple จะมีเงื่อนไขการรับประกันอยู่ว่า การเสียหายที่เกิดจากผู้ใช้งาน แม้ว่าจะอยู่นอกเหนือประกันของทาง Apple แต่ทาง Apple ก็มีการช่วยเหลือกรณีเครื่องเสียจากอุบัติเหตุ รวมถึงการตกน้ำเช่นกัน วิธีการก็คือ ให้นำเครื่องมาแลกซื้อเครื่องใหม่ที่เป็นเครื่องเคลม Model LL เช่นเดียวกับที่เคลมให้กับเครื่องที่มีปัญหาจากการใช้งานปกติ

แหล่งที่มา  เว็บไซต์กระปุกดอทคอม

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

แว่นตาสุดล้ำ"เล่นเน็ตเช็กเมล"

บริษัทไอทีในอิสราเอลคิดค้นแว่นตาสุดไฮเทคที่สามารถเล่นเน็ต เช็คเมล ชมภาพยนต์โดยควบคุมด้วยสายตา

ยิ่งเทคโนโลยีก้าวล้ำไปข้างหน้ามากขึ้น ก็ดูเหมือนว่าขนาดของอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ก็จะยิ่งเล็กลง และมีประสิทธิภาพมากขึ้นทุกขณะ และในอนาคตอันใกล้นี้ ก็จะมีแว่นตาไฮเทคที่สามารถทำงานได้เหมือนคอมพิวเตอร์ออกมาจำหน่าย โดยแว่นตาไฮเทคนี้มีชื่อว่า พีดี 18-2 ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัทลูมัสของอิสราเอล

ทั้งนี้ พีดี 18-2 มีศักยภาพเหมือนกับคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งที่สามารถเล่นเน็ต เช็กอีเมล ดูหนัง หรือแม้กระทั่งควบคุมได้โดยการใช้สายตา ซึ่งที่ทำได้เช่นนี้เพราะมีไมโครชิปขนาดเล็กที่ติดอยู่ข้างขาแว่นดังกล่าวอยู่

ที่สำคัญ ภาพที่เห็นขณะใช้งานจะไม่บดบังทัศนวิสัยในการมองสิ่งต่างๆ รอบตัวของผู้ใช้ เพราะภาพที่เห็นจะเป็นลักษณะโปร่งแสง ทำให้สามารถใช้ในขณะขับรถและเดินไปด้วยได้

นอกจากนั้น เลนส์ของแว่นตานี้ก็ทำขึ้นจากเลนส์แก้วชนิดพิเศษ ซึ่งทำให้ภาพที่แสดงออกมานั้นคมชัดมาก เห็นอย่างนี้แล้ว พูดได้คำเดียวว่า “สุดยอด”


แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 17 มกราคม 2555 เวลา 13:24 น.

