วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555

สู่ยุค “อัลตร้าบุ๊ก”

การเลือกโน้ตบุ๊กมาใช้งานสักเครื่องคุณจะเลือกที่อะไร สำหรับคอไอทีที่มีความรู้พอสมควร มักเลือกที่สเปกภายในกับราคาเป็นหลัก ในขณะที่อีกกลุ่มอาจมองไปถึงระบบปฏิบัติการเป็นหลัก ในขณะที่ผู้ซื้อซึ่งไม่มีความรู้เรื่องสเปกเครื่องภายในมากนักจะเน้นไปที่ราคากับรูปลักษณ์ภายนอก

ในความเป็นจริงแล้วการใช้งานโน้ตบุ๊กในปัจจุบันหากเป็นกลุ่มผู้ใช้สำหรับทำงานจริงๆ อย่างเช่น ไฟล์เอกสารงานพิมพ์ เอ็กซ์เซล หรือไฟล์พรีเซนเทชัน อินเทอร์เน็ตเฟซบุ๊ก เช็กอีเมล วิดีโอคอลสำหรับการประชุมบ้าง สเปกเครื่องแรงๆ ราคาแพงๆ แทบไม่มีความจำเป็นเลยสำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มนี้ หากมองในด้านไลฟ์สไตล์พวกเขาต้องการเครื่องที่มีน้ำหนักเบาแข็งแรง แบตเตอรี่ใช้งานได้อย่างยาวนาน มากกว่า 68 ชั่วโมงขึ้นไป หรือมากพอที่จะทำให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องพกพาอะแดปเตอร์ชาร์จไฟไปทำงาน สิ่งเหล่านี้มีแล้วในเครื่องโน้ตบุ๊กที่เรียกว่า อัลตราบุ๊ก

บางและนานกว่า
  1. เครื่องอินเทลอัลตราบุ๊ก เป็นเครื่องโน้ตบุ๊กที่ได้รับการออกแบบและกำหนดความสามารถหลักๆ โดยอินเทล และให้ผู้ผลิตแต่ละเจ้าเป็นผู้ออกแบบรูปลักษณ์ของตัวเครื่อง โดยภายในจะใช้ซีพียูโปรเซสเซอร์ อินเทลคอร์โปรเซสเซอร์เจเนอเรชัน 2 เป็นตัวประมวลผล กำหนดให้ดีไซน์ตัวเครื่องมีความบางไม่เกิน 21 มิลลิเมตร
  2. เพิ่มเทคโนโลยี อินเทล แรปิด สตาร์ต (Intel Rapid Start) ทำให้เครื่องกลับคืนสู่สภาพที่พร้อมใช้งานได้เร็วยิ่งขึ้น และยังทำให้เครื่องบูตโอเอสเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและในอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นถึง 5–8 ชั่วโมง
  3. สุดท้ายคือ เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย ซึ่งน่าจะได้ผลเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะอัลตราบุ๊กมีความสามารถในการป้องกัน หรืออันที่จริงน่าจะเรียกว่าเป็นการแก้เผ็ดผู้ร้าย โดยใส่ระบบรักษาความปลอดภัยไว้ในตัวอุปกรณ์ระดับฮาร์ดแวร์บนไบออส (Bios/firmware) ซึ่งเป็นหัวใจของระบบฮาร์ดแวร์ในการปิดเปิดเครื่องเพื่อรองรับเทคโนโลยีอินเทล ไอเดนทิตีโปรเทคชัน และอินเทล แอนตีทรีฟ เทคโนโลยี (Intel Identity Protection and Intel Anti-Theft Technology) ป้องกันการโจรกรรมข้อมูลจากเครื่อง ความสามารถนี้เราสามารถสั่งล็อกเครื่องผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตและตั้งค่าการใส่รหัส รวมทั้งแสดงข้อความที่หน้าจอเครื่องได้หากเครื่องถูกโจรกรรมและนำไปใช้งานผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตต่อ
แต่เดิมระบบนี้จะเป็นโปรแกรมใส่ไว้ในฮาร์ดดิสก์ ซึ่งผู้ร้ายสามารถเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่ใส่เข้าไปใช้งานแทนได้ แต่ความสามารถใหม่ของอัลตราบุ๊กนี้จะถูกฝังในฮาร์ดแวร์ ทำให้ผู้ร้ายไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยแม้จะเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ใหม่เข้าไปก็ตาม เป็นความสามารถที่น่าสนใจอย่างมาก ถึงโอกาสที่เราจะได้เครื่องคืนมีน้อยก็ยังดีกว่าให้คนร้ายได้ข้อมูลอะไรต่อมิอะไรในเครื่องเราไปใช้ รวมทั้งเปิดใช้งานเครื่องของเราไม่ได้อีกเลย

โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ควรเป็นอัลตราบุ๊ก
นานหลายเดือนแล้วที่เราเฝ้ามองแมคบุ๊กแอร์ ว่าเมื่อไหร่ทางฝั่งเครื่องที่ใช้ระบบวินโดวส์จะได้ใช้งานเครื่องที่บางและเบาอย่างนี้บ้าง สุดท้ายก็ได้ทดสอบเครื่องอัลตราบุ๊ก กันจริงๆ เสียที

จากการทดสอบใช้งานเราพบว่าคะแนนของการประเมินเครื่องของระบบวินโดวส์ให้คะแนนซีพียู สูงถึง 6.9 ส่วนคะแนนกราฟฟิก 3 มิติก็ไม่ใช่น้อยๆ ได้ไป 6 คะแนน ก็นับว่าไม่เลวทีเดียวสำหรับโน้ตบุ๊กประหยัดพลังงานรุ่นนี้ เพราะคะแนนเต็มของวินโดวส์ที่ให้ในแต่ละส่วนคือ 7.9 คะแนน ดังนั้นใครว่าอัลตราบุ๊กไม่แรงเปลี่ยนความคิดใหม่ๆ ได้เลยครับ เพราะระบบของอัลตราบุ๊กรุ่นใหม่มีความสามารถในการจัดการพลังงานได้อย่างดีเยี่ยม

เราทดสอบด้วยการพิมพ์งานต่อไวไฟ เล่นเฟซบุ๊กเปิดเครื่องไว้ทั้งวัน พิมพ์งานกันทั้งวันครับ ทดสอบแบบขยันขันแข็งเล็กน้อยก็พบว่าเครื่องนี้สามารถยืนพื้นการใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมงอย่างที่ทางอินเทลได้ประกาศเอาไว้ เวลาที่เราไม่ได้ใช้งานก็ไม่จำเป็นต้องชัตดาวน์เครื่องแต่อย่างใด แค่พับฝาเครื่องเก็บใส่กระเป๋า กลับถึงบ้านเปิดเครื่องมาเคาะปุ่มเอ็นเตอร์ครั้งเดียวเราก็ทำงานที่ค้างไว้ต่อได้เลยโดยที่แบตเตอรี่แทบไม่ลดลง คล้ายๆ กับคนที่ใช้เครื่องแมคบุ๊กที่ชอบปิดฝาเครื่องแทนการชัตดาวน์ ตรงนี้เป็นจุดเด่นที่ทำให้เราอยากพกเครื่องนี้ออกไปพิมพ์งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายใจไร้กังวลเรื่องแบตจะหมดหาที่เสียบปลั๊กไม่ได้

นอกจากนี้ ความบางและเบาของตัวเครื่องก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ และที่อดชมไม่ได้ ก็คือเรื่องของระบบเสียงซึ่งทางคอลัมน์แกดเจ็ตได้เทสต์ไปแล้ว 2 รุ่นพบว่าระบบเสียงที่ใส่มาในอัลตราบุ๊กนั้นให้เสียงที่ใสและกังวานฟังชัด มีอะคูสติกของเสียงที่ดี เราสามารถฟังเพลงเพลินๆ ได้อย่างระรื่นหู แต่หากคุณต้องการฟังเสียงเบสที่หนักแน่น อัลตราบุ๊กยังตอบโจทย์ตรงนี้ไม่ได้แต่ภาพรวมแล้วหลายคนน่าจะประทับใจในการฟังเพลงผ่านเครื่องอัลตราบุ๊กอย่างแน่นอน

สุดท้ายจุดอ่อนที่เราควรรู้ก่อนซื้อเครื่องอัลตราบุ๊กก็คือ บางรุ่นมีพอร์ตให้เพียงแค่ 2 พอร์ต เป็น พอร์ต ยูเอสบี 3.0 เสียบ 1 พอร์ต ดังนั้นจะต้องมีอุปกรณ์เสริมหากคุณต้องการเชื่อมต่อกับระบบเก่าๆ และสายแลน หรือวีจีเอพอร์ต แต่มาตรฐานทุกรุ่นจะมีพอร์ต HDMI มาให้ในตัว ไม่มีช่องใส่ดีวีดีรอมมาให้ จึงควรตรวจดูพอร์ตที่เราต้องการใช้งานเป็นประจำ

สุดท้ายเรื่องของการพิมพ์งานด้วยความที่แป้นทัชแพดมีขนาดใหญ่ เวลาพิมพ์งานจึงพบปัญหานิ้วโป้งพลาดไปโดน ทำให้การพิมพ์บนหน้าจอกระโดดไปมา จึงควรใช้ร่วมกับเมาส์และปิดการใช้งานทัชแพดระหว่างพิมพ์

นอกเหนือจากนี้ ถ้าให้เราเลือกระหว่างโน้ตบุ๊กทั่วไป กับเน็ตบุ๊กที่พกพาสะดวก ผมขอเลือกอัลตราบุ๊กไว้ใช้งานสักเครื่องจะดีกว่า ส่วนแท็บเล็ตหรือไอแพดนั้น ตอบโจทย์ของไลฟ์สไตล์มากกว่าการทำงาน แต่นำไปใช้งานแทนเน็ตบุ๊กได้ แต่ยังไม่สามารถเทียบได้กับอัลตราบุ๊กในการทำงานระดับสูงที่ต้องใช้แป้นพิมพ์และพลังประมวลผลที่สูงกว่า

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 29 มีนาคม 2555 เวลา 14:05 น. โดย...โยโมทาโร่

วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

แว่นตา3มิติจากเอปสัน

เอปสันเปิดตัว "Epson Moverio BT-100" แว่นตาสามมิติเพื่อความบันเทิงแบบเหนี่ยวที่พกพาไปได้ทุกที่

