วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ปุ่ม Save All บันทึกทุกเอกสารทั้งหมดเพียงคลิ้กเดียว


โดยปกติแล้วหากเราเปิดเอกสาร Word หรืออื่นๆ เป็นจำนวนมากๆ แล้วต้องการบันทึกเอกสารทั้งหมดนั้น ต้องไล่สลับไปยังหน้าต่างที่ต้องการบันทึกทีล่ะหน้าต่าง  อย่างนั้นลองหาวิธีแก้ปัญหานี้ด้วยการเพิ่มปุ่ม Save All เพื่อให้คุณสามารถบันทึกเอกสารทั้งหมดได้เพียงการกดปุ่ม Save All แค่ปุ่มเดียว มี 2 ขั้นตอน

  1. การตั้งปุ่ม Save All ที่ Quick Access Toolbars
  2. การ Save เอกสารทั้งหมดด้วย Save All
การตั้งปุ่ม Save All ที่ Quick Access Toolbars
  1. กดปุ่ม Office ด้านมุมบนของ Microsoft Word
  2. จากนั้นคลิ้กที่ปุ่ม Word Options

  1. คลิ้กที่ Customize
  2. ส่วนในหน้าต่างด้านขวาให้คลิ้กที่ Command Not in the Ribbon ในหัวข้อ Choose command from:
  3. คลิ้กเลือกปุ่มคำสั่ง Save All
  4. จากนั้นกดปุ่ม Add
  5. ปุ่ม Save All จะมาอยู่ที่ Quick Access Toolbars ทันที
  6. เสร็จแล้วกดปุ่ม Ok


การ Save เอกสารทั้งหมดด้วย Save All
เมื่อได้ทำในขั้นตอนการตั้งปุ่ม Save All ที่ Quick Access Toolbars จะปรากฎไอคอน Save All
  1. ลองมาดูการ Save เอกสารทั้งหมดด้วยปุ่ม Save All เพียงแค่คลิ้กที่ปุ่ม Save All
  2. เอกสารทั้งหมดจะถูก Save ทันที โดยไม่ต้องสลับหน้าต่างและไล่กดปุ่ม Save ทีล่ะปุ่ม


11 คีย์ลัดสัญลักษณ์และคำสั่งพิเศษในเอกสาร Word

คีย์ลัดใน Microsoft Office Word นั้นมีมากมาย แต่ที่อยากจะแนะนำเป็นคีย์ลัดสัญลักษณ์และคำสั่งพิเศษที่คิดว่าน่าจะใช้งานบ่อยและมีประโยชน์Enter การกดปุ่ม Enter จะขึ้นบรรทัดใหม่แบบย่อหน้าซึ่งมีระยะห่างมากพอสมควร
  1. Enter การกดปุ่ม Enter จะขึ้นบรรทัดใหม่แบบย่อหน้าซึ่งมีระยะห่างมากพอสมควร
  2. Shift+Enter ส่วนการกดปุ่ม Shift+Enter จะเป็นการขึ้นบรรทัดใหม่แบบชิดกว่าการกด Enter


  1. Ctrl+Shift+Enter เป็นการขึ้นหน้าใหม่ สำหรับใครที่เคยกด Enter รัวๆ เพื่อขึ้นหน้าใหม่อยู่ล่ะก็ กดคีย์ลัดนี้ทีเดียวเอาอยู่


  1. Alt+Ctrl+C คีย์ลัดสัญลักษณ์ Copy Right ©
  2. Alt+Ctrl+T คีย์ลัดสัญลักษณ์ Tradmark ™
  3. Alt+Ctrl+. คีย์ลัดสัญลักษณ์ … ไม่ต้องกดจุด 3 ครั้ง แค่กดคีย์ลัดเดียวก็พิมพ์ 3 จุดทันที
  4. Numpad - จะเป็นขีดสั้นๆ
  5. Ctrl+Numpad จะเป็นขีดยาวกว่า
  6. Alt+Shift+P พิมพ์หมายเลขหน้า จะสะดวกมากหากเลขหน้ามีจำนวนหลักร้อยหลักพัน
  7. Alt+Shift+D พิมพ์วัน/เดือน/ปี
  8. Alt+Shift+T พิมพ์เวลาชัวโมง:นาที

                      วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

                      3.1 การจัดการไฟล์งานนำเสนอเพื่อใช้งานร่วมกัน

                      3. การนำเสนอและเผยแพร่งานคุณได้อย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
                      1. การจัดการไฟล์งานนำเสนอเพื่อใช้งานร่วมกัน
                      2. การแปลงไฟล์งานนำเสนอเป็นไฟล์วิดีโอ
                      3. การนำเสนอไฟล์งานโดยผู้ฟังไม่จำเป็นต้องมีโปรแกรม PowerPoint 2010
                      4. การระบุและแก้ไขปัญหาสำหรับการเข้าถึง
                      5. การนำเสนองานด้วยตัวชี้แบบเลเซอร์ (Laser Pointer)

                      3.1 การจัดการไฟล์งานนำเสนอเพื่อใช้งานร่วมกัน
                      เนื้อหา
                      • การบีบอัดแฟ้มสื่อ
                      • การเปลี่ยนงานนำเสนอเป็นวิดีโอ
                      • การปรับสื่อในงานนำเสนอเพื่อความเข้ากันได้
                      • การฝังวิดีโอในงานนำเสนอ
                      • การบันทึกภาพนิ่งลงในแผ่นดิสก์

                      การบีบอัดแฟ้มสื่อ
                      ใน PowerPoint 2010 ที่เราสร้างงานมีทั้งไฟล์วิดีโอต่างๆ รูปภาพ เนื้อหา มีคำสั่งที่จะช่วยประหยัดเนื้อที่ดิสก์และปรับปรุงประสิทธิภาพ 
                      1. เปิดงานนำเสนอที่มีแฟ้มเสียงหรือแฟ้มวิดีโอ
                      2. บน File Tab ให้คลิก Info และในส่วน Compress Media ให้คลิกเลือกคุณภาพของการบีบอัดได้ 3 ทางเลือก คือ High Presentation Quality, Internet Quality และ Low Quality



                      • High Presentation Quality คุณภาพระดับงานนำเสนอ ช่วยลดเนื้อที่การใช้งานขณะที่ยังรักษาคุณภาพโดยรวมของเสียงและภาพไว้ 
                      • Internet Quality คุณภาพระดับอินเทอร์เน็ต คุณภาพจะเทียบได้กับสื่อที่ถูกสตรีมผ่านทางอินเทอร์เน็ต
                      • Low Quality คุณภาพต่ำ ใช้เมื่อเนื้อที่มีจำกัด เช่น เมื่อคุณส่งงานนำเสนอทางอีเมล
                      3. จะแสดงหน้าต่างการประมวลผลการบีบอัดไฟล์ว่าจากขนาดไฟล์จริง พร้อมทั้งขนาดไฟล์ที่ลดลงจากการบีบอัด


                      หมายเหตุ   เราสามารถยกเลิกการบีบอัดไฟล์ให้กลับสู่สภาพเดิมได้ ด้วยการคลิก Compress Media  และเลือก ‘Undo’