ฟรี 50 แอพพลิเคชั่นเจ๋ง ๆ สำหรับ iPhone ต้อนรับปี 2012

เว็บไซต์ Techradar.com เว็บไอทีชื่อดังจากเกาะอังกฤษได้จัดอันดับแอพพลิเคชั่นยอดเยี่ยมจำนวน 50 แอพพลิเคชั่น ที่เป็นแบบฟรีบน iPhone, iPad และ iPod โดยทั้ง 50 แอพฯ จะแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ตามการใช้งาน เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์, การเดินทาง, ข่าว, ถ่ายภาพ เป็นต้น และหากเพื่อนๆ สนใจแอพตัวไหนก็ให้ก๊อปปี้ชื่อแอพฯ แล้วไปค้นหาที่ App Store ได้เลย ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่าว่า ทั้ง 50 แอพพลิเคชั่นนั้น จะมีอะไรกันบ้างมาดูกัน
  1. Facebook แอพพลิเคชั่นที่ขาดไม่ได้สำหรับคอโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพราะทุกวันเฟซบุ๊กระบาดไปทั่วทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะมองซ้ายหรือแลขวาใครๆ ก็พาเล่นเฟซบุ๊กกันทั้งนั้น จึงไม่แปลกที่แอพพลิเคชั่นตัวนี้จะถูกยกให้เป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆ ของผู้ใช้งานทั่วโลก
  2. Gorillacam หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับแอพพลิเคชั่นตัวนี้ แต่ขอบอกว่าหน้าที่ของมันนั้นสุดยอดมาก เป็นแอพพลิเคชั่นที่ทำหน้าที่เหมือนกับขาตั้งกล้องและสามารถตั้งเวลาถ่ายรูปได้ เหมาะกับในกรณีที่ไม่มีคนถ่ายรูปให้
  3. RunKeeper แอพพลิเคชั่นสำหรับคนชอบออกกำลังกาย ไม่ว่าจะวิ่ง เดินหรือขี่จักรยาน แอพพลิเคชั่นตัวนี้จะใช้ความสามารถ GPS บน iPhone ที่จะบันทึกเส้นทางการวิ่งในรูปแบบแผนที่ และบอกเวลาพร้อมทั้งจำนวนพลังงานที่เผาผลาญแคลอรี่ และยังสามารถเพิ่มประเภทการออกกำลังเข้าไปได้เองอีกด้วย
  4. Stanza แอพพลิเคชั่นสำหรับคนชอบอ่านหนังสือ นิยายต่างๆ สามารถใช้แอพฯ ตัวนี้ค้นหาหนังสือที่คุณชื่นชอบและสามารถดาวน์โหลดมาเก็บไว้อ่านได้
  5. Dropbox แอพพลิเคชั่นช่วยให้คุณสามารถซิงค์ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เข้ากับอุปกรณ์พกพาต่างๆ ผ่านบริการของ Dropbox (เป็นบริการเก็บไฟล์ออนไลน์) สามารถอัพโหลด ดาวน์โหลดไฟล์ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เหมือนมีคลังเก็บข้อมูลส่วนตัวออนไลน์
  6. Thetrainline แอพพลิเคชั่นสำหรับผู้ที่ใช้รถไฟเดินทางเป็นประจำเป็นแอพพลิเคชั่นที่แสดงตารางการเดินรถ สถานที่ต่างๆ รวมไปถึงราคาค่าโดยสาร แอพฯ ไม่รองรับการใช้งานในประเทศไทย
  7. Skype แอพพลิเคชั่นอีกตัวที่ไม่ต้องไม่ได้เพื่อให้สมกับที่เป็นยุค 3G จะคุยกันทั้งที ก็ต้องให้เห็นหน้าค่าตากันซะหน่อย เพื่อที่จะได้พูดคุยกันอย่างถูกคอและได้เห็นอากัปกิริยาซึ่งกันและกัน ช่วยประหยัดค่าโทรศัพท์ได้เยอะเลยละ
  8. Movies แอพพลิเคชั่นสำหรับคนรักภาพยนตร์ ที่สร้างความบันเทิงให้กับผู้ใช้งานด้วยการชมภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ได้ผ่าน iPhone รวมถึงรายละเอียดของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง เข้าฉายที่ไหนบ้าง รอบกี่โมง และตำแหน่งแห่งที่ของโรงหนังที่ใกล้ตัวคุณที่สุดให้ทราบอย่างชัดเจน
  9. TonePad แอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้สร้างริงโทนจากเสียงเปียโนและกีต้าร์ สามารถสร้างสรรค์ดนตรีและร่วมอัพโหลดแชร์ไปให้ผู้ใช้งานคนอื่นๆ ได้อีกด้วย
  10. Thomson Reuters News Pro แอพพลิเคชั่นสำหรับข่าว เกาะติดสถานการณ์ผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์ ช่วยให้คุณเข้าถึงข่าวสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วทันใจ
  11. Twitter แอพพลิเคชั่นยอดนิยมอีกตัวในยุค Social Netwoork ดีกรีความแรงไม่แพ้เฟซบุ๊กเช่นกัน เพราะสามารถใช้งานได้ง่ายๆ เหมือนที่เล่นผ่านพีซีทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะโพสต์ข้อความใดๆ หรือจะ "Follow" ทวิตเตอร์ของใคร ก็สามารถทำได้ง่ายมากๆ และไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด
  12. Comics แอพพลิเคชั่นสำหรับคนรักการ์ตูน สามารถอ่านการ์ตูนจากค่ายต่างๆ ได้ผ่านแอพพลิเคชั่นตัวนี้ และสามารถดาวน์โหลดมาเก็บไว้อ่านต่อได้อีกด้วย
  13. Wikipanion แอพพลิเคชันอย่างเป็นทางการของเว็บไซต์ฐานข้อมูลร ะดับโลก Wikipedia ซึ่งพร้อมให้คุณหาข้อมูลของแต่ละบทความได้ในตัว รวมถึงออปชั่นบุ๊คมาร์คเรื่องที่คุณเข้าชมบ่อยๆและกา รทวีตข้อมูลเจ๋งๆ ที่คุณพบแชร์ให้กับเพื่อนๆของคุณ
  14.  Evernote บริการสมุดโน้ตออนไลน์ สามารถบันทึกจัดเก็บได้ออนไลน์ ไม่แปลกที่ Evernote จะกลายเป็นแอพพลิเคชั่นยอดนิยมใช้งานอีกตัวและประสิทธิภาพสามารถบันทึกโน้ตได้จาก กล้อง เสียง ข้อความต่างๆ ได้อีกด้วย
  15.  Kindle iBooks บน iPhone แอพพลิเคชั่นที่ทำหน้าที่เหมือนกับ Kindle ของ Amazon ช่วยให้คุณอ่านหนังสือ ซื้อหนังสือ มาอ่านผ่านแอพพลิเคชั่นตัวนี้