ใกล้ถึงวันหยุดยาวๆ ใครที่กำลังเบื่อหน่ายกับการท่องเที่ยวพร้อมกับผู้คนมากมายแล้วล่ะก็ นั่งดูภาพยนตร์ดีๆ สักเรื่องอยู่กับบ้าน ก็คงสร้างความสุขและความประทับใจไม่แพ้การพักผ่อนแบบไหนๆ ซึ่งปัจจุบันเรื่องของ 3 มิติกำลังมาแรง โดยถ้าใครได้ไปงานคอมมาร์ตที่เพิ่งผ่านไปของปีนี้ คงได้เห็นแว่นตาฉายภาพ 3 มิติมาโชว์อยู่คือ Epson Moverio BT-100 ซึ่งแว่นนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อดูหนัง แต่ตัวของมันเองนั่นล่ะที่สามารถเป็นจอภาพ 3 มิติ ให้เราได้สวมใส่เพื่อดูไฟล์ 3 มิติได้

Moverio BT-100 เป็นแว่นตาจอภาพขนาดข้างละ 0.52 นิ้ว ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่กว่าแว่นสายตาที่ใช้กันประจำไม่มากเท่าไหร่นัก จึงพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก มีความละเอียดระดับ qHD (960 x 540 พิกเซล) ซึ่งนั่นจะทำให้คุณรู้สึกราวกับว่ากำลังชมภาพหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 320 นิ้ว ที่ระยะห่าง 20 ม. (หรือเทียบเท่ากับดูทีวี 80 นิ้วในระยะใกล้)

ว่ากันด้วยการใช้งาน BT-100 มาพร้อมกับชุดหูฟังที่ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ควบคุมขนาดเล็ก ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.2 สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อดึงคอนเทนต์จากอินเทอร์เน็ตเข้ามารับชมบนแว่นตาจอภาพได้ ความจำในเครื่อง 1GB แต่รองรับการ์ดหน่วยความจำ SDHC ที่สูงสุด 32GB ส่วนแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 6 ชม. ดูภาพยนตร์เรื่องสองเรื่องได้สบาย ไม่มีสะดุด ราคาขายประมาณ 20,000 กว่าบาท โดยยังไม่ประกาศการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการออกมาในประเทศไทย ถ้าใครใจร้อนคงต้องหาซื้อกันในโลกออนไลน์ไปก่อน

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 27 มีนาคม 2555 เวลา 20:52 น. |

บาง...แต่แกร่ง Acer TravelMate 8481

เอเซอร์แนะนำโน้ตบุ๊คสายพันธุ์แกร่งรุ่นใหม่ "Acer TravelMate 8481 Series" ที่มาพร้อมความบางเฉียบ

บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ เปิดตัวโน้ตบุ๊กสายพันธุ์แกร่งรุ่นใหม่ล่าสุด Acer TravelMate 8481 Series ด้วยรูปลักษณ์บางเฉียบ ทว่าประสิทธิภาพภายในแข็งแกร่งอย่างคาดไม่ถึง มาดูกันสิว่าดีเด็ดอย่างไร

Acer TravelMate 8481 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความบางเพียง 18 มม. ตัวฝาเครื่องทำจากวัสดุคาร์บอน ซึ่งเพิ่มความแข็งแกร่งทนทานได้มากกว่าเดิม แถมยังให้น้ำหนักเบาเพียง 1.5 กก. ส่วนบานพับเปิด-ปิดฝาเครื่องผลิตจากเมทัล อัลลอยจึงยืดหยุ่นเป็นพิเศษ

รองรับหน่วยประมวลผล Intel CoreTM i5-2467M ฮาร์ดดิสก์ 320GB แรม DDR3 สูงสุด 4GB และติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7 Professional มาพร้อมกับตัวเครื่อง เพิ่มความสะดวกในการพิมพ์ด้วยคีย์บอร์ดแบบ Acer FineTouch เพิ่มขยายใหญ่ขึ้นเป็น 2.3 มม. และทัชแพดขนาดใหญ่ขึ้นแบบ Multi-Gesture สะดวกในการใช้ แถมยังทำงานได้ยาวนานอย่างน้อย 6.5 ชม. เพราะใช้แบตเตอรี่ขนาด 4 เซลล์ และยืดอายุการชาร์จแบตเตอรี่ได้นานถึง 1,000 ครั้งขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Acer Dust Defender ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้นด้วย จึงยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิมมากกว่า 70%

Acer TravelMate 8481 วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 26,900 บาท (ราคาไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เอเซอร์ คอลเซ็นเตอร์ 02-685-4311

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 28 มีนาคม 2555 เวลา 10:52 น.

วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555

โนเกีย...“รอยสักอัจฉริยะ” ซึ่งสามารถสั่นได้เวลามีสายโทร.เข้า

โนเกียเปิดตัวหมึกสำหรับสักที่มีสารแม่เหล็ก สามารถสั่นได้เมื่อมีสายโทรศัพท์เรียกเข้า

ท่ามกลางการแข่งขันดุเดือดในตลาดมือถือในปัจจุบัน บรรดาผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ของโลกต่างพยายามงัดเทคโนโลยีสุดล้ำเพื่อเอาใจผู้บริโภค ทั้งการพัฒนาการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟน หรือลูกเล่นแปลกใหม่ที่ช่วยให้ใช้งานง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

ล่าสุด บริษัท โนเกีย ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว “รอยสักอัจฉริยะ” ซึ่งสามารถสั่นได้เวลามีสายโทร.เข้า

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะรอยสักอัจฉริยะจะประกอบด้วยหมึกที่มีสารคุณสมบัติแม่เหล็ก (Ferromagnetic) จึงสามารถสั่นได้ตามสัญญาณที่โทรศัพท์มือถือส่งมา

เรียกได้ว่า ต่อไปนี้ เวลามีคนโทร. ส่งเมสเซจ หรือแม้แต่เวลาที่แบตเตอรี่ใกล้หมด เจ้าของโทรศัพท์ก็จะทราบตลอดเวลาแม้โทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับตัวก็ตาม โดยรอยสักอัจฉริยะจะมีทั้งชนิดที่เป็นแบบถาวรและชั่วคราว

ทางโนเกียเผยว่า รอยสักดังกล่าวจะปล่อยสัญญาณที่แตกต่างกันสำหรับความเคลื่อนไหวต่างๆ บนโทรศัพท์ เช่น หากมีข้อความก็จะสั่น 1 ครั้ง แต่หากมีสายเข้าก็จะสั่น 2 ครั้ง เป็นต้น

ล่าสุดโนเกียได้ยื่นเอกสารขอจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงปี 2553 แต่ก็อาจใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะนำมาใช้จริง

แม้จะเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำที่อาจสามารถปฏิวัติวิธีการสื่อสารในปัจจุบัน ทว่าก็ไม่รู้ว่าจะมีสักกี่คนที่จะยอมเจ็บตัวเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีมิสคอลกันละเนี่ย

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 27 มีนาคม 2555 เวลา 11:50 น.

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

สวยสมาร์ต "พาวเวอร์ช็อตเอส100"

เรื่อง....เคอร์มิท

นับตั้งแต่ออก พาวเวอร์ช็อต เอส 90 (ปี ค.ศ. 2009) จนถึง เอส 95 ใครๆ ก็รู้ถึงศักยภาพของกล้องตัวจิ๋วแต่แจ๋ว เป็นที่ต้องการของคนที่อยากได้กล้องคุณภาพเทียบเท่ามืออาชีพ ทว่าขนาดกะทัดรัด ฉบับกระเป๋า
เคอร์มิทก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เคยจัดเต็มกับกล้องตัวใหญ่แบบ ดีเอสแอลอาร์ (DSLR) ของแคนนอนมาแล้ว แต่ในที่สุดก็ต้องกลับมาตายรัง สูงสุดคืนสู่สามัญ หันมามองหากล้องตัวเล็กๆ คุณภาพโอเค ที่สามารถพกไปงานไหนๆ ก็ได้ทุกที่ เล็งๆ พาวเวอร์ช็อต เอส 95 เอาไว้ แต่พอดีแคนนอน พาวเวอร์ช็อต เอส 100 (Canon PowerShot S100) ออกมาวางตลาด แล้วจะพลาดอัพเดตของใหม่แกะกล่องได้อย่างไรกัน

พาวเวอร์ช็อตตระกูลเอสออกมาในรูปโฉมสีดำสนิทกับเนื้อแมตต์ หรือด้าน 2 รุ่นติดต่อกัน รุ่นล่าสุดก็ยังตามติดมาด้วยตัวเครื่องสีดำด้าน ทว่ามีออปชันใหม่ให้เลือกตามกระแสเทรนด์กล้องและอุปกรณ์แกดเจ็ตสีขาว โดยออกสีแพลทินัมมาสำหรับคนที่เบื่อกล้องสีดำ (ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ของแคนนอนเขาหรอก อิอิ)
หลังจาก เอส 90 แคนนอนพัฒนาระบบแมนวล (Manual) เพิ่มใน เอส 95 แต่ก็ยังเป็นการปรับแต่งเองได้บางส่วนเท่านั้น ทว่าเมื่อมาถึง เอส 100 ก็เลยจัดเต็มให้นักเล่นกล้องคอมแพกต์ที่เก่งกาจขึ้นทุกวัน เรียกว่าสามารถจะปรับแต่งนู่น นี่ นั่น เพื่อการถ่ายภาพดังที่ต้องการในระบบแมนวลได้ 100 เปอร์เซ็นต์ไปเลย ในขณะที่คนชอบระบบออโต เขาก็มี “สมาร์ตออโต” เอาไว้ให้ปลอมตัวเป็นมืออาชีพในการถ่ายภาพกันเหมือนที่มีในรุ่นพาวเวอร์ช็อต จี 12