                      การเปลี่ยนงานนำเสนอของคุณเป็นวิดีโอ
                      • เหตุใดจึงต้องเปลี่ยนงานนำเสนอเป็นวิดีโอ
                      • การบันทึกและกำหนดเวลาการเคลื่อนที่ของคำบรรยายเสียงและตัวชี้
                      • การบันทึกงานนำเสนอเป็นวิดีโอ

                      เหตุใดจึงต้องเปลี่ยนงานนำเสนอเป็นวิดีโอ
                      ใน PowerPoint 2010 สามารถบันทึกงานนำเสนอเป็นแฟ้ม Windows Media Video (.wmv) และแจกจ่ายงานนำเสนอนั้นออกไปด้วยความมั่นใจว่างานนำเสนอ ในรูปแบบมัลติมีเดียที่มีทั้งภาพเคลื่อนไหวและเสียงบรรยายจะทำงานได้โดยไม่ติดขัด

                      เคล็ดลับเมื่อบันทึกงานนำเสนอเป็นวิดีโอ มีดังต่อไปนี้ 
                      • สามารถบันทึกและกำหนดเวลาการเคลื่อนที่ของคำบรรยายเสียงและตัวชี้แบบเลเซอร์ในวิดีโอได้
                      • สามารถควบคุมขนาดของแฟ้มมัลติมีเดียและคุณภาพวิดีโอได้
                      • สามารถรวม ภาพเคลื่อนไหว และ การเปลี่ยนภาพ ไว้ในภาพยนตร์ได้
                      • ผู้ชมไม่จำเป็นต้องมี PowerPoint ติดตั้งอยู่บนคอมพิวเตอร์ของตนเพื่อดูงานนำเสนอ
                      • ถ้างานนำเสนอมีวิดีโอฝังอยู่ วิดีโอนั้นจะเล่นได้อย่างถูกต้องโดยไม่จำเป็นต้องมีการควบคุม
                      • การสร้างวิดีโออาจใช้เวลาสักครู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของงานนำเสนอ งานนำเสนอที่ยาวมากและงานนำเสนอที่มีภาพเคลื่อนไหว การเปลี่ยนภาพ และเนื้อหาสื่อมีแนวโน้มว่าจะใช้เวลาในการสร้างมากขึ้น  

                      การบันทึกและกำหนดเวลาการเคลื่อนที่ของคำบรรยายเสียงและตัวชี้



                      หากต้องการงานนำเสนอที่นำเสนออัตโนมัติพร้อมทั้งภาพและเสียงบรรยายเอง ลักษณะนี้จะเหมาะกับการสาธิตหรือออกงานที่ต่าง เพื่อให้ชิ้นงานเล่นด้วยตนเอง

                      วิธีที่ 1 : Rehearse Timings
                      1. ตรวจสอบไมโครโฟนว่าใช้งานได้ ก่อนการบันทึกการนำเสนอภาพนิ่ง
                      2. ไปที่ Slide Show tab ภายใต้กลุ่ม Set Up

                      3. เลือกคำสั่ง Rehearse Timings จะเข้าลักษณะคล้ายโหมด Slide Show สำหรับการบันทึกเสียงบรรยายประกอบในแต่ละสไลด



                      4. เมื่อใส่เสียงบรรยายในสไลดแรกเสร็จแล้ว เราสามารถเลื่อนไปสไลดถัดไป ให้คลิก Next button (ลูกศรขวา) บนเครื่องมือ Recording Toolbar



                      5. จนกระทั่งถึงสไลดหน้าสุดท้าย ให้กดปุ่ม  Esc key เพื่อสิ้นสุด จะปรากฎไดอะล็อกแสดงเวลาเรียนของการนำเสนอ



                      6. ถ้าเราตกลงการจัดทำดังกล่าว ให้คลิกปุ่ม Yes

                      หมายเหตุ  ในระหว่างที่เรากำลังบันทึกเสียงบรรยายลงในสไลด เราสามารถจะหยุดการบันทึกชั่วคราวด้วยการคลิกปุ่ม pause button บนเครื่องมือ และกลับมาบันทึกต่อเนื่องอีกครั้งด้วยการคลิกปุ่ม repeat button.บนสไลดปัจจุบัน




                      วิธีที่ 2 : Record Slide Show
                      1. ตรวจสอบไมโครโฟนว่าใช้งานได้ ก่อนการบันทึกการนำเสนอภาพนิ่ง

                      2. ไปที่ Slide Show tab ภายใต้กลุ่ม Set Up

                      3. คลิกลูกศรลลงที่คำสั่ง Record Slide Show



                      4. มี 2 คำสั่งย่อย คือ
                      • Start Recording from Beginning เริ่มบันทึกจากสไลดแรก
                      • Start Recording from Current Slide เริ่มบันทึกจากสไลดปัจจุบัน
                      ปรากฎไดอะล็อก Record Slide Show




                      5. คลิกปุ่ม Start Recording จะเข้าสู่โหมด Slide Show
                      6. บันทึกเสียงบรรยายในแต่ละหน้าสไลด โดยใช้เครื่องมือ Recording Toolbar ควบคุมการใส่เสียงเช่นเดียวกับวิธีที่ 1




                      7.  เมื่อบันทึกเสร็จแล้ว ให้กดปุ่ม Esc key เพื่อออกจากการบันทึกเสียง
                      8.  แสดงเวลาแต่ละสไลดพร้อมไอคอนลำโพงที่มุมล่างด้านขวา


                      หมายเหตุ  ในระหว่างการบันทึกเสียงบรรยาย  เน้นจุดบนสไลดด้วยการเปลี่ยนเม้าส์ให้เป็น laser pointer เพียงกดปุ่ม Ctrl key 


                      การยกเลิกการบันทึก
                      1. ไปที่ Slide Show tab ภายใต้กลุ่ม Set Up
                      2. เลือกลูกศรลงของ Record Slide Show
                      3. เลือก Clear และเลือกวิธีการยกเลิกที่ต้องการ 



                      การบันทึกงานนำเสนอเป็นวิดีโอ

                      1.  เปิดชิ้นงานในโปรแกรม PowerPoint 2010
                      2.  ไปที่ File Tab > Save & Send ภายใต้กลุ่ม File Types เลือกคำสั่ง Create a Video



                      3.  คลิกลูกศรลงที่ Computer & HD Displays  เพื่อเลือกขนาด มีค่าเริ่มต้น 3 แบบ คือ  960 x 720, 640 x 480 และ 320 x 240 หากสไลดมีใส่เสียงบรรยายให้เพิ่มการเลือก Record Timings and Narrations



                      4. เมื่อพร้อมแล้วให้คลิกปุ่ม Create Video button เพื่อเริ่มแปลงไฟล์ PowerPoint 2010 ไปเป็นไฟล์วิดีโอ



                      หมายเหตุ
                      • ในโปรแกรม PowerPoint 2010 แปลงไฟล์ PowerPoint เป็นวิดีโอมีนามสกุลเป็น WMV video format
                      • การกำหนดขนาดวิดีโอที่แปลงมีให้เลือก 3 ขนาดเท่านั้น ไม่สามารถกำหนดขนาดที่แตกต่างตามต้องการได้  

