วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เม้าส์ดีไซน์เด่นจากไมโครซอฟท์

เม้าส์สุดเก๋จากไมโครซอฟท์ที่ได้ 5 ศิลปินระดับโลก มาร่วมออกแบบลวดลายบนเม้าส์ 

สมัยนี้การเลือกซื้อแกดเจ็ตหนึ่งชิ้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประโยชน์ใช้สอยอย่างเดียวเท่านั้น รูปลักษณ์ภายนอกที่งดงาม ก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจซื้อ

ล่าสุด ไมโครซอฟท์ออกเม้าส์คอลเลกชั่นใหม่เอาใจเหล่าแฟชั่นนิสต้าโดยเฉพาะ ในรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น อาร์ติสต์ Microsoft Wireless Mobile Mouse 3500 ซึ่งเหมือนเป็นทางเชื่อมระหว่างศิลปะและโลกไอที เพราะได้ศิลปินระดับโลก 5 คนมาร่วมออกแบบเม้าส์ให้ นอกจากจะใช้งานได้เหมาะมือแล้ว ยังโดดเด่นด้วยลวดลายทั้ง 5 แบบ สะท้อนบุคลิกที่ต่างกันของผู้ใช้ได้เลย
เริ่มต้นด้วยเม้าส์ออกแบบโดย สติน่า เพอร์สสัน แรงบันดาลใจจากลวดลายและรูปทรงในยุค 70 โดดเด่นด้วยสีม่วง สะท้อนบุคลิกสบาย เข้าถึงง่าย, เม้าส์จาก ทชโม เหมาะกับคนชอบความกล้าท้าทาย ปราดเปรียวกับสีสันแบบแอบสแทรกต์

เม้าส์จาก สกวอค ตามคอนเซปต์ความบ้าคลั่ง ชอบการเปลี่ยนแปลง สีเข้มเหมาะกับคนชอบความปราดเปรียว รักอิสระ, เม้าส์ที่ออกแบบโดย เคนโซ มินามิ เหมาะกับคนที่มีบุคลิกมั่นใจ ลวดลายไบโอเคมิคอล เน้นไปในโทนสีเหลืองดูสดใส, ปิดท้ายด้วยเม้าส์จาก แซลลี่ ซู เหมาะกับคนบุคลิกสนุกสนาน 2 แบบสุดท้ายนี่เป็นลวดลายในดวงใจของดาราหนุ่มบอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ เพราะเข้ากับความเป็นคนไม่หยุดนิ่ง ชอบทำกิจกรรมของเขานั่นเอง

ด้านคุณสมบัติการใช้งาน Mouse 3500 เป็นเม้าส์ไร้สาย มีตัวรับสัญญาณ Plug-And-Go นาโนทรานซีฟเวอร์ขนาดจิ๋วที่เก็บไว้กับตัวเม้าส์ ร่วมด้วยเทคโนโลยีบลูแทร็กจึงสามารถใช้งานได้ทุกพื้นผิว เหมาะกับการพกพา ช่วยประหยัดพลังงานเพราะปิดสวิตช์ได้เมื่อไม่ต้องการใช้งาน นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานถึง 8 เดือนเลยทีเดียว

หาซื้อได้ที่ร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วประเทศ ราคา 890 บาท

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 31 พฤษภาคม 2555 เวลา 12:05 น.

อาม่ามือถือราคาเบาๆ ขวัญใจผู้สูงอายุ

"อาม่า"มือถือราคาเบาๆ จากอินฟินิตี้ ที่รวบรวมสารพัดฟังก์ชันสุดโดนใจสำหรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ

ด้วยแรงบันดาลใจจากการอยากทำโทรศัพท์มือถือให้คุณแม่ใช้ วันนี้โทรศัพท์ อาม่า มาไกลเกินฝัน โดยเน้นปุ่มกดตัวเลขที่มีขนาดใหญ่ มองเห็นชัดเจน ฟังก์ชั่นการใช้งาน มีเท่าที่จำเป็นสำหรับ สว. หรือผู้สูงวัย ให้ใช้งานง่ายที่สุด ในแบบไม่เน้นลูกเล่น เน้นพ่อแม่เล่นโดยวางกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมายไว้ที่ลูกหลานซึ่งจะเป็นผู้ซื้อให้พ่อแม่ใช้ และจากข้อมูลวิจัยการตลาดชี้ชัดว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนประชากรผู้สูงวัย อายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 10% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ในอนาคตอันใกล้สังคมไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมของผู้สูงวัย (Aging Society) ทำให้โอกาสทางการตลาดของอาม่ายังคงอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ต่อไป

สิ่งที่ทำให้โทรศัพท์มือถืออาม่าได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องมาจากการใช้งานที่ง่ายและใช้ได้จริง เช่น ฟังก์ชั่น SOS ในตัวเครื่อง เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เมื่อกดปุ่มนี้แล้วระบบจะส่งข้อความ SMS ไปยังเครื่องเป้าหมายได้ถึง 5 หมายเลข และโทรตามอัตโนมัติทันที ซึ่งอาจจะเป็นลูกหลาน คุณหมอ โรงพยาบาล สถานีตำรวจ หรือเพื่อนบ้านใกล้ชิด ที่จะสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที รวมถึงปุ่ม หวอ หรือไซเรนในตัวที่จะส่งเสียงดังตลอดเวลา เมื่อกดใช้งานเป็นการบอกตำแหน่งที่อยู่ของผู้สูงอายุในกรณีฉุกเฉินต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม หกล้ม หากันไม่เจอ เป็นต้น

ปัจจุบันโทรศัพท์มือถืออาม่า ซีรี่ส์ มี 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ อาม่าพลัส และซูเปอร์อาม่า ราคาเริ่มต้นที่ 1,490-1,990 บาท สามารถหาซื้อได้แล้วที่ร้านเจมาร์ท บลิสเทล ไอที จังก์ชั่น แม็คโคร ดีแทคเซ็นเตอร์ และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

แหล่งที่มา    เว็บไซต์โพสทูเดย์ 30 พฤษภาคม 2555 เวลา 20:15 น.

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

กล้อง Wi-Fi แคนอน

แคนอนเปิดตัวกล้องดิจิตอลคอมแพกต์รุ่นใหม่เอาใจสาวกโซเชียลเน็ตเวิร์กที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่น ไว-ไฟ ในตัว

สมาร์ตโฟนนั้นขึ้นแท่นอันดับหนึ่งแกดเจ็ตโดนใจในสมัยนี้ เพราะเข้ากับไลฟ์สไตล์ชอบแชะและแชร์ทันทีของใครหลายคน ถึงอย่างนั้นกล้องดิจิตอลเองก็ไม่ยอมหยุดพัฒนาตัวเอง สร้างฟังก์ชั่นใหม่ๆ มานำเสนอผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดแคนอนก็ส่งกล้องดิจิตอลคอมแพกต์รุ่นใหม่ เอาใจคนชอบโซเชียลเน็ตเวิร์กโดยเฉพาะ

IXUS 510 HS และ IXUS 240 HS คือทั้งสองรุ่นที่เรากำลังพูดถึงอยู่ ต่างโดดเด่นด้วยฟังก์ชั่น Wi-Fi ในตัวกล้องและแอพพลิเคชั่น Camera Window ช่วยให้คุณแชร์รูปสวยแบบ Hi-Resolution หรือไฟล์วิดีโอ Full HD จากกล้องไปยังสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต (ทั้งระบบ iOs และ Android) หรืออัพโหลดไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ได้ทันที ทันใจ