เมื่อเปรียบเทียบกับ เอส 95 แล้ว เอส 100 มีอะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก เริ่มตั้งแต่เลนส์ที่สามารถเก็บภาพในกว้างขึ้น (Wide) แล้วก็สามารถซูมถ่ายภาพได้ไกลยิ่งขึ้นด้วย (ไกลกว่าเดิม 5 เท่า) นอกจากนี้ยังใส่เทคโนโลยีการประมวลผลใหม่ล่าสุด คือ ดิจิก 5 (DIGIC 5) ที่แคนนอนคุยว่ารวดเร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 6 เท่าทีเดียวเชียว ไวไม่ไวเปล่า ยังลด “นอยส์” (Noise) ตัวป่วนที่ทำให้ภาพออกมาไม่ละเอียดคมชัดได้มากอีกต่างหาก

ในแคนนอน พาวเวอร์ช็อต เอส 100 ยังใส่เทคโนโลยี ซีมอสเซ็นเซอร์ (CMOS Sensor) ที่แคนนอนพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 แต่เคยใช้เพียงในพาวเวอร์ช็อต เอสเอ็กซ์ 1 ไปเพียงรุ่นเดียวของกล้องคอมแพกต์ แต่เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในกล้องรุ่นใหญ่ อีโอเอส เอสแอลอาร์ นำกลับมาใช้เพื่อผลของการถ่ายภาพที่ละเอียด คมชัด เพอร์เฟกต์ โดยเฉพาะกรณีที่จำต้องตั้งไอเอสโอ (ISO) สูงๆ เช่น ถ่ายภาพในที่มืดแต่ไม่อยากใช้แฟลช ที่จะเกิดนอยส์มาก

ผลของเจ้าซีมอสเซ็นเซอร์ นอกจากจะช่วยให้สามารถถ่ายภาพนิ่งได้คมชัดแล้ว ยังช่วยในการถ่ายภาพเคลื่อนไหวระบบฟูลเอชดีด้วย ซึ่งถ้าอุตส่าห์จัดถ่ายแบบฟูลเอชดีแล้วออกมาไม่ใสกิ๊ก ไม่คมชัดก็จบเห่กันพอดี ชิมิ ชิมิ – เคอร์มิทยังไม่ได้ลองกำกับและตัดต่อหนังจากหน้าจอแอลซีดีเครื่อง อันเป็นคุณสมบัติที่เขาบอกว่าทำได้เหมือนเครื่องรุ่นอีโอเอส ดีเอสแอลอาร์ ล่าสุดของแคนนอนเลย ซึ่ง (เขาว่า) ก็มีโหมดจะจัดการกับเจ้านอยส์ตัวป่วนได้อีกระดับหนึ่ง

โหมดการถ่ายภาพที่เล่ามาข้างต้น พอนำมาเทียบกันตัวต่อตัวดูกับแคนนอน พาวเวอร์ช็อต จี 12 แล้ว เจ้าตัวนี้ก็ยังมีดีกว่า ทั้งความละเอียดภาพ น้ำหนักเบากว่ากันครึ่งๆ แถมราคายังย่อมเยากว่าด้วย... แจ๋วอ่ะ
เจ้าพาวเวอร์ช็อต เอส 100 ยังมาพร้อมกับ “วงแหวนมหัศจรรย์” (Control Ring) บริเวณข้อต่อเลนส์ อันเป็นวงแหวนสารพัดประโยชน์มาก คือ สามารถที่จะเลือกได้ดังใจว่าจะใช้มันเพื่อปรับเปลี่ยนอะไร ไม่ว่าจะสั่งให้ใช้เป็นที่เปลี่ยนรูรับแสง เปลี่ยนไอเอสโอ เปลี่ยนความเร็วชัตเตอร์ ใช้ปรับโฟกัสเอง หรือใช้เป็นซูมเข้าซูมออก ฯลฯ เพียงแค่กดเลือกที่ปุ่ม ริงฟังก์ชัน (Ring Function) เท่านั้นเอง

ใหม่แกะกล่องอีกอย่าง คือ การที่แคนนอนใส่ระบบ จีพีเอส เข้ามาเอาใจชาวโซเชียลเน็ตเวิร์ก พวกชอบถ่ายชอบแชร์ภาพ โดยระบบที่ว่าช่วยให้ทำการแท็กสถานที่ที่ถ่ายภาพได้ในตัวภาพได้ทันที พอนำมาโหลดใส่เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ฟลิกเกอร์ ฯลฯ ก็ไม่ต้องมานั่งแท็กสถานที่อีกให้เมื่อย นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยติดตามรอยกล้องว่า เดินทางไปไหนมาบ้าง ซึ่งสามารถจะค้นหาได้ผ่านทางกูเกิลแมป

อ้อ...เครื่องนี้ยังมีโหมดถ่ายภาพใต้น้ำได้ แต่ไม่ได้กันน้ำนะฮะ ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเป็นกรอบพลาสติกกันน้ำ ก่อนที่จะนำไปลองลงน้ำป๋อมแป๋มไปแชะเล่นกัน

ต้องบอกว่า แคนนอน พาวเวอร์ช็อต เอส 100 เขาเล็กพริกขี้หนูจริงๆ
************************
สเปกแคนนอน พาวเวอร์ช็อต เอส 100
ความละเอียดภาพสูงสุด 13.3 เมกะพิกเซล
เลนส์ 24-12. มม.
ระบบโฟกัส ออโต/แมนวล
แอลซีดีมอนิเตอร์ ขนาด 3 นิ้ว
ความไวชัตเตอร์ 1-1/2000 วินาที
ไอเอสโอ 80-6400
ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 8 ช็อต
น้ำหนัก 6.98 ออนซ์ (รวมแบตเตอรี่และเมโมรีการ์ด)

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 22 มีนาคม 2555 เวลา 20:55 น.

วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2555

งาน Commart Thailand 2012

Commart 2012 - เปิดมติใหม่แห่งการชอปสินค้าไอที กับ “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2012” เนรมิตรพื้นที่ศูนย์สิริกิติ์ รับคอนเซปท์ “ชอปสำราญแลนด์แดนไอที” จัดแข่ง “Angry Birds @ Face Book Thailand Challenge at Commart” ประชันสุดยอดแห่งการเหนี่ยวชิงแชมป์ประเทศไทย พร้อมบินลัดฟ้าไปบาหลีกับแอร์เอเชีย

เปิดเวทีคอมมาร์ตเฟ้นหา “Net Gen TJ Search” กระหน่ำทั้งงานด้วยโปรโมชันที่อั้นไม่อยู่ ลด แลก แจก แถม พิเศษเอาใจสาวกที่ตั้งตารอ ตั้งเป้ากวาด 3,000 ล้านบาท โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 - 25 มีนาคม 2555 เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

แหล่งที่มา   เว็บไซต์สนุกดอทคอม 21 มี.ค. 55 11.40 น.

S206 มินิโน้ตบุ๊กราคาเบา

IdeaPad S206 มินิโน้ตบุ๊กน้องใหม่จิ๋วแต่แจ๋วจากเลอโนโว มาพร้อมราคาเริ่มต้นเพียง 12,990 บาท

IdeaPad S206 มินิโน้ตบุ๊กน้องใหม่จิ๋วแต่แจ๋วจากเลอโนโว ที่มาพร้อมกับความบางเพียง 20.7 มม.และน้ำหนักเบาเป็นพิเศษแค่ 1.3 กก. สะดวกต่อการพกพาแบบเพื่อนคู่ใจ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องเดินทางอยู่เสมอ S206 มาพร้อมจอ HD Widescreen ขนาด 11.6 นิ้ว ใช้หน่วยประมวลผล AMD C60 Dual Core Processor

อัพเดตทุกข่าวสารง่ายได้ดังใจด้วยคีย์บอร์ดแบบ Accutype กับแป้นอักษรโค้งมนใช้ถนัดมือ พิมพ์แล้วไม่ตกร่องให้รำคาญใจ จะแชตกับใครก็สนุก สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ในเวลาไม่กี่วินาที แถมยังใช้งานแอพพลิเคชั่นพื้นฐานได้โดยไม่ต้องเปิดวินโดวส์ใหม่ทุกครั้ง ด้วย “Instant on” ใน Lenovo Quick Start ไม่เพียงเท่านั้นยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ อีก เช่น กล้องเว็บแคมแบบ HD ความละเอียด 0.3 ล้านพิเซล เพื่อการใช้งาน Video Chatting และ Web Calling ลื่นไหลไม่สะดุด และมีแบตเตอรี่ใช้งานสูงสุด 4 ชม.เลยทีเดียว

Lenovo IdeaPad S206 มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู มีหลากสีให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสีชมพู สีแดง สีฟ้า สีเทา และสีขาวมุก ในโทนเมทัลลิก งดงามมันวาว วางจำหน่ายแล้วในราคาเริ่มต้นที่ 12,990 บาท หาซื้อได้ที่เลอโนโว เอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เลอโนโว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เลอโนโว คอลเซ็นเตอร์ โทร. 02-689-6451 หรือ 1800-060-087

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 21 มีนาคม 2555 เวลา 14:32 น.

เอซุส เซ็นบุ๊ก เด่นที่พลังเสียง

เอซุสแนะนำ "เซ็นบุ๊ก" UX31E โน้ตบุ๊กสุดบางที่มาพร้อมระบบเสียงทรงพลังและตัวเครื่องสุดทนทาน

เห็นเครื่องเล็กๆ แต่เอซุส เซ็นบุ๊ก รุ่น UX31E ก็สนองความต้องการด้านมีเดียได้อย่างดี เพราะมากับเทคโนโลยีระบบเสียงโซนิก มาสเตอร์ (ASUS SonicMaster) และลำโพง Bang & Olufsen ICEPower ตัวเครื่องบาง แต่ทนทานด้วยพื้นผิวโลหะอะลูมินั่มอัลลอยด์ น้ำหนัก 1.3 กก. ขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ความสวยงามนี่การันตีด้วย 2 รางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม หรือ “iF product design award 2012” และรางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อการสื่อสารยอดเยี่ยม “iF communication design award 2012” โดย International Forum Design GmbH องค์กรด้านการออกแบบระดับโลก ณ เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี

มาพร้อมฟีเจอร์ Instant-on ที่ใช้เวลาเพียง 2 วินาที ในการเข้าระบบ สามารถสแตนด์บายเครื่องได้นานถึง 14 วัน และด้วยประสิทธิภาพของ Super Hybrid Engine II เทคโนโลยีสิทธิบัตรของเอซุส ช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้มากกว่าอัลตร้าบุ๊คถึง 25% อีกด้วยหน่วยประมวลผล Intel 2nd Generation Core i5-2557M, ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD (Solid State) SATA III 128 GB, Bluetooth V4.0 และ USB 3.0, RAM 4 GB

รุ่นนี้มีวางจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนจำหน่ายเอซุสทั่วประเทศ ราคา 37,900

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 22 มีนาคม 2555 เวลา 10:51 น.