  16. Around Me แอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้คุณได้ทราบว่า ณ ตำแหน่งแห่งหนที่คุณอยู่ในเวลานี้มีสถานที่สำคัญอะไร บ้างในอาณาบริเวณนี้ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร, ผับบาร์, ปั๊มน้ำมัน โดยข้อมูลทั้งหมดนี้จะอิงมาจาก Google Maps และยังมีโหมดแผนที่โลกเสมือนผสานโลกจริงที่ทำให้การดูแผนที่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
  17. Dictionary.com - Dictionary & Thesaurus  แอพพลิเคชั่นพจนานุกรมฟรีจาก Dictionary.com มาพร้อมกับความสามารถครบครันที่ของเสียเงินก็ยังอาจทำไม่ได้ ด้วยคำศัพท์และคำพ้องความหมายกว่า 90,000 คำแถมยังเป็นพจนานุกรมแบบติดตั้งเลยในตัวเครื่องไม่ต้องคอยต่อเน็ตให้เสีย อารมณ์ นอกจากนี้ยังมีเสียงอ่านและสะกดคำมาให้อย่างเต็มที่ผ่าน Interface ภายในตัวโปรแกรมที่ดูเหมาะเจาะกับ iPhone เป็นอย่างดี
  18. Air Video Free แอพพลิเคชั่นที่สามารถสตรีมวิดีโอจากคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ตามที่ใช้งาน Air Video Server โดยโปรแกรมนี้รองรับไฟล์วิดีโอในหลายตระกูลทั้ง AVI, DivX, MKV และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังสามารถแปลงไฟล์ให้เข้ากับเครื่อง iPhone เพื่อการรับชมอย่างเต็มอรรถรสได้อีกด้วย
  19. Adobe Photoshop Express แอพพลิเคชั่นที่เป็นเครื่องมือง่ายๆ สำหรับใช้ตกแต่งภาพแบบเล็กๆ น้อยๆ บน iPhone ของคุณที่สามารถหาดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นฐานอย่างการ Crop ภาพ, ยืด-ขยายภาพ, ปรับความคมชัดภาพ, ปรับแต่งค่าและเอฟเฟกต์สี และอื่นๆ อีกมากมายที่รอให้คุณลองใช้งาน
  20. iHandy Level Free  แอพพลิเคชั่นเจ๋งๆ จากชุดรวมฮิตโปรแกรม iHandy Carpenter สำหรับวิศวกรและสถาปนิกทั้งหลายในการวัดค่าความสมดุล หรือลาดเอียงต่างๆ โดย iHandy Level Free อาศัยหลักการทำงานของ Accelerometer ภายในเครื่อง iPhone เพื่อระบุค่าองศาที่ผิดเพี้ยนไปอย่างแม่นยำ
  21. Read It Later Free แอพพลิเคชั่นที่ช่วยคุณบันทึกหน้าเว็บจากเว็บเพื่อเก็บอ่านได้ในภายหลัง  โดยจะตัดโฆษณาต่างๆ ออก เพื่อเพิ่มความสะดวก
  22. PCalc Lite ถึงแม้ iPhone มีเครื่องคิดเลขติดตั้งมาด้วยอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณอยากมองหาหน้าตาที่ดูดีไปจากเดิมแล้วละก็ไม่ควรพลาดแอพพลิเคชั่นตัวนี้ที่นอกจาก Interface ที่สวยงามกว่าและปุ่มในการคำนวณทางคณิตศาสตร์ขั้นสูง ที่มากกว่าแล้ว ยังมีคุณสมบัติเด็ดๆ อย่างการแปลงค่าวัดและมาตราต่างๆ อีกด้วย
  23. iBooks แอพพลิเคชั่นนี้ผสมผสานทั้งส่วนที่เป็น Reader ซึ่งรองรับการอ่านไฟล์แบบ PDF และ Store ซึ่งมีหนังสือน่าสนใจอีกมากมายให้เลือกซื้อ นอกจากนี้ยังสามารถซิงค์ Bookmark ข้ามไปมาระหว่างอุปกรณ์กันได้อีกด้วย
  24. Red Laser แอพพลิเคชั่นที่สามารถสแกนบาร์โค้ดสินค้าได้อย่างแม่นยำ พร้อมระบุรายละเอียดและราคาสินค้าให้อย่างครบถ้วน
  25. eBay Mobile แอพพลิเคชั่นจาก eBay เว็บไซต์ซื้อขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกบนมือถือของคุณ แอพพลิเคชั่นนี้จะช่วยให้การซื้อขายและประมูลสินค้าผ่านเว็บไซต์ eBay สะดวกขึ้นกว่าเดิม ไม่ให้คุณพลาดทุกช่วงเวลาสำคัญในการจับจ่ายซื้อของ
  26. Tube Map แอพพลิเคชั่นที่แสดงแผนที่รถไฟใต้ดินในลอนดอน เส้นทางเดินรถไฟใต้ดิน  ค้นหาสถานีต่างๆ เสียดายที่ไม่รองรับการใช้งานในประเทศไทย
  27. Google Earth แอพพลิเคชั่นสุดฮิตของ Google ที่ทำให้คุณสามารถเยี่ยมเยือนสถานที่ต่างๆ ทั่วทุกมุม โลกด้วยการกวาดนิ้วไป ตามหน้าจอเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นเลเยอร์จาก Wikipedia และ Panoramio ที่คุณสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดของสถานที่ต่างๆ บนแผนที่ได้อีกด้วย
  28. XE Currency แอพพลิเคชั่นที่เอาไว้ตรวจสอบการแปลง ค่าเงินต่างๆ ให้คุณเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยคุณยังสามารถปรับเปลี่ยนตั้งค่าหน่วยเงินต่างๆ ได้ ตามที่คุณต้องการอีกด้วย
  29. Shazam แอพพลิเคชั่นเหมือนกับมายากล ค้นหาเพลงจากเสียง เพียงคุณนำ iPhone ไปวางไว้ใกล้ๆกับแหล่งที่มาของเสียงเพื่อให้แอพพลิเคชั่น ได้ฟังและประมวลหาผลลัพธ์ของเพลงที่ใกล้เคียงกับที่คุณได้ยินมากที่สุด
  30. Bump การติดต่อหรือการทำความรู้จักกับคนอื่นด้วยการเดินเข้าไปคุยธรรมดาๆ นั้นเป็นเรื่องที่ดูน่าเบื่อหน่ายสำหรับคุณแล้วล่ะก็ ลองเพิ่มความสนุกเข้าไปด้วยการ "บัมพ์" กันหน่อยไหมเอ่ย? การบัมพ์นี่ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่คุณและคนที่จะพูดคุยด้วยเปิดแอพฯ นี้ขึ้นมา จากนั้นก็เลือกข้อมูลที่จะส่งให้กัน อาจจะเป็นภาพ เพลง หรือข้อมูลใดๆ ก็ได้ และจัดการมากระแทกมือกันเบาๆ เพียงเท่านี้ข้อมูลต่างๆ ก็จะถูกส่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งแล้ว
  31. Yell.com แอพพลิเคชั่นที่เป็นเครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลแผนที่ที่กรุงลอนดอนแบบแผนที่ท้องถิ่นที่ทำให้เข้าถึงข้อมูลทางธุรกิจและเว็บไซต์ทางธุรกิจ แสดงที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์และแผนที่ในท้องถิ่นมีรายละเอียดต่างๆ และเส้นเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆ
  32. BBC News แอพพลิเคชั่นจากข่าว BBC News ช่วยให้คุณเข้าถึงเว็บไซต์ข่าวผ่านทาง iPhone เกาะติดข่าวสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วทันใจ
  33. Find My iPhone แอพพลิเคชั่นที่ผู้ใช้งาน iPhone ทุกคนต้องติดตั้ง เพราะมันจะช่วยในกรณีที่ iPhone ของคุณหาย ช่วยค้นหาและแสดงตำแหน่งบนแผนที่ เมื่อคนที่ขโมยไปเปิดใช้งาน
  34. Dragon Dictation ถ้าเบื่ออกับการพิมพ์ข้อความต่างๆ บนแป้นเล็กๆ บน iPhone ลองใช้แอพพลิเคชั่นตัวนี้ที่จะคอยรับคำสั่งเสียงเขียนตามคำบอก และจะแปลงออกมาเป็นข้อความ ใช้งานได้หลากหลายร่วมกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ เช่น Facebook, Twitter และ Mail
  35. iHandy Torch Free แอพพลิเคชั่นไฟฉายที่จะเปลี่ยนหน้าจอ iPhone ของคุณให้กลายเป็นไฟนีออนหลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับให้ประกอบเวลาถ่ายภาพตอนกลางคืน หรือใช้เป็นไฟฉายในยามขับขันได้
  36. TVGuide.co.uk TV Guide แอพพลิเคชั่นที่เป็นทีวีไกด์ ตรวจสอบรายการทีวีที่น่าสนใจจากช่องต่างๆ ทำให้คุณไม่พลาดรายโปรดของคุณ สามารถติดตามได้ตลอดเวลาจาก iPhone
  37. Zoopla Property Search แอพพลิเคชั่นสำหรับดูราคาการซื้อขาย ประมูลบ้าน สถานที่ต่างๆ ที่ต้องการ โดยสามารถประมูลผ่านแอพพลิเคชั่นตัวนี้ได้ทันที
  38. IM+ แอพพลิเคชั่นอีกตัวที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน หน้าที่ของแอพฯ เป็นโปรแกรมแชทแบบ All-in-one นั้นเอง ซึ้งรองรับ Instant Messaging หลายตัวด้วยกัน เช่น GTalk, Yahoo, MSN/Live Messenger, AIM/iChat, ICQ, MySpace, Twitter, Facebook, และ Jabber เพียงแค่ใช้แอพพลิเคชั่นนี้ตัวเดียวก็ครอบคลุมโปรแกรมแชตทั้งหมดแล้ว
  39. Atomic Web Browser Lite  แอพพลิเคชั่นที่ทำหน้าที่เป็นเว็บเบราว์เซอร์ให้เราท่องเว็บได้สะดวกยิ่งขึ้น มาพร้อมฟังก์ชั่นการทำงานพื้นฐานและการทำงานที่รวดเร็ว
  40. Virtuoso Piano Free 3 แอพพลิเคชั่นที่จำลอง iPhone ของเราให้กลายเป็นเปียโนขนาดเล็ก ช่วยให้เราเพลิดเพลินกับเสียงเปียโน นอกจากนี้ยังสามารถแก้ไขปุ่มต่างๆ เพื่อกำหนดเสียงและการใช้งานได้รวดเร็ว
  41. TuneIn Radio แอพพลิเคชั่นสำหรับฟังวิทยุออนไลน์ ที่มีสถานีให้เลือกฟังถึง 50,000 สถานี สนับสนุน AirPlay และสามารถใช้เป็นนาฬิกาปลุก
  42. 4oD Catch Up แอพพลิเคชั่นที่ใช้สำหรับดูคลิปวีดีโอ, หนัง, รายการย้อนหลังจากช่อง Channel 4, E4 และ More4  รองรับการใช้งานทั้ง iPhone, iPad และ iPod
  43. Jamie's Recipes แอพพลิเคชั่นสำหรับคนชอบทำอาหารหรือคิดเมนูอาหารไม่ออก ลองใช้แอพพลิเคชั่นตัวนี้ดู เพราะได้รวบรวมเมนูอาหารนานาชนิดไว้ให้แล้วพร้อมกับวิธีการทำ ส่วนประกอบต่างๆ และที่พิเศษยังมีคลิปวีดีโอให้ดูด้วย
  44. Instagram แอพพลิเคชั่นสุดฮิตสำหรับคนชอบถ่ายภาพ กลายเป็นแอพพลิเคชั่นที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 15 ล้านคนทั่วโลก แอพพลิเคชั่นตัวนี้ทำให้หลายคนกลายเป็นช่างภาพมืออาชีพแบบไม่รู้ตัวและสามารถสร้างรายได้อีกด้วย ใครที่ใช้ iPhone แล้วไม่ได้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นตัวนี้ถือว่าเชยสุดๆ
  45. Google Translate แอพพลิเคชั่นจากกูเกิล ช่วยแปลภาษาได้มากถึง 57 ภาษาทั่วโลก นอกจากจะพิมพ์เพื่อสั่งให้แปลแล้ว แอพพลิเคชั่นตัวนี้ยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียงอีกด้วย เพียงแค่พูดระบบก็จะแปลเป็นข้อความออกมาให้
  46. iMotion HD แอพพลิเคชั่นที่ช่วยสร้างวีดีโอ เอนิเมชั่นแบบ stop-motion แบบ HD และสามารถแปลงออกเป็นไฟล์วีดีโอแบบ HD 720p และยังสามารถอัพโหลดไฟล์ที่ทำเสร็จแล้วขึ้น Youtube ได้อีกด้วย
  47. TED แอพพลิเคชั่นจาก TED Conferences ที่รวบรวมเรื่องราวต่างๆ มากมาย เป็นแหล่งความรู้ แนวคิดต่างๆ จากเหล่าวิทยากรมืออาชีพ ดูเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจ เราสามารถเลือกชมคลิปวีดีโอตามประเภทการบรรยายต่างๆ ได้
  48. Remote แอพพลิเคชั่นที่ใช้ร่วมกับ Apple TV ใช้ควบคุมระยะไกล หรือเป็นรีโมตสำหรับการควบคุม Apple TV นั้นเองและสามารถทำงานร่วมกับ AirPlay ได้
  49. Skyscanner แอพพลิเคชั่นที่ให้เราสามารถตรวจสอบเที่ยวบิน ตารางบิน ราคาตั๋วเครื่องบิน ที่มีสายการบินถึง 600 สายการบิน สามารถตั๋วเครื่องบินได้โดยตรงหรือจากตัวแทนจำหน่ายผ่านแอพพลิเคชั่นตัวนี้ได้ทันที ช่วยเพิ่มความสะดวกและประหยัดค่าใช้งานไปเยอะเลยทีเดียว
  50. Apple Store แอพพลิเคชั่นตัวสุดท้ายที่เหล่าสาวกไม่ควรพลาด เป็นแอพพลิเคชั่นจาก Apple ที่ยก Apple Store มาไว้บน iPhone ให้เราสามารถซื้อผลิตภัณฑ์จากแอปเปิ้ลได้ผ่านแอพพลิเคชั่นตัวนี้ ช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถช๊อปปิ้งจาก Apple Store ได้ตลอดเวลา
  