                      การปรับสื่อในงานนำเสนอเพื่อความเข้ากันได้

                      การจัดการไฟล์นำเสนอที่ประกอบด้วยสื่อหลากหลายให้เหมาะสมและเข้ากันได้เมื่อนำไปใช้งานร่วมกัน และทำงานได้อย่างถูกต้อง

                      1. ให้คลิก File > Info > Check for Issues > Check Compatibility


                      2. คลิกลูกศรลงที่ Check for Issues เพื่อเลือกเวอร์ชั่นที่ต้องการให้เข้ากันได้  


                      3. ถ้าเราต้องการให้เข้ากับเวอร์ชั่นเก่า ให้คลิก File > Save As 


                      • Word 97-2003 มีนามสกุลเป็น .doc
                      • Excel 97-2003 มีนามสกุลเป็น .xls 
                      • PowerPoint 97-2003  มีนามสกุลเป็น .ppt

                      การฝังวิดีโอในงานนำเสนอ
                      • บทนำการฝังวิดีโอ
                      • ฝังวิดีโอจากแฟ้ม
                      • ฝังภาพคลื่อนไหว (GIF) จากไลบรารีภาพตัดปะ
                      • เชื่อมโยงไปยังแฟ้มวิดีโอจากงานนำเสนอ
                      • เชื่อมโยงไปยังแฟ้มวิดีโอบนเว็บไซต์

                      บทนำการฝังวิดีโอ


                      ฝังวิดีโอจากแฟ้ม
                      ฝังภาพคลื่อนไหว (GIF) จากไลบรารีภาพตัดปะ
                      เชื่อมโยงไปยังแฟ้มวิดีโอจากงานนำเสนอ
                      เชื่อมโยงไปยังแฟ้มวิดีโอบนเว็บไซต์

                      http://www.marquette.edu/its/help/office/savedown.shtml
                      http://office.microsoft.com/th-th/powerpoint-help/HA010336563.aspx#_Toc273966442
                      http://office.microsoft.com/th-th/powerpoint-help/HA010382169.aspx?CTT=5&origin=HA010336563

                      วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

                      วิวัฒนาการของ Windows OS


                      Windows อีกหนึ่งระบบปฏิบัติการที่หลายคนคุ้นเคยและนิยมใช้ เรามาย้อนดูวิวัฒนาการของวินโดว์ เริ่มตั้งแต่ปี 1985 ด้วย Windows 1.0 และตามด้วยวินโดวส์รุ่นอื่นๆ เช่น Windows 95, Windows 98, Windows 2000, Windows XP, Windows Vista, Windows 7 และ Windows 8 ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้


                      แหล่งที่มา   เว็บไซต์ 108 Blog - October 14, 2012

                      วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

                      2.11 การจับภาพหน้าจอ (Capture) ลงในหน้างานนำเสนอ

                      2. การตกแต่งงานนำเสนอของคุณด้วยวิดีโอ ภาพ และภาพเคลื่อนไหว
                        1. การฝัง แก้ไข และเล่นวิดีโอในไฟล์งานนำเสนอ
                        2. การตัดแต่งคลิปเสียงหรือคลิปวิดีโอ
                        3. การใช้ที่คั่นในคลิปเสียงและคลิปวิดีโอ
                        4. การเชื่อมโยงไปยังวิดีโอจากเว็บไซต์
                        5. การนำพื้นผิวและลักษณะพิเศษไปใช้กับรูปภาพ
                        6. การเอาพื้นหลังและส่วนอื่นๆ ที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพ
                        7. การครอบ/ตัดรูปภาพ
                        8. การจัดการภาพกราฟิก SmartArt
                        9. การใช้ effect 3D ในการเปลี่ยนหน้างานนำเสนอ
                        10. การคัดลอกเฉพาะคุณสมบัติภาพเคลื่อนไหวไปให้อีกวัตถุหนึ่
                        11. การจับภาพหน้าจอ (Capture) ลงในหน้างานนำเสนอ
                      2.11 การจับภาพหน้าจอ (Capture) ลงในหน้างานนำเสนอ

                      1.  ไปที่ Insert tab

                      2.  ภายใต้กลุ่ม Images คลิกเลือกคำสั่ง Screenshot

                      A. จะปรากฎหน้าต่าง เพื่อคลิกเลือกจับภาพหน้าสไลดที่เคยเปิดมาวางในสไลดนี้ หากต้องการ หรือ

                      B. สามารถจับภาพอื่นๆ บนหน้าจอด้วยคำสั่ง Screen Clipping และหน้าโปรแกรม PowerPoint จะย่อหน้าต่างเพื่อให้เห็นส่วนที่ต้องการจับภาพ ให้ทำการเลือกกรอบล้อมรอบสิ่งที่ต้องการจับภาพ ภาพที่เราเลือกไว้จะมาวางบนสไลด์



                      เมื่อได้รูปมาวางแล้ว เราสามารถแก้ไขรูปนั้นได้ด้วยเครื่องมือรูปภาพ ไปที่ Picture Tools



                      แหล่งที่มา   เว็บไซต์ Microsoft Office,  เว็บไซต์ GilsMethod

                      2.10 การคัดลอกเฉพาะคุณสมบัติภาพเคลื่อนไหวไปให้อีกวัตถุหนึ่ง

                      2. การตกแต่งงานนำเสนอของคุณด้วยวิดีโอ ภาพ และภาพเคลื่อนไหว
                        1. การฝัง แก้ไข และเล่นวิดีโอในไฟล์งานนำเสนอ
                        2. การตัดแต่งคลิปเสียงหรือคลิปวิดีโอ
                        3. การใช้ที่คั่นในคลิปเสียงและคลิปวิดีโอ
                        4. การเชื่อมโยงไปยังวิดีโอจากเว็บไซต์
                        5. การนำพื้นผิวและลักษณะพิเศษไปใช้กับรูปภาพ
                        6. การเอาพื้นหลังและส่วนอื่นๆ ที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพ
                        7. การครอบ/ตัดรูปภาพ
                        8. การจัดการภาพกราฟิก SmartArt
                        9. การใช้ effect 3D ในการเปลี่ยนหน้างานนำเสนอ
                        10. การคัดลอกเฉพาะคุณสมบัติภาพเคลื่อนไหวไปให้อีกวัตถุหนึ่ง
                        11. การจับภาพหน้าจอ (Capture) ลงในหน้างานนำเสนอ
                      2.10 การคัดลอกเฉพาะคุณสมบัติภาพเคลื่อนไหวไปให้อีกวัตถุหนึ่ง


                      1. เลือกวัตถุที่ใส่ภาพเคลื่อนไหวไว้แล้ว เพื่อจะคัดลอกคุณสมบัติภาพเคลื่อนไหวไปยังวัตถุอื่นๆ

                      2. คลิกที่ Animations Tab ภายใต้กลุ่ม Advanced Animation ให้เลือกคำสั่ง Animation Painter