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

แคนนอนเปิดกล้อง 23 รุ่นหวังโกยหมื่นล้าน

แคนนอน หนีสงครามราคา ท้าชนตลาดกล้องดิจิตอล เปิดตัว 23 รุ่นรวด กินรวบขึ้นผู้นำตลาด หวังรายได้รวมแตะหมื่นล้าน

นายวาตารุ นิชิโอกะ ประธาน และประธานกรรมการ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ตลาดกล้องดิจิตอลแข่งขันสูงมาก โดยเฉพาะด้านราคา และโปรโมชั่น ทำให้มูลค่าตลาดลดลง โดยปีที่ผ่านมา ตลาดกล้องประเภทคอมแพคลดลง 2-3% จากมูลค่า 6,300 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะลดลงอีกอย่างน้อย 10-15% ขณะที่จำนวนการขายคาดว่าจะมีปริมาณ 1.6 ล้านยูนิต ทั้งนี้ แคนนอนจะไม่แข่งขันในเรื่องราคา แต่จะเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น เพื่อยกระดับตลาดกล้องให้มีมูลค่าสูงขึ้น โดยปีนี้ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 23 รุ่น วางจำหน่ายในเดือนเม.ย. 2555 นี้

สำหรับกล้องรุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายในเดือนเม.ย.นี้ จะมีทั้งกล้องสำหรับมืออาชีพ (ดีเอสแอลอาร์) และกล้องคอมแพค ที่พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เน้นระบบความคมชัดสูงสมบูรณ์แบบ หรือ ฟูล เอชดี เช่น เลนส์ หรือ เพิ่มฟังก์ชั่นไวไฟ และแอพพลิเคชั่น คาเมรา วินโดว์ เพื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน เป็นต้น คาดว่าจะทำให้ยอดขายกล้องดิจิตอลของแคนนอนเพิ่มขึ้น 38% ในปีนี้ หรือมียอดขายรวม 6,346 ล้านบาท จากปีก่อนที่เติบโต 16% ขณะที่วางเป้าหมายรายได้รวม 1 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 24% จากปีที่แล้ว โดยมีรายได้จากพรินเตอร์ 3,100 ล้านบาท และเครื่องถ่ายเอกสาร 1,500 ล้านบาท

นายวรินทร์ ตันติพงศ์พานิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น กล่าวว่า การเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ของแคนนอนในปีนี้ เชื่อว่าจะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ซึ่งไม่เน้นในเรื่องราคา แต่เน้นคุณภาพของภาพเป็นหลัก และจะทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 18 เป็น 23% หรือเป็นผู้นำในตลาดกล้องคอมแพคในปีนี้ จากปีก่อนผู้นำ คือ โซนี่ ตามด้วยซัมซุง ส่วนตลาดกล้องดีเอสแอลอาร์ ปัจจุบันแคนนอนเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งตลาด 65% และปีนี้คาดว่าจะเพิ่มส่วนแบ่ง 65-70%

"ธุรกิจกล้องของแคนนอนเติบโตทุกปี แสดงให้เห็นว่าความต้องการการถ่ายภาพมีมากขึ้น 1 บ้าน มีกล้องมากกว่า 1 ตัวในปัจจุบัน แม้จะมีมือถือสมาร์ตโฟนเข้ามา เป็นการช่วยขยายวงความสนใจการถ่ายภาพให้กว้างขึ้น ไม่ได้ทำให้ตลาดกล้องหดตัวลง แต่หากจะถ่ายภาพให้ดี มีคุณภาพ ผู้บริโภคยังเลือกใช้กล้องอยู่ดี และยิ่งมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ยิ่งเข้าไปตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทางด้านนี้มากยิ่งขึ้น" นายวรินทร์กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทใช้งบทำตลาดรวม 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 20% รวมทั้งจะขยายคอนเซปท์ สโตร์เพิ่มขึ้นอีก 6 แห่ง จากที่เปิดไปแล้ว 5 แห่งเมื่อปีที่แล้ว ลงทุนแห่งละ 4 ล้านบาท โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เช่น อุดร นครราชสีมา เพื่อสนับสนุนการจำหน่ายของดีลเลอร์และพัฒนาตลาดในต่างจังหวัดในแข็งแรงขึ้น ปัจจุบันยอดขายหลักมาจากกรุงเทพฯ 70% ต่างจังหวัด 30%

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 20 มีนาคม 2555 เวลา 21:10 น.

โนเกีย C5-06 สมาร์ตโฟนราคาเบาๆ

ใครมองหาสมาร์ตโฟนราคาถูกไม่ควรพลาดกับ โนเกีย C5-06 ที่มีฟังค์ชั่นการใช้งานครบครันกับราคาเพียง 4,550 บาท 

เอาใจคนที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนราคาถูกด้วย โนเกีย C5-06 ที่มาพร้อมหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 640x360 (nHD) แสดงผลได้สูงสุด 16 ล้านสี มีหน่วยความจำภายใน 40 MB แต่รองรับการ์ดหน่วยความจำ MicroSD ได้สูงสุดถึง 16 GB เลยทีเดียว

ด้านความบันเทิง Nokia C5-06 มีกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 3 เท่า สามารถจับเวลาในการบันทึกภาพได้ 3, 5 และ 10 วินาที บันทึกภาพเคลื่อนไหวด้วยความละเอียดวิดีโอ 640x352 ได้สูงสุด 90 วินาที ซูมดิจิตอลได้ 2 เท่า มีฟังก์ชั่นตั้งค่าความสมดุลของแสงสีขาว และเอฟเฟกต์โทนสีซีเปีย, ขาวดำ, สดใส และเนกาทีฟ นอกจากนี้ ยังสามารถแท็กสถานที่ในภาพและวิดีโอได้อัตโนมัติอีกด้วย แชร์ไฟล์ได้ทันทีผ่าน Edge และ Wi-Fi Nokia C5-06 มาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นสารพัดประโยชน์อย่าง Quick Office Reader, Amazon Widget, Podcasting, โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ เป็นต้น

Nokia C5-06 มี 2 สีให้เลือกคือ ดำและขาว วางจำหน่ายแล้วในราคา 4,550 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โนเกียแคร์ไลน์ 02-255-2111

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 21 มีนาคม 2555 เวลา 12:06 น.

วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2555

ใช้เป็น...ประหยัดแบตฯ ได้

สำหรับผู้ใช้งานโน้ตบุ๊กวันนี้ขอนำเคล็ดลับประหยัดแบตเตอรี่จาก ARIP มาฝากกัน ซึ่งทำได้ไม่ยากเลย

เพราะแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กมีอายุการใช้งานเฉลี่ยเพียง 1-3 ชม. เท่านั้น พอจะใช้งานทีก็ดันหมดเสียอย่างนั้น วันนี้ Arip มีเคล็ดลับประหยัดแบตเตอรี่มาฝากกัน ซึ่งทำได้ไม่ยากเลย
  1. ไดรฟ์ CD และ DVD ไม่ควรปล่อยให้มีแผ่นซีดีหรือแผ่นดีวีดีค้างไว้ในไดรฟ์ เพราะแม้ว่าจะไม่ได้ใช้งาน แต่เมี่อใดก็ตามที่เปิดโน้ตบุ๊กก็จะมีการตรวจสอบไดรฟ์ซีดีและดีวีดีอยู่เสมอ ซึ่งการหมุนแผ่นในแต่ละครั้งใช้พลังงานมากพอตัว
  2. Wi-Fi หากต้องการเซฟแบตฯ ไว้ใช้ยามจำเป็น จะให้ดีควรปิดการค้นหา Wi-Fi
  3. การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก อุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาเชื่อมต่อกับโน้ตบุ๊ก เช่น ไอโฟน ไอพอด และฮาร์ดดิสก์ภายนอก เป็นตัวการสำคัญที่ดึงพลังงานจากแบตฯ ของโน้ตบุ๊ก
  4. ลำโพง การใช้ซาวด์เอฟเฟกต์ในทุกฟังก์ชั่นการทำงาน เช่น เสียงเตือนเวลาปิดหรือเปิดโปรแกรม เสียงเตือนเวลารับอีเมล ล้วนกินไฟทั้งสิ้น ดังนั้นการสั่งปิดเสียงของลำโพงก็มีส่วนช่วยได้
  5. การติดตั้งซอฟต์แวร์ การดาวน์โหลดและอัพโหลดไฟล์ต่างๆ เป็นตัวการกินไฟจำนวนมหาศาล ดังนั้นจึงควรติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ยามที่เสียบต่อโน้ตบุ๊กกับไฟฟ้าดีกว่า
แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 15 มีนาคม 2555 เวลา 19:47 น.

V1 กล้องมิลเลอร์เลสจาก Nikon

Nikonแนะนำ V1 กล้องมิลเลอร์เลสเปลี่ยนเลนส์ได้ใช้งานง่ายแต่ให้คุณภาพระดับมืออาชีพ

Nikon V1 กล้องในตระกูล Nikon 1 เป็นกล้องแบบ Mirrorless (กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ ไม่มีกระจกสะท้อนภาพ) ที่พัฒนาระบบใหม่เอาใจมือใหม่หัดถ่ายที่อยากได้ภาพอย่างมืออาชีพ ซึ่งมาในรูปลักษณ์สวยเรียบ แต่มีสไตล์

V1 มาพร้อมกับจอแอลซีดี มอนิเตอร์ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียดประมาณ 920k-dot มองภาพได้อย่างชัดเจน มุมมองกว้าง โดดเด่นด้วยระบบโฟกัสอัตโนมัติความเร็วสูง ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์รับภาพ จึงโฟกัสวัตถุเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูงสุดได้เร็วมากถึง 60 ภาพต่อวินาที
นอกจากนี้ยังมีโหมดเลือกภาพอัจฉริยะ โดยกล้องจะถ่ายภาพความละเอียดสูง 20 ภาพ แล้วบันทึกภาพที่ดีที่สุดให้คุณอย่างอัตโนมัติเพียง 5 ภาพ โดยวิเคราะห์จากการแสดงอารมณ์บนใบหน้า การจัดองค์ประกอบภาพ และระยะโฟกัส คุณจึงไม่พลาดทุกช็อตประทับใจ แถมยังได้ภาพสวยงามอีกด้วย
มีฟังก์ชั่น Motion Snapshot โดยกล้องจะบันทึกภาพนิ่งร่วมกับภาพยนตร์เคลื่อนไหวช้า และเพิ่มลูกเล่นด้วยดนตรีประกอบ ราวกับว่าได้ทำสไลด์ภาพความทรงจำด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกภาพนิ่งระหว่างการถ่ายภาพวิดีโอได้ด้วย โดยที่ไม่ทำให้ภาพกระตุก และมีโปรแกรม Short Movie Creator สำหรับตัดต่อวิดีโอที่ใช้งานแสนง่าย

Nikon V1 มี 2 สีให้เลือก คือ ขาวและดำ วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 28,900 บาท (ราคาแล้วแต่เลนส์)

แหล่งที่มา   เว็บไซต์ 15 มีนาคม 2555 เวลา 19:42 น.

วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

สมาร์ตโฟนเสียงดี HTC Sensation XL

คอเพลงไม่ควรพลาดกับสมาร์ตโฟนดีไซน์สวยที่มาพร้อมคุณภาพเสียงสุดเจ๋งอย่าง HTC Sensation XL

คนที่รักการฟังเพลงและชอบที่จะอยู่ในโลกแห่งเสียงดนตรีทุกที่ที่ไป ห้ามพลาดกับสมาร์ตโฟนดีไซน์สวยอย่าง HTC Sensation XL ที่มาพร้อมกับนิยามที่ว่า “ปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของเสียงดนตรี” แหม...รู้อย่างนี้ก็คงนึกออกแล้วสินะว่า Sensation XL โดดเด่นที่ตรงไหน

Sensation XL มาพร้อมกับรูปลักษณ์บางเฉียบเพียง 9.9 มม. ตัวเครื่องทำจากโลหะอัลลอยด์ หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 4.7 นิ้ว สีสันคมชัด พลังเสียงมาในระบบ Beats Audio เอกลักษณ์สำคัญให้เสียงคมชัด บวกกับระบบเสียง SRS รอบทิศทาง จึงเติมเต็มทุกความบันเทิง ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม มันทุกอารมณ์ ยิ่งทำงานคู่กับชุดหูฟัง urBeats ด้วยแล้ว คงไม่มีใครจะมาขัดขวางโลกส่วนตัวของคุณได้

ไม่เพียงเท่านั้น จุดเด่นอีกอย่างของ Sensation XL คือ กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมดูอัล แอลอีดี แฟลช และเลนส์ Wide f 2.2 ขนาด 28 มม. จึงเก็บภาพได้ในมุมที่กว้างกว่า ไม่มีขาดตกบกพร่อง มีระบบปรับสมดุลแสงสีขาว โหมดฉาก และค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ มีกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล เพิ่มความสนุกไปอีกขั้นด้วยฟังก์ชั่นการตกแต่งภาพด้วยเอฟเฟกต์และฟิลเตอร์ให้เลือก นอกจากนี้ยังบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ในระบบเอชดีอีกด้วย ซึ่งสามารถบันทึกเสียงได้อย่างชัดเจน เพราะมีไมโครโฟนถึงสองตัว จึงบันทึกเสียงได้แบบเซอร์ราวด์และขจัดเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการได้

ราคา 20,500 บาท

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 15 มีนาคม 2555 เวลา 11:38 น.

หูฟังสวยหวาน

แบรนด์หูฟังจากเกาหลีแนะนำหูฟังรุ่น Pastel C300H ที่มาพร้อมสีสวยหวานและคุณเสียงคมชัด

หูฟังที่มีสีสันสวยงามนี้ เป็นของ Cresyn รุ่น Pastel C300H ชื่ออาจไม่คุ้นแต่หลายคนก็อาจรู้จัก เป็นผลงานการผลิตจากเกาหลี ประเทศโซนเอเชียที่มุ่งมั่นในการผลิตอุปกรณ์ไอทีและแกดเจ็ตทั้งหลาย Cresyn วางกลุ่มให้กับผลิตภัณท์หูคุณภาพสูง ดีไซน์ล้ำสมัย พร้อมพลังเสียงที่บาลานซ์ คมชัด เบสแน่น หูฟังปรับสายคาดได้ตามสรีระของศรีษะ น้ำหนักเบา และที่เด่นก็เป็นสีหวานๆ สวยๆ

อยากให้เห็นความมุ่งมั่นของ Cresyn สักหน่อย ที่นี่มีทีม R&D เป็นของตนเอง เน้นในเรื่องอุปกรณ์หูฟังและลำโพง แถมยังเปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าทั่วโลก เพื่อพัฒนาสินค้าในรุ่นถัดไปอย่างสม่ำเสมอ ที่ผ่านมาได้เปิดตัวในตลาดโลกแล้วหลายประเทศ เช่น สหรัฐ ยุโรป เบลเยียม โปแลนด์ รัสเซีย ตุรกี ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย

สำหรับประเทศไทย ถ้าสนใจหาซื้อได้จากร้านลอฟท์ ชั้น 4-5 สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น 3 จามจุรีสแควร์ และชั้น 1 พาราไดซ์พาร์ค
ราคา 1,890 บาท

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 14 มีนาคม 2555 เวลา 17:15 น.

วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555

แท็บเล็ตบางๆ จากโตชิบา

โตชิบาคลอดแท็บเล็ดหน้าจอ 10.1 นิ้ว บางสุดในตลาดพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กับราคา 20,990 บาท
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่แข่งขันกันดุเดือดไม่แพ้แกดเจ็ตชิ้นไหน สำหรับตลาด “แท็บเล็ต” เพราะล่าสุด โตชิบา เพิ่งเปิดตัวแท็บเล็ตหน้าจอ 10.1 นิ้ว บางที่สุดในโลก ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีของผู้บริโภคที่จะได้เลือกแต่สินค้าดี ราคาโดนใจไว้ใช้งาน
Toshiba REGZA Tablet AT200 โดดเด่นในเรื่องความบางเพียง 7.7 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 535 ก.เท่านั้น ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 3.2 Honeycomb หน่วยประมวลผล OMAP4430 ความเร็ว 1.2GHz Dual Core พร้อมหน้าจอระบบสัมผัส Gorilla Glass ความละเอียด 1,280x800 พิกเซล ที่ออกแบบมาไร้ขอบทำให้มีหน้าจอ 10.1 นิ้ว ดูกว้างกว่าและแสดงผลได้หลากหลายมุมมอง

AT200 ให้ภาพคมชัด คุณภาพสูงด้วยเทคโนโลยี Autoview และ Resolution+ ที่แสดงรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน คมชัด และสีสันสมจริงกว่าเดิม ด้านคุณภาพเสียงก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเพิ่มเติมด้วยอุปกรณ์ The Adaptive Sound Device Enhancer’s Sophisticated Algorithm ช่วยให้คุณภาพเสียงเทียบเท่าลำโพงขนาดใหญ่ และเทคโนโลยี Sound Masking Equalizer ปรับสมดุลของเสียงแม้อยู่ในที่ที่มีเสียงรบกวนสูง

นอกจากเพลินไปกับการดูหนังฟังเพลงด้วยภาพสีสดเสียงชัดแล้ว ในเรื่องความบันเทิงด้านการถ่ายภาย์พ AT200 มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีแอลอีดีแฟลชและกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอได้ พร้อมกันนั้นยังเพิ่มเติมความสนุกด้วยการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมันๆ ได้จาก Android Market

ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปยังแกดเจ็ตชิ้นอื่นๆ เช่น โทรทัศน์ ด้วยช่องต่อสำหรับ Mini-USB, Micro-SD, Micro-HDMI และ Docking Port หรือต่อผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth ได้อีกด้วย

Toshiba REGZA Tablet AT200 อันน่าเย้ายวนนี้ วางจำหน่ายให้เป็นเจ้าของกันแล้ว ในราคา 20,990 บาท

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 13 มีนาคม 2555 เวลา 12:24 น.

วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555

เลอโนโวไฮบริด

เลอโนโวเผยโฉม "ThinkPad X1 Hybrid" โน้ตบุ๊กสุดบางเบาที่มาพร้อมความแรงและการประหยัดพลังงาน

ตั้งแต่ต้นปี เลอโนโว ได้เปิดแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะวางจำหน่ายในปีนี้ หนึ่งในรุ่นที่มีการเผยว่าจะมาแน่ๆ คือ ThinkPad X1 Hybrid ซึ่งเผยโฉมแล้ว จะมาพร้อมกับความบางเบาเพียง 1.5 ซม. และหนักไม่ถึง 1.8 กก. กับจอขนาด 13.3 นิ้ว ที่เติมเต็มขีดความสามารถในการประมวลผลข้อมูลของ CPU เป็นสองเท่า และพลังการประมวลผลงานกราฟฟิกที่เพิ่มเป็นสี่เท่า เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กเลอโนโวขนาด 13 นิ้ว รุ่นก่อนหน้านี้

โน้ตบุ๊กไฮบริดรุ่นนี้มาพร้อมกับหน่วยประมวลให้เลือกตั้งแต่ Intel Core i3, i5 และ i7 และระบบปฏิบัติการ Windows 7 แม้จะจัดอยู่ในกลุ่ม Crossover PC ที่ยอดเยี่ยม ThinkPad X1 Hybrid ยังคงเป็นโน้ตบุ๊กที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจ ด้วยคุณสมบัติที่ครบครัน อย่างเช่น Optional Mobile Broadband, จอ Corning Gorilla Glass ความละเอียดสูง และเว็บแคมความละเอียดสูง พร้อมไมโครโฟนรองรับการใช้งาน Video chatting และ Web Calling นอกจากนี้ ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาด้วยเทคโนโลยี Intel vPro2 ที่มีฮาร์ดไดรฟ์ที่เข้ารหัสพร้อมระบบ Remote Management Support และการเข้าถึงข้อมูลจากลายนิ้วมือ (Fingerprint Reader) ระบบเสียงแบบ Dolby Home Theater v4 รองรับการเชื่อมต่อแบบ DMI port และเทคโนโลยี Intel Wireless Display เพื่อเชื่อมต่อแบบไร้สายกับโทรทัศน์หรือโปรเจกเตอร์ในการแสดงภาพวิดีโอระดับ 1080p

ส่วนการจะเข้าสู่โหมด Hybrid เห็นว่าจะมีระบบปฏิบัติการลินุกซ์ Instant Media Mode มาช่วยทำหน้าที่เมื่อเลือกโหมดนี้ ทำให้กินไฟต่ำ ถ้าสนใจอย่างไรช่วงนี้ค่อยๆ เก็บเงินไว้ก่อน เพราะจะวางตลาดจริงๆ ราวเดือน มิ.ย.นี้ ราคาเริ่มต้นหยอดกระปุกไว้สัก 3 หมื่น น่าจะมีทอนนิดๆ แต่ถ้าต้องการสเปกสูงขึ้นอีกก็ขยันเก็บเงินไว้

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 12 มีนาคม 2555 เวลา 07:44 น.