สุภาษิตที่ว่า "ของฟรีไม่มีในโลก"  นั้นอาจจะไม่จริงเสมอไป อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้กับอะไร (แอพฯ อะไร) ในสถานการณ์ใด หากเราต้องการตอบโจทย์ในการทำงานอย่างจริงจัง ก็ควรเลือกที่จะซื้อ แต่ถ้าใช้กับขำขำเล่นๆ แอพพลิเคชั่นฟรี ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าพอใจ

แหล่งที่มา  เว็บไซต์กระปุกดอทคอม

ROG TYTAN เกมมิ่ง พีซี แรงส์!

เอซุสเปิดตัวพีซีเพื่อคอเกมฮาร์ดคอร์ "ROG TYTAN GAMING CG8565" ที่มาพร้อมสเปกที่ "สุด" ทุกๆด้าน

เอซุส เปิดตัว เดสก์ท็อป พีซี “ROG TYTAN GAMING CG8565” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “TYTAN” (ไท-ทัน) เป็นการรวมตัวกันของสุดยอดองค์ประกอบขั้นเทพ อาทิ มาเธอร์บอร์ดคุณภาพระดับฮาร์ดคอร์ของเอซุส มาพร้อมด้วยระบบ Digi+VRM ที่ช่วยควบคุมการใช้พลังงานของ DRAM ทำให้การควบคุมการจ่ายไฟแบบดิจิตอลมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น และทำให้การปรับแต่งระบบสามารถทำได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
ไท-ทัน สามารถโอเวอร์คล็อก ซีพียู ได้ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว สามารถเร่งประสิทธิภาพการทำงานของ CPU ได้ถึง 4.6GHZ โดยไม่จำเป็นต้องรีบู๊ตเครื่อง

นอกจากนี้ วิศวกรเอซุสเลือกที่จะใส่ Dual-SSD เพื่อการบู๊ตเครื่องและการทำงานของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ให้เร็วยิ่งขึ้น สามารถแสดงผลและรองรับระบบ 3 มิติ ด้วยการ์ดจอของ ASUS GTX590 Dual GPU ซึ่งใช้เทคโนโลยีของเอ็น-วีเดีย เพิ่มความเสถียรในการทำงานของตัวเครื่องด้วยการออกแบบโครงสร้างและระบบระบายความร้อนภายในเครื่องอย่างพิถีพิถัน ด้วยการใช้พัดลม 5 ตัว พร้อมเทคโนโลยี Liquid Cooling ช่วยระบายความร้อน และแน่นอนความสมบูรณ์พร้อมอรรถรสของการเล่นเกมจะถูกเติมเต็มด้วยการออกแบบอย่างพิถีพิถันของเทคโนโลยีระบบเสียงจากเอซุส ซาวด์การ์ด โซน่า ดีเอ๊กซ์ เพื่อให้คอเกมสัมผัสได้ถึงสุดยอดของพลังเสียง

ราคา 89,900 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)


แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 17 มกราคม 2555 เวลา 11:52 น.

"ifidie" แอพฯใหม่ฝากข้อความหลังตาย

นักพัฒนาจากอิสราเอลคิดค้นแอพพลิเคชั่นใหม่ฝากข้อความหลังความตายผ่านเฟซบุ๊ก


เพื่อตอกย้ำให้เห็นว่าเฟซบุ๊กเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนยุคดิจิตอลตั้งแต่เกิดจนตายอย่างแท้จริง งานนี้เลยมีกลุ่มนักพัฒนาในอิสราเอลคิดค้นแอพพลิเคชันใหม่ยอดไฉไล ที่ชื่อ "ifidie" ด้วยการเริ่มต้นกับคำถามง่ายๆ แต่ตอบได้ยากว่า “ถ้าฉันตายจะฝากอะไรไว้เบื้องหลัง

การใช้งานแอพพลิเคชันนี้บนเฟซบุ๊กก็เป็นไปแบบตรงตัวตามหัวข้อที่ตั้งไว้ คือการเตรียมข้อความสุดท้าย ซึ่งจะเป็นข้อความธรรมดา เสียง หรือคลิปเสียงประกอบภาพ ตามอัธยาศัยของผู้ใช้ โดยมีข้อแม้ว่าข้อความนี้จะได้รับการเก็บรักษาเป็นความลับอย่างดี และจะไม่มีการเผยแพร่จนกว่าเจ้าของจะโบกมือลาลับจากโลกใบนี้ไป