                      3.  ให้คลิกวัตถุที่ต้องการคัดลอกภาพเคลื่อนไหว


                      แหล่งที่มา   เว็บไซต์ Microsoft Office,  เว็บไซต์ Tips and Tricks for Business Computer Users

                      วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555

                      25 password อันตรายประจำปี 2012



                      1. password (ฮอตฮิตไม่เปลี่ยน)
                      2. 123456 (ฮอตฮิตไม่เปลี่ยน)
                      3. 12345678 (ฮอตฮิตไม่เปลี่ยน)
                      4. abc123 (ขยับขึ้น 1 อันดับ)
                      5. qwerty (ความนิยมลดลง 1 อันดับ)
                      6. monkey (ฮอตฮิตไม่เปลี่ยน)
                      7. letmein (ขยับขึ้น 1 อันดับ)
                      8. dragon (ขยับขึ้น 2 อันดับ)
                      9. 111111 (ขยับขึ้น 3 อันดับ)
                      10. baseball (ขยับขึ้น 1 อันดับ)
                      11. iloveyou (ขยับขึ้น 2 อันดับ)
                      12. trustno1 (ความนิยมลดลง 3 อันดับ)
                      13. 1234567 (ความนิยมลดลง 6 อันดับ)
                      14. sunshine (ขยับขึ้น 1 อันดับ)
                      15. master (ความนิยมลดลง 1 อันดับ)
                      16. 123123 (ขยับขึ้น 4 อันดับ)
                      17. welcome (ใหม่)
                      18. shadow (ขยับขึ้น 1 อันดับ)
                      19. ashley (ความนิยมลดลง 3 อันดับ)
                      20. football (ขยับขึ้น 5 อันดับ)
                      21. jesus (ใหม่)
                      22. michael (ขยับขึ้น 2 อันดับ)
                      23. ninja (ใหม่)
                      24. mustang (ใหม่)
                      25. password1 (ใหม่)

                      วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

                      ซัมซุงโชว์สมาร์ตดีไวซ์สุดล้ำเพื่อคอไอที


                      ซัมซุง กาแล็คซี่ เวิลด์ ทัวร์ เปิดมิติใหม่แห่งชีวิตสมาร์ต ทั้งแท็บเล็ต-สมาร์ตพีซี-กล้องดิจิตอล

                      ผ่านไปสดๆ ร้อนๆ กับ “GALAXY Note II World Tour in Jakarta” ที่ซัมซุงจัดงานเปิดตัวสมาร์ตดีไวซ์ระดับภูมิภาคพร้อมอวดนวัตกรรมสุดล้ำ โดยออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เข้าถึงความต้องการ เพื่อสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย นำโดยแม่เหล็กตัวเป้งอย่าง “ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 2” ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมขนทัพผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ตัวอื่นๆ มาโชว์ ไม่ว่าจะเป็น “กาแล็คซี่ คาเมร่า” “ซัมซุง ATIV สมาร์ต พีซี โปร” และ “ซัมซุง ATIV สมาร์ต พีซี” ด้วยเหตุนี้ M2F เลยขอเรียกน้ำย่อยคุณผู้อ่านกันก่อนด้วยข้อมูลคร่าวๆ ของผลิตภัณฑ์แต่ละตัว

                      ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 2
                      เริ่มต้นกันด้วยตัวเอกของงานอย่าง “ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 2” ซึ่งเป็นสมาร์ตดีไวซ์ที่พัฒนาต่อจากซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต ซึ่งโน้ต 2 นี้มาพร้อมหน้าจอ HD Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ทั้งยังให้ภาพคมชัดแบบ 16:9 มอบประสบการณ์ใหม่ในการรับชมวิดีโอ ภาพยนตร์แบบคาดไม่ถึง ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1 เจลลี่ บีน ประมวลผลโดย 1.6GHz Quad-Core จึงไม่ติดขัด ราบรื่น รวดเร็วทุกการใช้งานแบบมัลติทาสก์ และยังใช้เวลาน้อยกว่าในการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ แถมผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง S Pen ก็ทำให้น่าสนใจมากๆ

                      ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 2 เตรียมเปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้ ใครชอบใครรักก็เตรียมตัวหาซื้อได้เลย

                      ซัมซุง ATIV สมาร์ต พีซี
                      ถัดมาคือ “ซัมซุง ATIV สมาร์ต พีซี โปร” และ “ATIV สมาร์ต พีซี” เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกในการพกพา วันๆ ต้องเดินทางไปนู่นนี่ ผสานลูกเล่นการทำงานระหว่างโน้ตบุ๊กกับแท็บเล็ตไว้ด้วยกัน

                      ซัมซุง ATIV ถือเป็นไลน์อัพใหม่สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการจากวินโดวส์ เลือกใช้หน้าจอซัมซุงซูเปอร์ไบรต์ขนาดเพียง 11.6 นิ้ว จอทัชสกรีนแบบมัลติทัช 10 จุด เพื่อการตอบสนองได้ไวอย่างใจ รวมถึงการสั่งงานรูปแบบต่างๆ ง่ายดายเพียง 2 นิ้วและ S Pen อัดแน่นเต็มเครื่องด้วยฟีเจอร์อื่นๆ ที่เทียบเท่ากับโน้ตบุ๊กระดับพรีเมี่ยมทั้งสองรุ่นของซัมซุง ATIV สามารถถอดส่วนคีย์บอร์ดออกมาได้เพื่อเปลี่ยนการใช้งานจากโน้ตบุ๊กพีซีธรรมดาให้เป็นแท็บเล็ต พีซีนั่นเอง

                      ซัมซุง กาแล็คซี่ คาเมร่า
                      ปิดท้ายกันด้วยสุดยอดดีไวซ์ที่เขย่าวงการกล้องถ่ายภาพ “ซัมซุง กาแล็คซี่ คาเมร่า” ตอบสนองคนชอบ “แชะ” และ “แชร์” ในทันที เมื่อรวมเอาที่สุดแห่งฟีเจอร์ที่ล้ำหน้าจากทั้งในโลกแห่งการถ่ายภาพและโลกแห่งสมาร์ตโฟนเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบภายใต้รูปลักษณ์อันทันสมัย ดูภาพที่ถ่ายได้ชัดเจนด้วยหน้าจอเอชดี ซูเปอร์เคลียร์ แอลซีดี ขนาด 4.8 นิ้ว และยังเลือกใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1 เจลลี่ บีนใหม่ ทำงานรวดเร็วและราบรื่น

                      ทั้ง “ซัมซุง ATIV สมาร์ต พีซี โปร” “ซัมซุง ATIV สมาร์ต พีซี” และ “กาแล็คซี่ คาเมร่า” ยังไม่มีแผนวางขายในเมืองไทยเร็วๆ นี้ แต่ถ้าบินตรงมาถึงเมืองไทยเมื่อไหร่จะนำข่าวมาฝากกัน

                      วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

                      Xperia SLสมาร์ตโฟนสุดแรงจากโซนี่


                      โซนี่ไทยเปิดตัว  Xperia SL สมาร์ตโฟนสุดแรงที่มาพร้อมซีพียูแบบ Dual Core ความเร็ว1.7 กิกะเฮิรตซ์