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมหน้าจอแอลซีดี ทัชสกรีนขนาด 2.7 นิ้ว ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น โหมดสมาร์ต ออโต้ ปรับภาพถ่ายอัตโนมัติได้มากถึง 58 แบบ, Smooth Skin ปรับสีผิวให้สว่างขึ้น, Soft Focus ปรับโทนสีภาพให้ดูหวานสวย, Face ID Recognition ระบบอัจฉริยะบันทึกชื่อและจดจำใบหน้าได้ถึง 12 คนในตัวกล้อง พร้อมชิปประมวลผลภาพลิขสิทธิ์เฉพาะของแคนนอน DIGIC 5 จึงให้ภาพคมชัดในทุกสภาพแสงลดสัญญาณรบกวนภาพ (Noise)

ที่สำคัญคือ มีระบบกันสั่นแบบ Dynamic IS สำหรับการถ่ายวิดีโอให้ได้ภาพชัดเจนระดับ Full HD กันเลย พิเศษสำหรับรุ่น IXUS 240HS มาพร้อมเลนส์ไวด์ 28 มม. ซูมออปติคอล 5X และ IXUS 510HS มีเลนส์ไวด์พิเศษ 24 มม. ซูมออปติคอล 12X
รุ่น IXUS 240 HS วางจำหน่ายราคา 10,900 บาท และ รุ่น IXUS 510 HS ราคา 13,900 บาท หาซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 29 พฤษภาคม 2555 เวลา 21:08 น.

วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สมาร์ตโฟนล้ำๆจากโซนี่

Xperia S สมาร์ตโฟนสุดล้ำดีไซน์โฉบเฉี่ยวที่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพการทำงานแบบเต็มๆ

แค่เพียงได้เห็น Xperia S จากโซนี่ อาจทำให้หลายคนหลงรักโดยไม่รู้ตัวในรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ดูทันสมัย เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์อินเทรนด์

Xperia S มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 4.3 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 ระดับ HD และจอแสดงผลแบบ Mobile BRAVIA Engine ภาพจึงคมชัดสวยตามมาตรฐานแบบฉบับบราเวียเลย เลือกใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.7 พร้อมรองรับการอัพเกรดเป็น 4.0 (Ice-Cream Sandwich) มีความจำเครื่อง 32GB รองรับเครือข่าย 3G ได้ทั้ง 2 ค่ายคือ 850/900/2100Mhz
ด้านความบันเทิง Xperia S ก็ไม่ขาดตกบกพร่อง มีกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัสและแฟลช ยิ่งเมื่อได้ผู้ช่วยตัวเก่งอย่างเทคโนโลยี Exmor-R ก็ช่วยเพิ่มคุณภาพให้รูปถ่าย เพราะเหมาะกับการบันทึกภาพในที่มืด แสงน้อย เก็บทุกรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน พร้อมท่องไปในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กและดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้ไม่อั้น โดยเฉพาะ “ไอ-ฮัม มิวสิก สโตร์” (I-humm Music Store) แอพพลิเคชั่นรวบรวมบทเพลงเพราะจากเครือโซนี่ให้โหลดกันได้ฟรีๆ

Sony Xperia S มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำและสีขาว หาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ อาทิ Power Buy, TG Fone, ซินเน็ค และ Jay Mart วางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท

แหล่งที่มา    เว็บไซต์โพสทูเดย์ 29 พฤษภาคม 2555 เวลา 11:19 น.

วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

HTC One S สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์อัจฉริยะ


หลังจากที่ทาง HTC ประเทศไทยส่ง HTC One X และ HTC One V แอนดรอยด์โฟนตระกูล One Series เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่่เรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้มาถึงคิวสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ตระกูล One Series อีกรุ่นที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษกับ HTC One S สมาร์ทโฟนอีกตัวจาก HTC ที่มีการอัพเกรดสเปคซีพียูจากความเร็ว 1.5 GHz  เป็น 1.7 GHz เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
HTC One S
สเปคของ HTC One S ใช้ซีพียูแบบ Dual-Core ความเร็ว 1.7 GHz (เดิมเป็น 1.5 GHz), แรม 1GB, หน่วยความจำภายใน 16GB ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Android 4.0 อินเตอร์เฟซ HTC Sense 4.0 มาพร้อมกับหน้าจอ 4.3 นิ้ว ความละเอียด 540 x 960 พิกเซล พร้อมกล้องถ่ายภาพด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม Auto Focus และ Smart LED flash ส่วนกล้องหน้าความละเอียด VGA และรองรับการบันทึกวีดีโอระดับ 1080p HD รองรับเครือข่าย 3G ความถี่ 850/900/2100 MHz และแบตเตอรี่ขนาด 1,650 mAh นอกจาก HTC One S จะมีการอัพเกรดความแรงของซีพียูแล้ว ผู้ใช้จะได้สัมผัสกับเสียงที่คมชัดกว่าต้นฉบับด้วย Beats Audio อีกด้วย
ล่าสุดทาง HTC ประเทศไทยได้วางจำหน่าย HTC One S เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมาพร้อมกับชุดหูฟัง Beats Solo จำนวน 400 ชุดด้วยราคา 21,900 บาท (จากราคาปกติ 26,800 บาท) โดยผ่านวิธีการจองเท่านั้น ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/HTCthailand

แหล่งที่มา   เว็บไซต์กระปุกดอทคอม

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Tablet ตัวไหน น่าใช้บ้าง เรามีมาแนะนำ !!


ในช่วงนื้ถือได้ว่าตลาด tablet กำลังเติบโตอย่างมากทีเดียวเลย  จะเห็นได้ว่าแต่ละค่ายก็เข็น tablet ออกมาขายกันเป็นว่าเล่น หากใครคิดจะซื้อมาไว้ใช้ ไว้ครอบครองกันแล้ว คงเลือกไม่ถูกทีเดียวใช่ไหม

เริ่มด้วย ระดับหน้าจอขนาด 10 นิ้ว

ตัวแรกนี้ ตั้งแต่ทำการเปิดตัวมาก็นับได้ว่า Transformer Prime เป็น tablet ระบบปฏิบัติการ Android ตัว top เลยทีเดียว และเอกลักษณ์สำคัญของเจ้าตัวนี้คือ แถบคีย์บอร์ด ที่พร้อมประกอบร่างเมื่อต้องการใช้งาน และแยกร่างเพื่อให้งานต่อการพกพา ตัวเครื่องมาพร้อม Android 3.2 (อัพเป็น4.0ได้) พร้อมความจุ 32G กล้อง 8 ล้านพิกเซล จอแบบ IPS display การันตีความเจ๋งได้จากชื่อรุ่น

ไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมถึงติดในรายการแนะนำ  ใครๆก็น่าจะรู้ถึงความสามารถของเจ้าตัวนี้ดีอยู่แล้ว  สำหรับ The new iPad นี้ มาพร้อมจุดเด่นหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Retina Display ,A5 chip, quad-core graphics ด้วยเสป็กขั้นตั้นที่กล่าวมา ก็กินขาด หลายๆ ค่ายแล้ว


ที่ต้องจัดว่า Acer Iconia tab a510เป็นตัวแนะนำนี้ ก็เพราะว่า เจ้าตัวนี้ มาพร้อมกับ NVIDIA Quad Core Tegra 3 1.3GHz ความจุ 32 G และ Android 4.0 ประสิทธิภาพที่เหลือล้นขนาดนี้ แต่ราคากลับตรงข้ามกันเลย จะไม่ให้แนะนำได้ยังไง

มาถึงรุ่นเล็กลงมาอีกนิดกันบ้าง ในระดับหน้าจอ 7 นิ้ว

ตัวแรกนี้ หานึกถึง tablet ในระดับที่เล็กลงมา ก็คงจะต้องนึกถึง Samsung Galaxy Tab 7.7 เป็นตัวแรกๆเลย เพราะด้วยขนาดที่เล็กลง แต่ว่า ประสิทธิภาพการประมวลผล ไม่ได้ด้อยลงไปด้วยเลย ด้วยจอ Super AMOLED ทำให้ได้จอที่มีสีสันสดใส ชิประมวลผล dual-core 1.4GHz และ Android 4.0 เรียกได้ว่า เล็กพริกขี้หนูจริงๆ 