แน่นอนว่า เพื่อป้องกันความผิดพลาดในประเด็นที่เกิดมีพวกหัวใสนึกสนุกอยากหลอกเพื่อนๆ เล่น ทางทีมงานผู้คิดค้นเลยป้องกันด้วยการให้ผู้สนใจใช้งานแอพพลิเคชันดังกล่าวต้องระบุผู้รับรองการตายจำนวน 3 คนด้วยกัน

หมายความว่า ระบบจะยังไม่ทำการส่งข้อความสุดท้ายที่ผู้ใช้งานทิ้งไว้ให้ จนกว่าผู้รับรองซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นคนที่ผู้ใช้งานไว้วางใจที่สุด ยืนยันว่าการเสียชีวิตเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

ทั้งนี้ ทางทีมผู้คิดค้นแนะนำว่าแอพพลิเคชันดังกล่าวเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้งานซึ่งเพิ่งจะล่วงลับสามารถร่วมแบ่งปันเรื่องราวในชีวิตหรือความลับที่ไม่เคยคิดจะเปิดเผยที่ไหนมาก่อนให้กับกลุ่มเพื่อนได้รับทราบ ซึ่งข้อความสุดท้ายอาจจะเป็นเซอร์ไพรส์ที่สร้างความประทับใจระคนประหลาดใจ พร้อมเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนที่รักและห่วงใยเป็นครั้งสุดท้าย



แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 16 มกราคม 2555 เวลา 20:40 น.

วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

หูฟังใหม่เสียงชัดใส

บริษัทในสหรัฐเปิดตัวนวัตกรรมหูฟังรุ่นใหม่ใช้การส่งสัญญาณเสียงผ่านแก้ม แถมยังช่วยให้ได้ยินเสียงภายนอกชัดเจน ต่อแต่นี้ไปรูปแบบการฟังเพลงของมนุษย์ก็จะยิ่งสมบูรณ์แบบขึ้น เพราะในสัปดาห์หน้านี้บริษัทแห่งหนึ่งในสหรัฐได้มีแผนที่จะเปิดตัวหูฟังของเครื่องเล่นเพลงชนิดใหม่ออกมาซึ่งมีชื่อว่า “อาฟเตอร์โช้ก” ในงานแสดงสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งจะจัดขึ้นที่ลาสเวกัส

คุณสมบัติของหูฟังรุ่น “อาฟเตอร์โช้ก” นั้นพิเศษกว่าหูฟังรุ่นอื่นๆ ที่วางจำหน่ายทั่วไปตรงที่มีการนำเทคโนโลยีการได้ยินเสียงผ่านกระดูกเข้ามาใช้ ซึ่งจะทำการส่งสัญญาณเสียงผ่านทางแก้มเพื่อให้เสียงนั้นผ่านเข้าไปยังหูชั้นในของผู้ใช้ ดังนั้นเสียงที่ผู้ใช้จะได้ยินจึงมีความนุ่มลึกและชัดเจนกว่าที่เคยได้ยินมา ซึ่งเคยถูกนำมาใช้ในภารกิจทางการทหารมาสักระยะหนึ่งแล้ว

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย โดยฟังเพลงไปด้วยโดยผ่านทางหูฟังนั้นอาจเคยประสบปัญหาว่าในขณะวิ่งอยู่นั้นตนเองไม่ได้ยินเสียงแตรรถหรือเสียงรอบข้าง ทำให้ถูกรถที่ขับอยู่เฉี่ยวชนเอา ซึ่งหูฟังรุ่นใหม่นี้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะช่วยให้ผู้ใช้ยังคงได้ยินเสียงด้านนอกไปด้วยได้ในขณะฟังเพลง และที่สำคัญกว่านั้นคือ เสียงที่ได้ยินในหูฟังนั้นแทบจะไม่เล็ดลอดออกไปข้างนอกเลย แม้จะเปิดเสียงดังก็ตาม เห็นอย่างนี้แล้วเหล่าบรรดาสาวกผู้รักเสียงเพลงคงไม่พลาดที่จะมีไว้สักอัน

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 11 มกราคม 2555 เวลา 17:25 น.

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

ดูหนังถูกลิขสิทธิ์ผ่าน Set Top Box

เอสเอ็นเอ เทคโนโลยี เปิดตัวบริการเช่าวิดีโอออนไลน์ผ่านกล่อง "Set Top Box" ที่ให้ความชัดระดับ HD  ปรากฏการณ์ล่าสุดในความร่วมมือของ สมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย และบริษัท เอสเอ็นเอ เทคโนโลยี จัดงานแถลงข่าวและเปิดตัวโครงการ SNA @ Home Video Rental เพื่อแก้ปัญหาและป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ โดยได้เปิดตัวบริการเช่าวิดีโอออนไลน์รูปแบบใหม่ผ่านทางกล่อง SET TOP BOX

ปัจจุบัน ภาพยนตร์ โทรทัศน์ เพลง วิทยุ ดนตรี สิ่งพิมพ์ นิวมีเดีย และการแสดงสดต่างๆ เป็นต้น ที่สามารถชมได้ทั้งทางโรงภาพยนตร์ ร้านจำหน่าย ร้านเช่าวิดีโอ เกิดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์มากขึ้นและหลากหลายรูปแบบ ทั้งแอบถ่ายในโรงภาพยนตร์เพื่อนำมาผลิตเป็นแผ่นปลอม หนังซูม แผ่นผีซีดีเถื่อน และพัฒนาขึ้นกลายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะผ่านทาง BITTORRENT และผ่านทางเว็บแหล่งดาวน์โหลดต่างๆ ส่งผลกระทบทำให้รายได้ของอุตสาหกรรมบันเทิงไทยลดลง และเป็นการทำลายความคิดสร้างสรรค์ของผู้ผลิตภาพยนตร์ด้วย จึงเกิดเป็นความร่วมมือนี้ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านนี้