                      บริษัท โซนี่ ไทย เปิดตัว Xperia SL สมาร์ตโฟนกับประสิทธิภาพความเร็วระดับ Dual Core 1.7 กิกะเฮิรตซ์ มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 (Ice-Cream Sandwich) และหน้าจอขนาดใหญ่ 4.3 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 ระดับ HD ที่รองรับการสัมผัสพร้อมกันสูงถึง 10 จุด จอแสดงผลแบบ Mobile BRAVIA Engine ที่ให้ภาพสีสวยสดคมชัดทุกรายละเอียด เชื่อมต่อแบบไร้สายทุกที่ทุกเวลาซึ่งรองรับเครือข่าย 3G ทุกเครือข่าย (850/900/1900/2100 MHz)

                      ยังมาพร้อมกับกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัสและแฟลช รวมถึงกล้องหน้าที่มีความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล มีระบบชดเชยแสงช่วยในการถ่ายรูปในที่แสงน้อย หรือถ่ายในที่มืดด้วยเทคโนโลยี Exmor-R ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการถ่ายภาพในเวลากลางคืนและรูรับแสงขนาด f/2.4 รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ HD 720P อีกทั้งยังรองรับการแชร์ภาพวิดีโอ และเสียงเพลงแบบไร้สายผ่านระบบ DLNA เข้ากับอุปกร์ของโซนี่อื่นๆ ได้ เช่น BRAVIA LCD TV, VAIO เต็มอิ่มด้วยหน่วยความจำภายในเครื่องถึง 32GB

                      วางจำหน่ายแล้วในราคา 15,990 บาท ตัวเครื่องมี 2 สีคือ สีขาวและเทา

                      วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

                      แปลงไฟล์ประเภทต่างๆ ผ่านเว็บไซต์ Zamzar.com

                      ปกติในการแปลงไฟล์ เช่น
                      • จาก Word เป็น PDF หรือ 
                      • PDF เป็น Word 
                      ต้องใช้โปรแกรมอย่าง Adobe Acrobat Professional หรือ ScanSoft OmniPage ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีขนาดใหญ่และราคาแพง Acrobat ใช้ทรัพยากรของเครื่องที่สูง แล้วก็หวังดีแอบอัพเดทตัวโปรแกรมให้อีก ถ้าเราแปลงไฟล์ไม่บ่อยมาก ก็ไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมใหญ่ๆ ให้หนักเครื่อง ลองมาใช้ของฟรี ซึ่งเป็นบริการผ่านเว็บอย่าง Zamzar กันดีกว่า

                      Zamzar เป็นบริการแปลงไฟล์ผ่านเว็บ โดยให้ใช้บริการได้ฟรี โดยรองรับไฟล์ได้สูงสุด 100 MB และแปลงไฟล์ได้ 5 ไฟล์พร้อมกัน และเก็บไฟล์ไว้ให้ดาว์นโหลดนาน 1 วัน (ถ้าต้องการให้รองรับไฟล์ขนาดใหญ่ และใช้ระยะเวลาในการแปลงไฟล์ที่สั้นลง ต้องใช้แบบจ่ายเงิน)

                      เว็บไซต์ Zamzar.com : http://www.zamzar.com/
                      Zamzar สามารถแปลงไฟล์ Microsoft Office ต่างๆ ไฟล์รูปภาพ ไฟล์เพลง ไฟล์หนัง รวมถึงไฟล์ Zip ประเภทต่างๆ เช่น
                      • doc, docx แปลงเป็น doc, html, odt, pcx, pdf, png, ps, txt
                      • pdf แปลงเป็น doc, html, odt, pcx,png, ps, rtf, txt
                      • ppt, pptx (PowerPoint) แปลงเป็น ppt, html, odp, pcx, pdf, png, ps, swf
                      • mp3 แปลงเป็น aac, ac3, flac, m4a, mp4, ogg, wav, wma
                      • avi แปลงเป็น 3gp, aac, flv, iphone, mp3, mp4, mpg, ogg, wav, wmv
                      ดูรายละเอียดประเภทของไฟล์ที่รองรับทั้งหมดจากเว็บ Zamzar (Conversion Types)

                      สำหรับวิธีการแปลงไฟล์ โดยไปที่เว็บไซต์ Zamzar : http://www.zamzar.com/

                      Step 1 ให้คลิกปุ่ม Browse เพื่อเลือกไฟล์ที่ต้องการ เว็บจะแสดงชื่อไฟล์ที่เราเลือกไว้ด้านล่าง (Files to convert๗ โดยสามารถเลือก convert หลายๆ ไฟล์พร้อมกันได้ ถ้าไม่ต้องการไฟล์ไหนให้คลิก Remove File นั้นออก

                      ขั้นตอนการใช้งานเว็บไซต์ Zamzar.com
                      Step 2 เลือกลิสต์รายการว่าจะให้แปลงเป็นไฟล์ประเภทอะไร
                      Step 3 ใส่อีเมล์
                      Step 4 กดปุ่ม Convert

                      ถ้ามีไฟล์หลายไฟล์ที่ต้องแปลง ให้อัพโหลดหรือเลือกไฟล์ 2 ไฟล์ขึ้นไป เนื่องจาก เวลาแปลงไฟล์เสร็จ เว็บจะส่งลิงค์มาให้โหลดเป็นไฟล์ .zip ซึ่งจะมีขนาดเล็กกว่าไฟล์ที่ไม่ได้ zip (ถ้า convert ไฟล์เดียว เว็บจะไม่ zip ให้ ถ้าข้อมูลมีเยอะ ไฟล์จะมีขนาดใหญ่มาก)

                      เมื่อ Zamzar แปลงไฟล์เสร็จ (ระยะเวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานเว็บในขณะนั้น แต่ไม่นานมาก) จะมีอีเมล์แจ้งมา สามารถเข้าไปโหลดไฟล์ได้ตามลิงค์ที่ได้มาในอีเมล์

                      วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555

                      2.9 การใช้ effect 3D ในการเปลี่ยนหน้างานนำเสนอ

                      2. การตกแต่งงานนำเสนอของคุณด้วยวิดีโอ ภาพ และภาพเคลื่อนไหว
                        1. การฝัง แก้ไข และเล่นวิดีโอในไฟล์งานนำเสนอ
                        2. การตัดแต่งคลิปเสียงหรือคลิปวิดีโอ
                        3. การใช้ที่คั่นในคลิปเสียงและคลิปวิดีโอ
                        4. การเชื่อมโยงไปยังวิดีโอจากเว็บไซต์
                        5. การนำพื้นผิวและลักษณะพิเศษไปใช้กับรูปภาพ
                        6. การเอาพื้นหลังและส่วนอื่นๆ ที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพ
                        7. การครอบ/ตัดรูปภาพ
                        8. การจัดการภาพกราฟิก SmartArt
                        9. การใช้ effect 3D ในการเปลี่ยนหน้างานนำเสนอ
                        10. การคัดลอกเฉพาะคุณสมบัติภาพเคลื่อนไหวไปให้อีกวัตถุหนึ่ง
                        11. การจับภาพหน้าจอ (Capture) ลงในหน้างานนำเสนอ
                      2.9 การใช้ effect 3D ในการเปลี่ยนหน้างานนำเสนอ
                      • เกี่ยวกับ Transitions
                      • การใช้ Transitions
                      • การนำเสนอ Transitions
                      • การแก้ไข Transitions
                      • การใส่เสียง
                      • การลบ Transitions