แต่ถ้าหากว่าราคาของ Samsung Galaxy Tab 7.7 ทำให้คุณต้องน้ำตาตกแล้ว ลองหันมามองตัวนี้ดูก็ได้นะ  Kindle fire  มาพร้อมกับ เสป็กทที่ลดลงมา คือ Dual-core 1GHz, RAM 512MB ความจุ  8GB, ระบบปฏิบัติการ Android 2.3 ถ้าใครสนใจก็ลองไปดูได้ที่เว็บ Amazon   เพราะขายทางออนไลน์เท่านั้น


หวังว่า จะให้เอามาแค่อ่าน e-book อย่างเดียว เพราะได้ให้ระบบประมวลผลในตัวเครื่อง ที่มีทั้งชิบประมวลผล 1 GHz Dual-Core TI OMAP, ความจุเครื่อง 8 GB ระบบปฏิบัติการ Android 2.3 นับว่าเป็น คุ้มกับราคาทีเดียว

แหล่งที่มา    เว็บไซต์สนุกดอทคอม 24 พ.ค. 55 10.26 น.

ญี่ปุ่นเริ่มใช้ NFC บนขบวนรถไฟเพื่อการโฆษณาแล้ว

โฆษณาในรถไฟฟ้าไม่ว่าจะ BTS หรือ MRT ที่เราเห็นก็คงจะหนีไม่พ้นการแปะป้ายในขบวนรถให้อยู่ในระดับสายตาคนยืน หรือติดโดยรอบบริเวณของสถานี ซึ่งก็อาจมีการเอาเทคโนโลยีอย่าง QR Code มาใช้บ้างบางครั้ง (แต่ก็ไม่ค่อยจะได้ผลเท่าที่ควรด้วยตำแหน่งและขนาดที่ไม่เหมาะสม) แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีก้าวล้ำหน้าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก การโฆษณาของเขาได้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการหยิบเทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) มาใช้บนรถไฟแล้ว

โดยปกติแล้วนั้นเทคโนโลยี NFC ที่มีอยู่บนโทรศัพท์มือถือนั้นจะถูกใช้งานเป็นกระเป๋าเงินอิเลคโทรนิค หรือ e-wallet ซึ่งในหลายประเทศก็เริ่มมีการใช้งานจริงแล้ว ที่ญี่ปุ่นมีการใช้ e-wallet แล้วเช่นกันและล่าสุดได้เพิ่มการใช้งาน NFC ที่มีอยู่บนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ให้มาแตะกับเครื่องรับที่มีอยู่ตามราวจับในขบวนรถใต้ดิน โดยเครื่องรับมีชื่อว่า FeliCa และดูแลโดยบริษัท Shunkosha ซึ่งเป็นบริษัททดูแลโฆษณาในระบบขนส่งมวลชนญี่ปุ่น


การจะแสกนก็สามารถทำได้อย่างง่ายด้วยการเอาเครื่องไปทาบกับเครื่องรับ โดยสิ่งที่ได้หลังจากการทาบคือ URL ของหน้าเว็บที่ลงโฆษณาและทำการเปิดหน้าเว็บทันที (แต่จะมีสัญญาณโทรศัพท์และข้อมูลก็ต่อเมื่อมีการจอดที่สถานีต่างๆ เท่านั้น ในระหว่างการเดินทางจะไม่ค่อยมีสัญญาณ) โดยการทำแบบนี้ถือว่าจะเพิ่มความสะดวกให้กับกลุ่มคนที่สนใจได้อย่างทันท่วงที โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดของบริษัทที่ลงโฆษณาควรต้องคิดถึงคือ เนื้อหาและข้อมูลของ URL เว็บที่ฝังอยู่ในเครื่องรับ NFC ควรจะต้องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนด้วย