แอลซีดีจอ 55 นิ้ว

อาร์ซีคอมโปเนนท์แนะนำ จอแอลซีดีทัชกรีน  Neovo ขนาด 55 นิ้วกับความคมชัดขั้นเทพ

บริษัท อาร์ซีคอมโปเนนท์ (ประเทศไทย) ขอแนะนำ จอแอลซีดีทัชกรีนยี่ห้อ Neovo (เนโว่) รุ่น RX Series ขนาด 55 นิ้วใหม่ รองรับความละเอียดภาพสูงสุด 1920x1080 FHD Resolution เพื่อใช้สำหรับติดตั้งภายนอกและในอาคาร ให้สีสวยสดคมชัดกว่าการใช้โปรเจกเตอร์ และมีขอบจอบางเพียงแค่ครึ่งนิ้ว เพื่อทำวิดีโอวอลล์แสดงภาพขนาดใหญ่โดยมีรอยต่อน้อยที่สุด สามารถต่อสัญญาณเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือกล้องวงจรปิดได้โดยตรง มีวงจรควบคุมความร้อนภายใน รวมทั้งหน้าจอเป็นกระจกนิรภัยกันกระแทกและวัสดุภายนอกทำจากเหล็ก ซึ่งเนโว่เป็นแบรนด์ที่จำหน่ายจอคุณภาพในยุโรปมานานที่พบได้ในห้องประชุม พิพิธภัณฑ์ สถานีขนส่ง ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้าในยุโรป

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัท อาร์ซีคอมโปเนนท์ (ประเทศไทย) โทรศัพท์ 02-7121401-4

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 12 มีนาคม 2555 เวลา 07:48 น.

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

เปิดตัวแล้วไอแพด 3 รองรับ 4 จี

แอปเปิลเปิดตัว ไอแพด 3  สเปกสุดหรู รองรับ 4 จี  หน้าจอเรตินาความละเอียดเหนือชั้น กล้อง 5 ล้านเมกะพิกเซล วางขาย 10 ประเทศ 16 มี.ค. 2555

บริษัท แอปเปิล ได้เปิดตัว ไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุด ไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดนั้น  แอบเปิลเคลมว่า จะมีความเร็วกว่าเดิมถึง 4 เท่า โดยใช้ชิพประมวลผลรุ่น A5X ซึ่งจะเป็นสมองกลสำคัญสำหรับอุปกรณ์ตัวนี้ ยิ่งไปกว่านั้น การประมวลภาพหน้าจอจะมีความเร็วมากกว่ากว่าเดิม และสามารถประมวลผลภาพสามมิติ โดยแอปเปิล ระบุว่า มีความคมชัดมากกว่าโทรทัศน์ เอชดี ขนาด 40 นิ้วเสียอีก อีกทั้งหน้าจอ ยังจะใช้ระบบแสดงภาพแบบเรตินา เช่นเดิม และจะมาพร้อมกับกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล และ รองรับเทคโนโลยี 4 จี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการประทวงผลที่เร็วขึ้น และหน้าจอที่คมชัดขึ้น ทำให้ไอแพดรุ่นใหม่นี้ จะมีความหนากว่าเดิม เนื่องจากจำเป็นต้องใช้แบตเตอร์รีที่มีความจุมากขึ้น โดยจะมีความหนา 9.4 มิลลิเมตร ส่วนไอแพด 2 มีความหนาอยู่ที่ 8.8 มิลลิเมตร 

ขณะที่น้ำหนักจะอยู่ที่  1.33 -1.44 ปอนด์ (0.6 -0.65 กิโลกรัม) แล้วแต่รุ่น  ขณะที่ไอแพดรุ่นดั้งเดิมนั้นหนัก 1.5 ปอนด์ 

แอปเปิล ระบุว่า แบตเตอร์รีรุ่นใหม่นี้จะมีความจุมากขึ้นกว่าเดิม 70% แต่จะสามารถใช้งานได้ในระยะเวลเท่าเดิมคือ 10 ชั่วโมง

เอพีรายงานว่า การแสดงภาพนั้นทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการแสดงภาพที่มีความละเอียดต่ำในเวปเบราเซฮร์ ซึ่งจอของไอแพดรุ่นล่าสุดนี้ จะช่วยแสดงภาพเหล่านั้นให้ดูคมชัดมากที่สุด และสีที่แสดงนั้นจะสดใส และมีความลึกมากกว่าไอแพดรุ่นก่อนๆ

ไอแพดใหม่ตัวนี้ สนนราคาเท่ากับไอแพด 2 โดยจะเริ่มที่ 499 เหรียญ  ส่วนตัวเครื่องที่รองรับสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จะสนนราคาระหว่าง 629 - 829 เหรียญ

แอปเปิล ระบุว่า จะยังคงสายการผลิตไอแพด 2 ตัวเดิมไว้อยู่ และจะลดราคาลงมาอยู่ที่ 399 เหรียญหรัฐเท่านั้น ซึ่งจะช่วยให้แอปเปิลสามารถคงส่วนแบ่งการตลาดในตลาดแท็บเล็ตที่มีราคาถูกกว่าได้ด้วย ซึ่งคู่แข็งสำคัญมีทั้ง "คินเดิล ไฟร์" แท็บเล็ตราคาย่อมเยาว์ จากอาเมซอนดอต คอม ซึ่งมีราคา 199 เหรียญเท่านั้น และแท็บเล็ตจากซัมซุงก็ดั๊มพ์ราคาลงมาต่ำกว่า 500 เหรียญสหรัฐ

ทิม คุ้ก ซีอีโอ ของแอปเปิล  กล่าวในงานเปิดตัวที่ซาน ฟรานซิสโกว่า "แอปเปิลกำลังก้าวขึ้นสู่อีกระดับ และกำลังปรับโฉมไอแพดทั้งหมด"

ทั้งนี้ แอปเปิลระบุว่าชื่อของไอแพดตัวนี้ไม่ใช่ ไอแพด 3 หรือ ไอแพด เอชดี แต่มีชื่อว่า "ไอแพดใหม่" (The new Ipad) เท่านั้น โดยจะเริ่มวางขายในสหรัฐในวันที่ 16 มีนาคมนี้ รวมถึงในแคนาดา และอีก 10 ประเทศทั่วโลก และจะเริ่มขายในอีก 25 ประเทศทั่วโลกในสัปดาห์ต่อไป

ขนาดของ นิวไอแพด บาง 9.4 มิลลิเมตร หนัก 1.5 ปอนด์ อายุแบตเตอรี่ยาวนาน 10 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้น 499, 599, 699 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 14,970 - 20,970 บาท)  สำหรับรุ่น Wifi ความจำ 16, 32, 64 กิกกะไบต์ตามลำดับ ส่วนรุ่น Wifi+4G  ราคาเริ่มต้น 629, 729, 826 ดอลลาร์สหรัฐฯ ความจำ  16, 32, 64 กิกกะไบต์ตามลำดับ (ราว 18,870-24870 บาท) เริ่มเปิดให้จองได้ตั้งแต่วันนี้ แต่เริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 16 มี.ค. ใน 10 ประเทศทั่วโลก คือ สหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และออสเตรเลีย นอกจากนี้ แอปเปิล ยังประกาศการอัพเดทซอฟต์แวร์ใหม่ๆ อีกมากมาย ทั้ง iWork, iPhoto, garage band เป็นต้น

ส่วนไอแพด 2 จะยังขายต่อไป ลดราคาลงมาอยู่ที่ 399 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในรุ่น 16GB WiFi พร้อมกันนี้  แอปเปิล ยังเผยว่า ปัจจุบันบริษัทขายสินค้าที่เรียกว่า อุปกรณ์ในยุคหลังพีซี ซึ่งประกอบด้วยไอแพด, ไอโฟน และไอพอด รวมแล้วมากกว่า 172 ล้านเครื่อง และมียอดขายอุปกรณ์ที่ใช้แพลตฟอร์ม "ไอโอเอส" แล้ว 315 ล้านเครื่อง

นอกจากนี้บนเวทีดังกล่าวแอปเปิลยังได้อัพเดท "แอปเปิล ทีวี" อุปกรณ์สำหรับสตรีม วิดีโอ ที่รองรับการเล่นวิดีโอที่คุณภาพคมชัดมากขึ้น ราคาเริ่มต้น 99 ดอลลาร์ อีกด้วย

แหล่งที่มา    เว็บไซต์โพสทูเดย์ 08 มีนาคม 2555 เวลา 06:43 น.

ปวดคอ เพราะแท็บเล็ต?

จริงหรือเปล่าว่า การใช้แท็บเล็ตจะทำให้เราปวดคอได้ ตามมาดูกัน...