                      เกี่ยวกับ Transitions
                      มีรูปแบบ transitions ให้เลือกใช้ทั้งหมด 3 กลุ่ม ไปที่ Transitions tab มีดังนี้
                      • Subtle (slight transitions)

                      • Exciting (strong transitions)







                      • Dynamic Content (strong transitions ควบคุมเฉพาะ content เช่น ข้อความ หรือ รูป)




                      การใช้ Transitions
                      1. เลือกสไลดที่ต้องการใส่ effect
                      2. ไปที่ Transitions tab ภายใต้กลุ่ม Transition to This Slide ค่าเริ่มต้นในการเลือกคือ None (ไม่ใส่ effect)



                      4. คลิกลูกศรล่างที่ More เพื่อแสดง transitions ทั้งหมด
                      5. คลิกเลือกรูปแบบ transition เพื่อใช้กับสไลดที่เลือก พร้อมทั้งผล transition อัตโนมัติ


                      เราสามารถกำหนด transitions ให้ใช้กับทุกหน้าสไลด ภายใต้กลุ่ม  Timing เลือกคำสั่ง Apply To All 

                      การนำเสนอ Transitions
                      เรานำเสนอ transition สำหรับสไลดที่เลือกได้ 2 วิธี ดังนี้

                      1) ไปที่ Transitions tab คลิก Preview



                      2)  คลิกที่ไอคอน Play Animations ซึ่งไอคอนปรากฎที่ Slides tab ที่ pane ด้านซ้าย


                      การแก้ไข Transitions
                      1. เลือกสไลดที่เราได้ใส่ transition ไว้ เพื่อจะได้ปรับแก้ไข
                      2. ภายใต้กลุ่ม Timing ให้ใส่เวลาวินาทีลงไปในช่อง Duration field  เช่น เรากำหนดเวลาเป็น 2 วินาที ใส่ 02.00




                      การใส่เสียง
                      1. เลือกสไลดที่เราได้ใส่ transition ไว้ เพื่อจะได้ปรับแก้ไข
                      2. ภายใต้กลุ่ม Timing คลิกลูกศรลงที่ Sound 
                      3. ให้เลือกเสียงที่ต้องการเพื่อลองฟังและเลือกใส่ในสไลด 




                      การลบ Transitions
                      1. เลือกสไลดที่เราได้ใส่ transition ไว้ เพื่อจะได้ปรับแก้ไข
                      2. ภายใต้กลุ่ม Transition to This Slide คลิกเลือก None




                      3. ทำขั้นตอนเดิมซ้ำ หากต้องการลบ transition บนสไลดที่ต้องการเลือก

                      ข้อสังเกต ถ้าต้องการลบ transitions ทุกสไลด โดยเลือกสไล และคลิกเลือก  None พร้อมทั้งคลิก Apply to All

                      เพิ่มเติม หากต้องการจะให้สไลดเปลี่ยน transitions  แต่ละสไลดอัตโนมัติ กระทำดังนี้
                      1. เลือกสไลดที่ต้องการใส่ effect
                      2. ไปที่ Transitions tab ภายใต้กลุ่ม Timing 
                      3. ภายใต้ Advance Slide ยกเลิกการเลือก On Mouse Click
                      4. ช่อง After ป้อนเวลาที่ต้องการแสดงสไลด ตัวอย่าง ให้แสดงแต่ละสไลดใช้เวลา 1.30 นาที ให้ใส่ค่า  01:30:00
                      5. กระทำซ้ำขั้นตอนเดิมกับสไลดอื่นๆ ที่ต้องการ 


                      แหล่งที่มา   เว็บไซต์ GCF LearnFree.org

                      แอลจี ออพติมัส วิว มุมมองใหม่ไร้ขอบ


                      แอลจีเปิดตัว "ออพติมัส วิว" โฟนเล็ตที่ผสมผสานความสามารถของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเอาไว้ในเครื่องเดียวกัน

                      ได้ฤกษ์เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ แอลจี ออพติมัส วิว (LG Optimus Vu) ซึ่งแอลจียกให้เป็น “Phonelet” อย่างแท้จริง เพราะผสานการทำงานระหว่างแท็บเล็ตและสมาร์ตโฟนไว้ด้วยกันอย่างลงตัว แถมยังพกพาสะดวกบาง 8.5 มม. น้ำหนัก 168 ก. แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นและแอพพลิเคชั่นไว้เพียบเต็มเครื่อง

                      ออพติมัส วิว มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5 นิ้วแบบ True HD IPS จอภาพอัตราส่วน 4:3 เต็มตาและสมจริง ซึ่งเป็นอัตราส่วนเดียวกับภาพจากกล้องดิจิตอลและแมกกาซีนออนไลน์ จึงให้ภาพเต็มจอไม่มีขอบดำ รับชมภาพถ่าย อ่านหนังสือ หรือตรวจสอบไฟล์เอกสารต่างๆ ได้อย่างเต็มอรรถรส ตอบสนองทั้งคนรักการทำงานและคนรักความบันเทิงในเครื่องเดียว ไม่เพียงเท่านั้นยังแปลงกายเป็นสมุดจดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยโปรแกรม QuickMemo เพียงใช้ปลายนิ้วหรือปากกา Rubberdium ซึ่งได้รับการดีไซน์ให้มีความโดดเด่นและมีคุณภาพในการสัมผัสเหนือกว่าปากกา Capacitive ทั่วไป ช่วยอำนวยความสะดวกสบายไปอีกขั้น

                      ทำงานไว ไม่ติดขัดด้วยระบบประมวลผลแบบ 4-PLUS-1 Quad-Core ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและรองรับระบบ 3G ทุกเครือข่าย (Quad Band 850/900/1900/2100 MHz) มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำและสีขาว

                      ราคา 18,900 บาท

                      วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

                      เดสก์ท็อปจิ๋วทำงานแจ๋ว


                      เลอโนโวแนะนำ ThinkCentre Tiny คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะดีไซน์บางเบาประหยัดเนื้อที่บนโต๊ะทำงาน

                      เพราะพื้นที่ของการทำงานในทุกวันนี้เริ่มมีจำกัดมากขึ้น ยิ่งแกดเจ็ตอย่างคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปบนโต๊ะทำงานเล็กลงเท่าไหร่ก็ยิ่งเอื้อประโยชน์ต่อการทำงานมากขึ้น เพราะเหตุนี้ ThinkCentre Tiny จากเลอโนโว จึงตอบโจทย์การทำงานของคนยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