สำหรับตัว SET TOP BOX สามารถเชื่อมต่อทีวี และผ่านอินเทอร์เน็ต ที่มาแบบกล่องพร้อมคีย์บอร์ดไร้สาย และช่อง TV OUT ไว้ต่อกับทีวีภายในบ้านได้ทันที ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 2.3 Gingerbread ที่สามารถเข้าถึงการท่องเว็บไซต์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต สามารถโพสต์ข้อความลง Facebook, twitter, Windows Live Messenger อ่านข่าวออนไลน์ เล่นเกม เช็กอีเมล และครอบคลุมถึงการทำงานเอกสารได้ด้วย มาพร้อมกับซีพียู ARM CORTEX A9 800 MHz , RAM 512 MHz , หน่วยความจำในตัวถึง 2GB รับชมภาพยนตร์คมชัดแบบ HD ความละเอียดสูงสุดถึง 1080P

เป็นที่น่ายินดีว่าเทคโนโลยีถูกพัฒนาโดยวิศวกรชาวไทย ที่นำเอารายการต่างๆ ที่มีลิขสิทธิ์อย่างถูกต้อง มาให้เช่าทางระบบสื่อสารไร้สาย ในแบบ Real Time สามารถดูรายการต่างๆ ที่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์จำนวน 300 เรื่อง และดูรายการ Pay on Demand ให้เลือกดูตามที่ชอบ ในราคา 10-30 บาทต่อเรื่อง ซึ่งระบบดังกล่าวได้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมรายการ อาทิ บริษัท ยูไนเต็ด โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ และบริษัท อีวีเอส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ รวมทั้งค่ายหนังอิสระอื่นๆ สนใจติดต่อที่โทร. 02-717-7121, 02-636-6800-1, 02-690-2696 เว็บไซต์ www.te-na.org

ราคา SET TOP BOX ช่วงแนะนำ 6,900 บาท (ปกติ 7,500 บาท)

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 11 มกราคม 2555 เวลา 12:18 น.

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

ตู้เกมอัจฉริยะบังคับด้วยสายตา

สวีเดนคิดค้นตู้เกมสุดล้ำใช้สายตาควบคุมการเล่น พร้อมเปิดให้บริการที่นิวยอร์ก

เมื่อ โทบี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการทำงานของสายตาในเทคโนโลยีจากสวีเดนได้คิดค้น “อาย แอสเทอรอยด์” (Eye Asteroids) ตู้เกมสุดล้ำเครื่องแรกของโลกที่ใช้สายตาเล่น!

ตู้เกมที่ว่านี้ใช้เทคโนโลยี “อาย แทรกกิง” หรือการตรวจจับการทำงานของสายตามนุษย์ โดยใช้เซ็นเซอร์อินฟราเรดที่อยู่ใต้หน้าจอทำการสแกนความเคลื่อนไหวของม่านตา

โดยวิธีการเล่นก็ง่ายนิดเดียว ผู้เล่นสามารถกำจัดอุกกาบาตในด้านต่างๆ ด้วยการมองเข้าไปในหน้าจอ โดยเมื่อหันสายตาไปทางใด เมาส์ ซึ่งเป็นตัวควบคุมการทำงานบนหน้าจอก็จะเลื่อนไปตามทิศทางของสายตาของเรา และทำการทำลายอุกกาบาตในเกมให้ในทันทีที่กะพริบตา

สำหรับคนไทยที่อยากไปทดลองเล่นเกมกดด้วยตานี้ คงต้องนั่งเครื่องบินไปเล่นที่ร้านเกมเดฟแอนด์บัสเตอร์ในกรุงนิวยอร์ก แต่คงต้องต่อแถวรอสักหน่อย เพราะตอนนี้มีการผลิตออกมาเพียง 50 ตู้เท่านั้น เหตุเพราะราคาของเจ้าตู้เกมอัจฉริยะนี้สูงถึง 1.5 หมื่นเหรียญสหรัฐ หรือราว 4.5 แสนบาทเลยทีเดียว

ทว่าสำหรับใครได้ลองไปเล่นแล้ว ต้องระวังอย่าเล่นกะพริบตาอย่างหักโหมจนเกินไป ระวัง “ตีนกา” จะถามหาเอาง่ายๆ เดี๋ยวว่าจะไม่เตือน

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 09 มกราคม 2555 เวลา 12:13 น.

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

3แอพ จัดเก็บความทรงจำ

3แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ตโฟน ที่ช่วยให้คุณสามารถบันทึกสารพัดข้อมูลไว้ได้อย่างครบถ้วน

เดี๋ยวนี้หันไปทางไหนก็เห็นแต่คนหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายรูปด้วยกันทั้งนั้น มาจัดเก็บความทรงจำให้อยู่เป็นที่เป็นทางกันดีกว่า โดยใช้ผู้ช่วยตัวสำคัญอย่างแอพพลิเคชั่นของสมาร์ทโฟน ซึ่งวันนี้ Tips ขอแนะนำให้รู้จัก 3 ตัว จะมีอะไรบ้างนั้นตามไปดูกันเลย

1. My InstaAlbum (1.99$)
Instagram เป็นแอพพลิเคชั่นยอดนิยมครองใจคนรักการถ่ายรูป เพราะสามารถแต่งรูปได้หลายแบบตามใจ My InstaAlbum จึงเปรียบเหมือนเป็นผู้ช่วยจัดเก็บรูปของแอพนี้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น ซึ่งเราสามารถย้อนหลังดูรูปโดยเลือกตามวันที่ถ่ายรูปได้