อ้างอิงจากทีมวิจัย Harvard School of Public Health ซึ่งนำโดย Jack Dennerlein ที่ทดสอบกับกลุ่มอาสาสมัครชาย 7 คน หญิง 8 คน ซึ่งมีประสบการณ์การใช้แท็บเล็ตอย่าง iPad 2 และ Motorola Xoom ใน 4 ลักษณะท่าทางการใช้

เริ่มที่ท่าแรกคือ มือข้างหนึ่งถือแท็บเล็ตที่ไม่มีเคสไว้บนตัก และอีกมือสัมผัสหน้าจอเพื่อใช้งาน ท่าที่ 2 คือ วางแท็บเล็ตที่มาพร้อมกับเคสไว้บนตัก และใช้งานพร้อมกัน 2 มือสัมผัสหน้าจอ ท่าที่ 3 คือ แท็บเล็ตพร้อมเคสวางไว้บนโต๊ะ โดยหน้าจอจะถูกยกขึ้นด้วยมุมแคบๆ ใช้สองมือในการใช้งาน ปิดท้ายด้วยท่าทางสุดท้าย หรือ “Table-Movie” วางแท็บเล็ตที่ใส่เคสไว้บนโต๊ะ โดยตัวเครื่องจะถูกยกในมุมที่สูงขึ้นจนสามารถมองเห็นหน้าจอได้ชัด ซึ่งผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไรเลยกับหน้าจอ แค่นั่งดูหนังหรือรายการต่างๆ เท่านั้น

จากผลการวิจัย พบว่า จากท่าทางที่ไม่เหมือนกันในการใช้ จะทำให้มุมก้มของศีรษะต่างกันตามไปด้วย โดยการใช้แท็บเล็ตจะทำให้ผู้ใช้ต้องก้มคอในมุมที่แคบ (ท่าที่ฝืนธรรมชาติ) มากกว่าการใช้คอมพิวเตอร์พีซีและโน้ตบุ๊ก จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้รู้สึกเจ็บและปวดคอ แต่หากต้องการใช้งานแท็บเล็ตจริงๆ ก็ควรเลือกใช้ในท่าทางที่ 4 คือ วางแท็บเล็ตที่มีเคสไว้บนโต๊ะ โดยควรเลือกเคสที่สามารถยกหน้าจอด้วยมุมที่ค่อนข้างชัน จะทำให้ไม่ต้องก้มคอต่ำเกินไป หลีกเลี่ยงการตึงของกล้ามเนื้อ Extensor Muscles (กล้ามเนื้อที่เหยียดได้) ของคอ แค่นี้ก็อาจช่วยลดสาเหตุของการเกิดอาการปวดคอได้

แหล่งที่มา    เว็บไซต์โพสทูเดย์ 08 มีนาคม 2555 เวลา 11:18 น.

วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555

Hi5 คืนชีพเตรียมพบกับโฉมใหม่

          Hi5 บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) ยุคแรกที่โด่งดังมากที่สุด คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักและไม่เคยเล่น Hi5 แน่นอน Hi5 เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2003 และได้ก้าวมาครองตำแหน่งเว็บไซต์สังคมออนไลน์อันดับต้น ๆ  ของโลก ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกในปี 2008 หลังจากนั้นกระแสของ Hi5 เริ่มลดลงเนื่องจากมีเว็บ Social Network หน้าใหม่อย่าง Facebook เข้ามาตีตลาด ทำให้ความนิยมและจำนวนผู้ใช้งาน Hi5 นั้นลดลงอย่างรวดเร็ว และในปี 2011 บริษัท Tagged Inc. ได้เข้ามาซื้อ Hi5 สำหรับ Tagged เป็นเว็บบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์เฉพาะด้านที่ใช้สำหรับค้นหาเพื่อนใหม่เท่านั้น ซึ่งแตกต่างจาก Facebook ที่เน้นเชื่อมสัมพันธ์กับเพื่อนที่รู้จักกันอยู่แล้ว หลังจาก Facebook เริ่มมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นการขยายตัวของ Facebook ได้ส่งผลกระทบต่อเว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์อื่น ๆ ทำให้ทั้ง Hi5 และ Myspace ถึงจุดตกต่ำ ผู้ใช้งานเริ่มลดลง

          ล่าสุด Tagged ได้ออกมาเปิดเผยและแจ้งผ่านหน้าเว็บ Hi5.com ในรูปแบบคลิปวีดีโอเตรียมพบกับโฉมใหม่ของ Hi5 เวอร์ชั่น 2012 ซึ่งจะมาพร้อมกับระบบการทำงานแบบใหม่ การออกแบบใหม่ สามารถกำหนดและตั้งค่าโปรไฟล์ได้อย่างเต็มที่ โดยเพิ่มระบบความปลอดภัยและตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้ดีขึ้น ส่วน Hi5 Coins จะถูกเปลี่ยนไปเป็น Tagged Gold และ Hi5 Group เกมต่าง ๆ จะถูกยกเลิกการใช้งาน โดยจะมีเกมใหม่ ๆ ที่มีความเป็น Social Games เข้ามาแทนที่ นอกจากนี้ยังมีระบบ Chat เพิ่มเข้าอีกด้วย

          สำหรับใครที่กำลังรอคอยเพื่อเตรียมพบกับ Hi5 โฉมใหม่ คงต้องติดตามกันต่อไป การกลับมาของ Hi5 ครั้งนี้จะสามารถแข่งขันกับเฟซบุ๊กเพื่อชิงความเป็นหนึ่งของเว็บสังคมออนไลน์ได้หรือไม่   ทุกคำตอบของ Hi5 ถูกถ่ายทอดผ่านคลิปวีดีโอด้านล่าง มาติดตามกัน


แหล่งที่มา   เว็บไซต์กระปุกดอทคอม

urDrive แอพฯ สุดเจ๋งในไดร์ฟคิงส์ตัน

คิงส์ตันแถมแอพพลิเคชั่นสุดเจ่ง "urDrive" ที่ช่วยจัดการข้อมูลมาพร้อมกับไดร์ฟยูเอสบีตระกูล Data Traveler

คิงส์ตันนั้นได้ชื่อว่ามีไดรฟ์ที่หลายหลายให้เลือก ซึ่งไม่เพียงแต่ตัวไดรฟ์ที่มีมานำเสนอ เพราะปัจจุบันได้แถมแอพพลิเคชั่นเพิ่มมาให้ด้วย อย่างการเปิดตัว urDrive แอพพลิเคชั่นที่แถมมากับไดรฟ์ USB Data Traveler ของคิงส์ตันที่จะแปลงโฉมไดรฟ์ USB จากอุปกรณ์จัดเก็บธรรมดาให้เป็นอุปกรณ์ที่ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและจัดการไฟล์ภาพถ่าย เพลง เกม และวิดีโอส่วนตัวได้อย่างง่ายดาย พร้อมโปรแกรมชมภาพถ่ายและเครื่องเล่น MP3 ในตัวที่ให้การชมอัลบั้มภาพและการฟังเพลงเป็นเรื่องง่าย

urDrive มาพร้อม Norton PC Checkup ซอฟต์แวร์เพื่อความปลอดภัยสำหรับคอมพิวเตอร์ โดดเด่นด้วยเครื่องมือตรวจสอบที่จะสแกนหาไวรัส สปายแวร์ เวิร์ม และแอดแวร์ รวมถึงตรวจสอบความล่าช้าในการทำงานและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูล นอกจากนี้ด้วยเว็บบราวเซอร์ Maxthon 3 ผู้ใช้จะเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ใหม่แห่งโลกดิจิตอลด้วยการอัพโหลดบราวเซอร์อย่างรวดเร็ว รวมถึงสถาปัตยกรรมที่ให้ผู้ใช้สัมผัสได้ถึงประสบการณ์แห่งการท่องเว็บแบบพกพาอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ไฟล์ชั่วคราว ประวัติการท่องเว็บและคุกกี้ต่างๆ จะได้รับการจัดเก็บไว้ในไดรฟ์ USB จึงสามารถท่องเว็บได้อย่างเป็นส่วนตัวแม้ขณะใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ

เรียกได้ว่าเป็นแอพพลิเคชั่นที่เพิ่มให้มา ที่เหมาะกับผู้ใช้ทุกเพศทุกวัยและการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน ที่บ้าน หรือขณะเดินทาง รวมถึงสามารถขยายขอบเขตในการจัดเก็บด้วยบริการสำรองข้อมูลออนไลน์จากไดรฟ์ USB ลงในระบบคลาวด์ฟรี สำหรับครอบครัว urDrive ให้บริการเกมใหม่ล่าสุดจาก EA Games และ Pop Cap ทั้งนี้ผู้ปกครองที่มีธุระรอบตัวสามารถวางใจได้ว่าบุตรหลานจะท่องโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยด้วย Fooz Kids เว็บบราวเซอร์สำหรับเด็ก และ urDrive ยังให้นักเดินทางสามารถเรียกดู จัดการ และแบ่งปันอัลบั้มภาพถ่ายและวิดีโอรวมถึงนำสำเนาเอกสารสำคัญอย่างหนังสือเดินทางติดตัวได้ในขณะเดินทางอีกด้วย

urDrive มีแถมให้ฟรีในไดรฟ์ USB รุ่น Data Traveler 101G2, 108 และ 109 ของคิงส์ตัน รวมถึงรุ่น DTIG3 ในอนาคต สามารถเลือกดีไซน์และความจุได้ตามใจชอบตั้งแต่ขนาด 4GB ถึง 32GB

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 05 มีนาคม 2555 เวลา 21:25 น.