                      โดดเด่นด้วยการประมวลผลเหนือชั้นทั้งที่ขนาดกะทัดรัด ThinkCentre Tiny ถือเป็นเดสก์ท็อปแบบ Form Factor เครื่องแรกที่มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก มีทั้งหมด 3 รุ่นให้เลือก ได้แก่ ThinkCentre M92, M92p และ M72e มีขนาดเล็กที่สุดหนักเพียง 1 กก. และบางเท่าลูกกอล์ฟ (34.5 มม.) ทำงานด้วยขุมพลังจาก Intel Core i5 vPro ในเจนที่ 3 พร้อมกับเทคโนโลยีอินเทล วีโปร โซลูชั่นรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร โดยเฉพาะ Trusted Platform Module (TPM) ชิปรักษาความปลอดภัยรุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญให้พ้นจากการโจมตีจากซอฟต์แวร์ที่ไม่พึงประสงค์

                      ทั้งสามรุ่นมีให้เลือกทั้งฮาร์ดดิสก์แบบ SSD (Solid State) หรือฮาร์ดดิสก์ปกติ โดยมาพร้อมกับการ์ดจอกราฟฟิก พอร์ต USB 3.0 และการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi มีเทคโนโลยี Lenovo Enhanced Experience 3 (EE 3) for Windows 7 เสริมประสิทธิภาพการทำงาน บู๊ตเปิดและปิดเครื่องรวดเร็วขึ้นถึง 30% และ RAID 0.1 กับ PC Cloud Manager สำหรับเทคโนโลยีอินเทล วีโปร ที่เอื้อการทำงานให้ฝ่ายไอทีสามารถดูแลระบบได้จากระยะไกลบน Web-Based System โดยไม่ต้องใช้คอนโซลการจัดการใดๆ

                      ไม่เพียงเท่านั้น ThinkCentre Tiny ยังผ่านการรับรองมาตรฐานความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ใบรับรองมาตรฐาน EPEAT Gold, UL Environment Gold, Energy Star มาตรฐานเรื่องประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ใบรับรองมาตรฐาน Greenguard และใบรับรองมาตรฐาน Cisco Energy Wise ซึ่งช่วยให้องค์กรลดต้นทุนการดำเนินงานที่ไม่จำเป็น รวมถึงการใช้พลังงานและลดการปล่อยความร้อนที่ก่อเกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม

                      ทั้งสามรุ่นมีวางจำหน่ายแล้ว ผ่านตัวแทนจำหน่ายเลอโนโวทั่วประเทศ

                      วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2555

                      2.8 การจัดการภาพกราฟิก SmartArt

                      2. การตกแต่งงานนำเสนอของคุณด้วยวิดีโอ ภาพ และภาพเคลื่อนไหว
                        1. การฝัง แก้ไข และเล่นวิดีโอในไฟล์งานนำเสนอ
                        2. การตัดแต่งคลิปเสียงหรือคลิปวิดีโอ
                        3. การใช้ที่คั่นในคลิปเสียงและคลิปวิดีโอ
                        4. การเชื่อมโยงไปยังวิดีโอจากเว็บไซต์
                        5. การนำพื้นผิวและลักษณะพิเศษไปใช้กับรูปภาพ
                        6. การเอาพื้นหลังและส่วนอื่นๆ ที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพ
                        7. การครอบ/ตัดรูปภาพ
                        8. การจัดการภาพกราฟิก SmartArt
                        9. การใช้ effect 3D ในการเปลี่ยนหน้างานนำเสนอ
                        10. การคัดลอกเฉพาะคุณสมบัติภาพเคลื่อนไหวไปให้อีกวัตถุหนึ่ง
                        11. การจับภาพหน้าจอ (Capture) ลงในหน้างานนำเสนอ
                      2.8 การจัดการภาพกราฟิก SmartArt
                      • บทนำ
                      • สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกเค้าโครง
                      • เกี่ยวกับบานหน้าต่างข้อความ
                      • ลักษณะ สี และลักษณะพิเศษสำหรับกราฟิก SmartArt
                      • ภาพเคลื่อนไหวสำหรับกราฟิก SmartArt
                      • วิธีการสร้างกราฟิก SmartArt
                      บทนำ
                      SmartArt คือการสื่อสารข้อมูลด้วยภาพ เช่น แผนผัง ลำดับขั้น กระบวนการ รายการ ฯลฯ

                      การสร้างสไลดในโปรแกรม PowerPoint จะอยู่ในรูปแบบสไลดที่มีรายการสัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อย ซึ่งเราสามารถแปลงคุณลักษณะดังกล่าวเป็นกราฟิก SmartArt ได้ และในทางกลับกันก็สามารถแปลงรูปภาพ SmartArt ให้กลับมาสู่รูปแบบสไลดได้อย่างรวดเร็ว

                      สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกเค้าโครง
                      เราสามารถนำสไลดมาแปลงให้อยู่ในรูปภาพ SmartArt ซึ่งมีแนวคิดในการปรับเปลี่ยน ให้เลือกทั้งหมด 8 แบบ ได้แก่
                      1. SmartArt แบบรายการ  แสดงข้อมูลที่ไม่เป็นลำดับ
                      2. SmartArt แบบกระบวนการ แสดงขั้นตอนในกระบวนการหรือเส้นเวลา
                      3. SmartArt แบบวงกลม แสดงกระบวนการที่ต่อเนื่อง
                      4. SmartArt แบบลำดับชั้น สร้างแผนผังองค์กร / แสดงโครงสร้างการตัดสินใจ
                      5. SmartArt แบบความสัมพันธ์ แสดงภาพการเชื่อมต่อ
                      6. SmartArt แบบเมทริกซ์ แสดงให้เห็นว่าส่วนต่างๆ สัมพันธ์กับทั้งหมดอย่างไร
                      7. SmartArt แบบรูปภาพ ใช้รูปภาพเพื่อสื่อหรือเน้นเนื้อหา
                      8. SmartArt แบบพีระมิด แสดงความสัมพันธ์ตามสัดส่วนกับด้วยองค์ประกอบที่ใหญ่ที่สุดที่ด้านบนหรือด้านล่าง 
                                                                                                                        ข้อพิจารณารูปแบบการเลือกใช้ SmartArt
                                                                                                                        • นำเสนอแนวคิดสองอย่างที่ตรงข้ามกัน เลือกใช้ SmartArt แบบความสัมพันธ์ 
                                                                                                                        • นำเสนอแนวคิดมากกว่าสองแนวคิด เลือกใช้ SmartArt แบบพีระมิด
                                                                                                                        • เค้าโครงที่มีลูกศรชี้ไปทางขวา เลือกใช้ SmartArt แบบกระบวนการ
                                                                                                                        • มีลูกศรวนเป็นวงกลม เลือกใช้ SmartArt แบบวงกลม
                                                                                                                        เกี่ยวกับบานหน้าต่างข้อความ
                                                                                                                        บานหน้าต่างข้อควา ใช้เพื่อใส่และแก้ไขข้อความที่ปรากฏใน SmartArt ซึ่งปรากฏทางด้านซ้ายของ SmartArt