My InstaAlbum

2. Trip Journal (2.99$)
มาบันทึกความทรงจำด้วย Trip Journal ซึ่งสามารถเก็บรูปภาพ วิดีโอ บทความ และติดแท็กสถานที่ที่ไปเยือนได้ แถมยังแชร์การเดินทางผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ เช่น Facebook, Flickr, Picasa, YouTube และ Twitter ได้อีกด้วย

Trip Journal


3. Photo 365 (0.99$)
แอพพลิเคชั่นสำหรับคนที่เบื่อหน่ายการจดบันทึกประจำวันโดยเฉพาะ ซึ่ง Photo 365 จะจัดหน้าแอพคล้ายกับช่องปฏิทินประจำแต่ละเดือน การใช้งานก็ง่ายดายเพียงแค่ถ่ายรูปหรือเลือกรูปที่มีอยู่แล้วในอัลบั้มหนึ่งรูป มาใส่ไว้ในช่องวันที่ (ซึ่งสามารถตั้งเป็นวันที่ปัจจุบัน) จากนั้นจึงเขียนคำบรรยายใต้ภาพ เท่านี้ก็เรียบร้อย Photo 365 ง่ายต่อการใช้งาน และเมื่อกลับมาดูย้อนหลังก็ไม่ต้องกังวลว่าจะงงงวยสับสน เพราะแบ่งเป็นแต่ละเดือน และแชร์ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ รวมถึงอีเมลได้อีกด้วย


Photo 365

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 8 มกราคม 2555 เวลา 11:51 น.

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีทำแผ่นพับจาก word

เปิดโปรแกรม word ขึ้นมาแล้วทำการ 
  1. สร้างหน้าเอกสารเปล่าๆ 2 หน้า
  2. ตั้งค่าหน้ากระดาษเป็นแนวนอน ให้ไปที่ แถบเมนู แฟ้ม > ตั้งค่าหน้ากระดาษ > เลือกเป็นแนวนอน
ส่วนการตั้งระยะขอบ บน กับ ล่าง ไม่มีความสำคัญมากนัก เราจะเน้นที่ซ้าย กับ ขวา โดยจะตั้งไว้ 0.5 นิ้ว แล้วก็ O.K ไปก่อน

  1. การตั้งค่าหน้ากระดาษเราสามารถเลือกเป็น เซนติเมตร หรือ นิ้วก็ได้ โดยไปที่ เครื่องมือ > ตัวเลือกทั่วไป > ตรงที่หน่วยการวัด เราสามารถเปลี่ยนเป็นนิ้วหรือเซนติเมตรได้
  2. เสร็จแล้วให้ไปที่ แถบเครื่องมือ เลือก รูปแบบ > คอลัมน์ แล้ว คลิ๊ก ค่าที่ตั้งไว้ เลือกเป็น สาม ระยะห่าง เลือกเป็น 1 อย่าลืมติ๊กเครื่องหมายถูกตรงที่ ความกว้าของคอลัมน์เท่ากัน แล้วก็ ตกลง
ในส่วนตรงนี้ขออธิบายเพิ่มเติมอีกนิด คือว่าในส่วนที่ตั้ง ซ้าย ขวา ให้เป็น 0.5 นิ้ว และมาตั้ง ตรงระยะห่าง 1 นิ้ว เพราะว่ามันเป็นสัดส่วนของมัน ส่วนใครจะตั้งค่านอกจากนี้ก็ได้ แต่ว่าให้อยู่ตามเกณฑ์นี้ *** ระยะห่าง จะกว้างเป็น สองเท่าของขอบ ***  เช่น ตั้งขอบ ซ้ายขวา ไว้ 0.25 นิ้ว ระยะห่าง ก็จะเท่ากับ 0.5 นิ้ว
ในเรื่องของการลงเนื้อหาของแผ่นพับนั้นหน้าแรกของแผ่นพับนั้น จะต้องไปเริ่มพิมพ์ที่คอลัมน์ที่ 3 (หมายเลข 1) ของแผ่นแรก แล้วก็ใส่เนื้อหาลงไปเรื่อยๆ จนหมดแผ่นที่สอง พอหมดแผ่นที่สองแล้วให้มาเริ่มพิมพ์ที่แผ่นแรกต่อเลยโดยเริ่มจากคอลัมน์แรกแล้วก็ต่อไปจนถึงคอลัมน์ ที่ 2 คอลัมน์ที่สองของแผ่นแรกนั้นจะเป็นด้านหลังสุดของแผ่นพับ ถ้าใครทำถูก เนื้อหาในส่วนแรกกับส่วนสุดท้ายจะมาอยู่ใกล้กัน ในที่นี้ก็คือ คอลัมน์ 2 (หมายเลข 6) กับ 3 (หมายเลข 1) นะครับ ถ้าไม่เข้าใจก็ ดูตามรูปข้างล่างนะ 




สามารถดาวน์โหลดการทำตัวอย่างแผ่นพับได้ที่นี่

ทำความสะอาดจอคอมพ์

วิธีทำความสะอาดก็ไม่ยุ่งยาก แต่ต้องอย่าลืมว่าต้องปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อยก่อนดึงปลั๊กออกด้วยยิ่งมั่นใจในความปลอดภัย  การทำความสะอาดนั้นจะมีน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดตัวคอมพิวเตอร์   เราก็นำผ้ามาชุบน้ำบิดให้แห้งพอหมาด หยดน้ำยาลงไป แล้วเช็ดให้ทั่วทั้งตัวและกรอบ

ข้อควรระวังคือ อย่าเช็ดให้โดนหน้าจอคอมพ์ เพราะส่วนนี้ต้องใช้น้ำยาที่ระบุมาเฉพาะปล่อยให้แห้งสักพักแล้วจึงใช้งานได้ตามปกติ




แหล่งที่มา   นสพ. M2F วันพุธที่ 4 ม.ค. 55 (057)