ปัจจุบันมีขบวนรถไฟที่มีเครื่องรับ NFC มีอยู่ 2 สาย ได้แก่สาย Ginza และ Marunouchi ซึ่งทั้งสองสายวิ่งภายในเมืองโตเกียวและเหตุผลที่มีการติดตั้งเครื่องรับน่าจะเป็นเพราะรถไฟใต้ดินทั้งสองสายวิ่งผ่านผ่านบริษัทใหญ่ๆ และส่วนราชการซึ่งมีกลุ่มคนทำงานอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง

แหล่งที่มา    เว็บไซต์ thumbsup.in.th 25 พ.ค. 2555

Twigator เครื่องมือเชื่อมโยงทวีตกับแผนที่อย่างลงตัว


แนวคิด mashup ในการนำแอพพลิเคชั่นและบริการต่างๆ มาผสมผสานกันก่อให้เกิดแอพฯ ใหม่ๆ นั้นมีมาหลายปีแล้ว โดยการเรียกใช้งานผ่าน API (Application Program Interface) ที่ผู้ให้บริการได้จัดเตรียมไว้สำหรับ 3rd Party ต่างๆ ปัจจุบันเราจึงได้เห็นแอพฯ ต่างๆ มากมายที่ผนวกเอาความสามารถหลากหลายไว้ด้วยกัน และสำหรับวันนี้ทีมงานขอแนะนำอีกหนึ่ง Startup คนไทย 100% อีกราย มีชื่อว่า เอ็นคอมพ์ อินโนเทค เปิดให้บริการเว็บฯ ที่ชื่อว่า twigator.com ที่นำแนวคิดของ mashup มาใช้ด้วยนั่นเอง  
 
ทาง Twigator จับจุดที่ว่าหลายๆ ข่าวสารที่มีการทวีตไปมาบน Twitter นั้น ถ้าเราต้องการติดตามในรูปแบบของแต่ละพื้นที่โดยเฉพาะ เราจะทำอย่างไร? เช่น ต้องการดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่เชียงใหม่ในขณะนี้ หรือ มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นในละแวกใกล้ๆ บ้านเราบ้าง เป็นต้น แน่นอนว่าคนที่เรา follow อยู่จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่เราต้องการโฟกัส จึงเป็นที่มาของ “Twigator.com: Point & View twitter on map” เป็นการติดตามทวีตในมุมมองแบบแผนที่นั้นเองไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใดๆ ก็ได้ทั่วทุกมุมโลก

  



อ่านมาถึงตรงนี้หลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่าเคยเห็นบริการในรูปแบบนี้มาก่อนแล้วอย่าง การเกาะเทรนด์ของ Twitter บนแผนที่อย่าง Trendsmap, Tweography, MMMeeja’s Twitter Gogle Map เป็นต้น แม้คอนเซ็ปไม่ได้แตกต่างกันมากแต่ก็เป็นคนไทยทำเอง เราลองไปดูกันดีกว่าว่าเค้ามีฟังก์ชั่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง
  • การดูทวีตสามารถดูได้แบบ real time ในทุกๆ พื้นที่บนโลก โดยอาศัยการเลื่อนแผนที่ไปยังสถานที่ที่เราต้องการดูหรือจะใช้ฟังก์ชั่นในการค้นหาโดยพิมพ์ชื่อสถานที่ที่เราสนใจ (สามารถเดาคำสถานที่จากที่พิมพ์เข้าไป) ระบบจะทำการนำทางไปยังพื้นที่จุดนั้นให้โดยอัตโนมัติ
  • ติดตามทวีตของคนที่เราสนใจได้ผ่านทาง www.twigator.com/twittername
  