                                                                                                                        ลักษณะ สี และลักษณะพิเศษสำหรับกราฟิก SmartArt
                                                                                                                        ใน SmartArt Tools Tab > Design มีสองแกลเลอรีสำหรับการเปลี่ยนลักษณะ SmartArt คือ
                                                                                                                        1. SmartArt Styles group (ลักษณะ SmartArt) ประกอบด้วย การเติมสีรูปร่าง ขอบ เงา ลักษณะเส้น การไล่ระดับสี และเปอร์สเปคทีฟสามมิติ 
                                                                                                                        2. Change Colors (เปลี่ยนสี)

                                                                                                                        ภาพเคลื่อนไหวสำหรับกราฟิก SmartArt
                                                                                                                        การทำ SmartArt ให้เคลื่อนไหวเพื่อเน้นหรือแสดงเป็นขั้นๆ ซึ่งกำหนดให้ SmartArt เคลื่อนไหวทั้งหมดหรือเฉพาะรูปร่างแต่ละรูปก็ได้  ตัวอย่างเช่น ทำให้วงกลมแต่ละวงของไดอะแกรมเวนน์เคลื่อนไหวครั้งละวง หรือทำให้แผนผังองค์กรค่อยๆ ปรากฏขึ้นไปตามระดับ

                                                                                                                        วิธีการสร้างกราฟิก SmartArt
                                                                                                                        • การสร้างกราฟิก SmartArt 
                                                                                                                        • การแปลงข้อความภาพนิ่งเป็นกราฟิก SmartArt 
                                                                                                                        • การแปลงรูปภาพบนภาพนิ่งเป็นกราฟิก SmartArt 
                                                                                                                        การสร้างกราฟิก SmartArt 
                                                                                                                        • การสร้างกราฟิก SmartArt และการเพิ่มข้อความลงในกราฟิก
                                                                                                                        • การเพิ่มหรือลบรูปร่างในกราฟิก SmartArt
                                                                                                                        • การเปลี่ยนสีกราฟิก SmartArt ทั้งหมด
                                                                                                                        • การนำลักษณะ SmartArt ไปใช้กับกราฟิก SmartArt
                                                                                                                        การสร้างกราฟิก SmartArt และการเพิ่มข้อความลงในกราฟิก
                                                                                                                        1. ไปที่ Insert tab > SmartArt
                                                                                                                        2.  ปรากฎไดอะล็อก



                                                                                                                        3. เลือกกลุ่มด้านซ้ายมือ จะแสดงรูปแบบ SmartArt 
                                                                                                                        4. เลือกรูปแบบที่ต้องการ จะปรากฎ Preview ด้านขวามือสุดประกอบให้เห็นภาพ เมื่อเลือกได้แล้วให้คลิกปุ่ม OK


                                                                                                                        5. จะปรากฎบานหน้าต่างสำหรับใส่ข้อความพร้อมทั้งรูปแบบ SmartArt  คลิก [ข้อความ] ในบานหน้าต่างข้อความ แล้วพิมพ์ข้อความ ถ้ามองไม่เห็นบานหน้าต่างข้อความ ให้คลิกตัวควบคุม 


                                                                                                                        6. ป้อนข้อความดังภาพ



                                                                                                                        การเพิ่มหรือลบรูปร่างในกราฟิก SmartArt
                                                                                                                        1. คลิก SmartArt จะปรากฎ Design > Format tabs > Design tab
                                                                                                                        2. เลือกรูปร่างที่ต้องการเพิ่ม 
                                                                                                                        3. คลิกลูกศรลงที่คำสั่ง Add Shape ภายใต้กลุ่ม Graphics
                                                                                                                        4. เลือก Add Shape Before / Add Shape After สำหรับรูปร่างในระดับเดียวกัน แต่หากประสงค์จะเพิ่มรูปร่างบนหรือล่าง ให้เลือกคำสั่ง Add Shape Above / Add Shape Below


                                                                                                                        หมายเหตุ 
                                                                                                                        • เมื่อต้องการเพิ่มรูปร่างจากบานหน้าต่างข้อความ ให้คลิกรูปร่างที่มีอยู่ ย้ายเคอร์เซอร์ไปไว้ก่อนหรือหลังข้อความที่ต้องการเพิ่มรูปร่าง แล้วกด ENTER
                                                                                                                        • เมื่อต้องการลบรูปร่างออกจากกราฟิก SmartArt ให้คลิกรูปร่างที่ต้องการลบ แล้วกด DELETE 
                                                                                                                        • เมื่อต้องการลบกราฟิก SmartArt ทั้งชุด ให้คลิกเส้นขอบของกราฟิก SmartArt แล้วกด DELETE

                                                                                                                        การเปลี่ยนสีกราฟิก SmartArt ทั้งหมด
                                                                                                                        1. คลิก SmartArt จะปรากฎ Design > Format tabs > Design tab
                                                                                                                        2. คลิกคำสัี่ง Change Colors และคลิกลูกศรล่างเพื่อเลือก color schemes 



                                                                                                                        การนำลักษณะ SmartArt ไปใช้กับกราฟิก SmartArt
                                                                                                                        1. คลิก SmartArt จะปรากฎ Design > Format tabs > Design tab
                                                                                                                        2. ในกลุ่ม SmartArt Styles คลิกลูกศรลงเพื่อแสดงรูปแบบทั้งหมด

                                                                                                                        3. นำเมาส์ไปวางแต่ละรูปแบบเพื่อแสดง preview 



                                                                                                                        การแปลงข้อความภาพนิ่งเป็นกราฟิก SmartArt 

                                                                                                                        1. เลือกข้อมูลในสไลดที่เป็นรายการ (list) หรือย่อหน้า (paragraph) ที่ต้องการแปลงให้อยู่ในรูปแบบ SmartArt และคลิกขวาเลือก Convert to SmartArt > จะปรากฎเมนูย่อย


                                                                                                                        3. เลือกรูปแบบ SmartArt ที่ต้องการ หรือที่ด้านล่างสุดของเมนูย่อย ให้คลิกเลือก More SmartArt Graphics



                                                                                                                        ในทางกลับกัน เราสามารถแปลงรูป SmartArt ให้กลับเป็นข้อมูลในสไลดเดิมได้ ด้วยวิธีการเลือก  SmartArt และไปที่ SmartArt Tools > Design tab > คลิก Convert และเลือกคำสั่ง Convert to Text



                                                                                                                        การแปลงรูปภาพบนภาพนิ่งเป็นกราฟิก SmartArt 
                                                                                                                        1. เลือกรูปภาพ (ถ้าเลือกหลายรูปให้กด CTRL ก่อนคลิกเลือกรูป)
                                                                                                                        2. ไปที่ Picture Tools และคลิกลูกศรล่างที่ Picture Layout เลือกรูปแบบ SmartArt ที่ต้องการ



                                                                                                                        แหล่งที่มา   เว็บไซต์ Microsoft Office,  เว็บไซต์ PowerPoint Design,  เว็บไซต์ GCF LearnFree.org,  เว็บไซต์ 24 Point