ไมโครซอฟท์เปิดดาวน์โหลดพรีวิววินโดวส์ 8

ไมโครซอฟท์เปิดดาวน์โหลด วินโดวส์ 8 สำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมเปิดสโตร์ดาวน์โหลดแอพฯ ใช้งาน
นายสตีเฟน ซินอฟสกี้ ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์วินโดวส์และวินโดวส์ไลฟ์ บริษัท ไมโครซอฟท์ เปิดเผยว่า ไมโครซอฟท์ได้เริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 เวอร์ชันคอนซูเมอร์ พรีวิว สำหรับลูกค้าทั่วไปสำหรับใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่ preview. windows.com รวมถึงผู้ใช้ในประเทศไทยด้วย หลังจากที่เปิดให้ดาวน์โหลดเวอร์ชันสำหรับนักพัฒนาเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

สำหรับวินโดวส์ 8 จะมีแอพพลิเคชันใหม่ คือ วินโดวส์สโตร์ เวอร์ชันเบตา ซึ่งจะเป็นแหล่งรวมแอพพลิเคชันที่เหมาะกับการใช้งานในวินโดวส์ 8 ที่พัฒนาโดยไมโครซอฟท์และนักพัฒนารายอื่นๆ โดยจะเปิดให้ทดลองใช้งานฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อการทำงานกับคลาวด์คอมพิวติงได้อย่างดี ช่วยให้การทำงานร่วมกับอุปกรณ์พกพา การใช้บริการบนเว็บทำได้อย่างราบรื่น โดยหากผู้ใช้งานใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 อยู่แล้ว สามารถดาวน์โหลดวินโดวส์ 8 มาทดลองใช้งานได้ทันที

ความพิเศษของวินโดวส์ 8 คือ สามารถรองรับทั้งการใช้งานด้วยเมาส์ คีย์บอร์ และระบบสัมผัส คาดว่าจะไดhรับความนิยมจากผู้ใช้ทั่วไปเช่นเดียวกับนักพัฒนาที่มีการดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 3 ล้านดาวน์โหลดทั่วโลก เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลประสบการณ์ใช้งานนำไปปรับปรุงพัฒนาก่อนจะเปิดตัวเวอร์ชันสมบูรณ์
ก่อนหน้านี้วินโดวส์ 7 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อประมาณ 3 ปีก่อนหน้านี้ โดยเป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมสูงทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย

ดังนั้น จึงคาดว่าการเปิดตัววินโดวส์ 8 ครั้งนี้ จะได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน โดยเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งานแบบหน้าจอสัมผัสหรือทัชสกรีน ตอบรับตลาดอุปกรณ์พกพาประเภทแท็บเล็ต ซึ่งกำลังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูง

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 06 มีนาคม 2555 เวลา 11:19 น.

บลูทูธสุดเจ๋งจาก Plantronics

แนะนำหูฟังบลูทูธระดับพรีเมี่ยมรุ่น "Voyager Pro HD" ที่ให้คุณภาพเสียงคมชัดสูง

หาเพื่อนรู้ใจให้สมาร์ตโฟนของเราดีกว่า ด้วยหูฟังบลูทูธระดับพรีเมี่ยมจาก Plantronics กับรุ่น Plantronics Voyager Pro HD จากชื่อก็บอกให้รู้อยู่แล้วว่าเป็นหูฟังคุณภาพเสียงระดับ High-Definition ทำให้ทุกการสนทนาคมชัด ไม่ติดขัด แถมยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์อัจฉริยะอย่าง Smart SensorTM ซึ่งทำหน้าที่เรื่องการรับสายและโอนสายโดยอัตโนมัติ แค่เพียงใส่และถอดชุดหูฟัง มีฟังก์ชั่นการล็อกปุ่มโทรออก และฟังก์ชั่น Multipoint เชื่อมต่อได้ถึง 2 อุปกรณ์ รับรองไม่พลาดทุกการสื่อสารในทุกหมายเลข Voyager Pro HD สนทนาต่อเนื่องได้นานถึง 6 ชม. และเปิดรอรับสายได้ 5 วัน

นอกจากนี้ยังก้าวล้ำไปอีกขั้น เมื่อรองรับระบบ A2DP เพื่อการดูหนัง ฟังเพลงด้วยเสียงระบบสเตริโอได้ทุกที่ที่ต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นยังสะดวกมากขึ้น เพราะเสียงเพลงจะหยุดอัตโนมัติเมื่อถอดชุดหูฟัง และจะเล่นต่อทันทีเมื่อสวมใส่ ทีนี้ล่ะยามว่างจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

Voyager Pro HD ใช้งานได้ง่ายดาย แค่เพียงสวมใส่ไว้บนใบหู และสามารถเช็กสถานะของหูฟังได้ทุกสถานการณ์ เพราะมี Information Voice Alert เสียงเตือนสถานะต่างๆ ของบลูทูธ ทั้งการปรับระดับความดังของเสียง สถานะการเชื่อมต่อ ระยะเวลาที่เหลือของแบตเตอรี่ พร้อมกับมีฟังก์ชั่นโชว์ระดับแบตเตอรี่ที่หน้าจอของสมาร์ตโฟนอีกด้วย

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์จำหน่ายสินค้าไอทีทั่วประเทศ ได้แก่ Jay Mart, iStudio, Power Buy, Power mall, True Coffee, Touch Shop, Studio Phone ฯลฯ

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 06 มีนาคม 2555 เวลา 11:31 น.

วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555

iPadใหม่แรงคาดขายดีทุบสถิติใหม่

แอปเปิลเตรียมเผยไอแพดรุ่นใหม่ 7 มี.ค.นี้ นักวิเคราะห์คาดยอดขายจะทุบสถิติทะลุ 60 ล้านเครื่อง ภายในเวลาอันสั้น

แอปเปิลบริษัทผู้ผลิตคอมพิว เตอร์แท็บเล็ตและโทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟนยอดนิยมของโลก เปิดเผยว่าไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัทน่าจะออกวางขายสู่ตลาดได้ในวันที่ 7 มี.ค.นี้ และจะทำให้ยอดขายไอแพดของบริษัทในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 100 ล้านเครื่อง จากยอดขายไอแพดในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 55 ล้านเครื่อง และทำให้มูลค่าของแอปเปิลในตลาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 15 ล้านล้านบาท)

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่า ไอแพดรุ่นใหม่ที่จะวางตลาดอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ จะสร้างปรากฏการณ์น่าตื่นตะลึงให้กับวงการตลาดคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตอีกครั้ง เนื่องจากผู้บริโภคทั่วโลกส่วนใหญ่ต่างรอคอยที่จะได้ใช้ไอแพดรุ่นใหม่อยู่

ชอว์ วู นักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศชี้ว่า ความต้องการไอแพดจะทำให้บริษัทสามารถขายไอแพดรุ่นใหม่ได้มากกว่า 60 ล้านเครื่องภายในปีนี้ และยอดขายในช่วงเปิดตัวมีโอกาสทำสถิติแซงหน้าไอแพดรุ่นก่อนหน้า

ทั้งนี้ ตลาดของคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตในปัจจุบัน ซึ่งหมายรวมบริษัทคู่แข่งของแอปเปิลที่ใช้ระบบปฏิบัติการกูเกิล แอนดรอยด์อย่าง ซัมซุง และโตชิบา มีมูลค่ากว่า 75 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2,250 ล้านล้านบาท)

จีน มุนสเตอร์ นักวิเคราะห์จากไพเพอร์ จาฟเฟรย์ ระบุว่า มูลค่าตลาดของแท็บเล็ตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากขณะนี้ผู้บริโภคเริ่มหันมานิยมแท็บเล็ต เนื่องจากสะดวก ใช้งานง่าย มีให้เลือกหลากหลาย และราคาไม่แพง โดยเห็นได้จากยอดขายแท็บเล็ตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่เริ่มแซงหน้าคอมพิวเตอร์

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 05 มีนาคม 2555 เวลา 11:02 น.

โซนี่เปิดตัววอล์คแมนโฟนรุ่นล่าสุด

โซนี่ อีริคสัน เปิดตัว สมาร์ตโฟน ที่มาพร้อมคุณสมบัติของเครื่องเล่นเพลงวอล์คแมนเต็มรูปแบบ

บริษัท โซนี่ อีริคสัน โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) เปิดตัว Sony Ericsson Live with Walkman สมาร์ตโฟนสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลง ที่รองรับ xLoud ขยายเสียงลำโพงให้การได้ยินที่ดังและมีมิติมากยิ่งขึ้น บวกกับลำโพงแบบคู่ซ้าย-ขวาที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 เวอร์ชั่นล่าสุด รวมถึงรองรับกับเครือข่าย 3G ได้ทั้ง 2 ค่ายคือ 900/2100 MHz และ 850/2100 MHz

หน้าจอทัชสกรีนขนาด 3.2 นิ้ว ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพด้วยกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัสและไฟ LED รองรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวในระดับ HD 720p และกล้องด้านหน้าความละเอียด VGA ที่สามารถใช้เป็นวิดีโอคอลหรือถ่ายรูปตัวเองได้ อีกทั้งชมไฟล์วิดีโอ Youtube ด้วยความละเอียดระดับ HD ผ่านมือถือและอัพโหลดไฟล์ผ่านมือถือได้อย่างทันท่วงทีผ่าน 3G 900/2100 MHz ความเร็ว 7.2 Mbps รวมถึงรองรับเครื่องเล่น Walkman Player และวิทยุ FM ตัวเครื่อง WI-FI Bluetooth และ A-GPS ให้ท่องโลก Social Network Facebook ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง พร้อมการ์ดหน่วยความจำ 2GB และสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 32GB วางจำหน่ายแล้วมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวและสีดำ

ราคา 7,990 บาท

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 5 มีนาคม 2555 เวลา 11:24 น.

วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555

มัลติฟังก์ชั่นพรินเตอร์ A3 จากบราเดอร์

เครื่องมันติฟังก์ชั่นรุ่นใหม่จากบราเดอร์ที่รองรับขนาดกระดาษทั้งA3 และ A4

บราเดอร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำอิงก์เจ็ตมัลติฟังก์ชั่นพรินเตอร์อีกครั้ง โดยล่าสุดเพิ่งเปิดตัวพรินเตอร์ในตระกูล A3 รุ่นล่าสุด ซึ่ง Brother MFC-J6710DW ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น สะดวกกับผู้ใช้ที่ต้องการใช้งานทั้ง A3 และ A4 ด้วยความสามารถครบครันแบบ 4 in 1 คือ การพิมพ์ ถ่ายเอกสาร สแกน และแฟกซ์เอกสารได้ที่ขนาดสูงสุดคือ A3

รองรับการใช้งานได้ทั้งแบบใช้สายและไร้สาย มีช่องป้อนเอกสารอัตโนมัติที่รองรับกระดาษได้ถึง 35 แผ่น โดยไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนหน้า นอกจากนี้ ยังใช้ตลับหมึกขนาดใหญ่พิเศษ ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ที่สำคัญมาพร้อมฟังก์ชั่น USB Direct จึงสามารถพิมพ์งานจากหน่วยความจำโดยตรง และ PictBridge ซึ่งพิมพ์ภาพจากกล้องดิจิตอลได้เลยทันที

Brother MFC-J6710DW มีเฉพาะสีดำ ดีไซน์หรู ใช้งานง่าย วางจำหน่ายในราคา 14,990 บาท

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 1 มีนาคม 2555 เวลา 20:15 น.