  • สามารถค้นหาคีย์เวิร์ด, #, @ ได้ โดยการใช้ช่อง Text Search และแน่นอน ว่าถ้าทวีตนั้นมีตำแหน่งอยู่ ก็จะแสดงผลบนแผนที่เช่นกัน
แม้เครื่องมือนี้จะไม่ได้เป็นเครื่องมือใหม่เสียทีเดียวอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น และในแง่การใช้งานทั่วๆ ไปเราอาจจะไม่ได้มีเหตุการณ์ที่สนใจที่จำเป็นต้องรู้พิกัดในทุกๆ วัน ดังนั้นสิ่งที่ทาง Startup รายนี้พยายามเน้นก็คือการนำไปประยุกต์ใช้ในรูปแบบอื่นๆ ด้วยมากกว่า อย่างกรณีผู้ใช้ Login ด้วย Twitter account ไปแล้ว ผู้ใช้สามารถที่จะทวีตไปพร้อมๆ กับการระบุตำแหน่งไปด้วย เช่น ใช้ในการบอกพิกัดการนัดหมายกับเพื่อนๆ บอกสถานที่ที่เราไปท่องเที่ยว หรือถ้าใช้ในเชิงธุรกิจคือสามารถบอกสถานที่ที่มีโปรโมชั่นได้, ในแง่การทำข่าว เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือภัยพิบัติก็เช่นเดียวกัน ถ้านักข่าวในพื้นที่ไม่สะดวกในการแจ้งข่าวผ่านทาง Twitter ก็สามารถให้เพื่อนนักข่าวช่วยทวีตแจ้งจุดเกิดเหตุได้ด้วยเครื่องมือนี้อย่างทันท่วงที แม้ไม่ได้อยู่ ณ. ที่เกิดเหตุ เป็นต้น


แหล่งที่มา    เว็บไซต์ thumbsup.in.th 22 พ.ค. 2555

แอพบริหารกองทุนด้วย MyMutualFund


สำหรับคนทำงานหลายๆ คน ที่มีการเก็บออมเงินของเราในรูปแบบต่างๆ ทั้งการฝากธนาคาร การซื้อทอง เล่นหุ้น หรือซื้อกองทุนสะสมเอาไว้ ในส่วนของกองทุนนี้มีประโยชน์ทั้งในแง่ของการลงทุน และยังใช้ลดภาษีอีกต่างหาก

วันนี้เรามีแอพน่าสนใจสำหรับนักลงทุน นั่นคือ “MyMutualFund” เป็นแอพฝีมือคนไทย สำหรับให้นักลงทุนคอยติดตามผลตอบแทนจากกองทุนรวมต่างๆ เช่น LTF, RMF, กองทุนทอง และช่วยให้เราบริหารพอร์ทการลงทุนของเราได้เป็นอย่างดี
การใช้งานก็ไม่ยาก โหลดเสร็จแล้วจะมีวิธีการใช้งานบอกเอาไว้เป็น step เพื่อเพิ่มข้อมูลกองทุนของคุณใน Portfolio ได้เลย หรือจะดูจากรูปตัวอย่างการใช้งานตามรูปด้านล่างได้เลย


เพียงเท่านี้ คุณก็จะเห็นข้อมูลกองทุนทั้งหมดที่มีได้อย่างง่ายๆ มีหน้าตาและรายละเอียด ดังนี้


บอกได้หมดว่า เรามีกองทุนทั้งหมดเท่าไหร่ และมีกองทุนต่างๆ อย่างละกี่เปอร์เซ็น ปัจจุบันแต่ละกองทุนกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ เพื่อที่จะช่วยให้เราเห็นภาพอย่างง่ายดาย เพื่อให้การดูแลพอร์ทของเราทำได้ง่ายขึ้น ตัดสินใจซื้อขายกองทุนก็ทำได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากได้ทดลองใช้งานแล้ว รู้สึกว่าสะดวกมาก การใช้งานไม่ยุ่งยาก และเห็นหน้าตาพอร์ทของตัวเองได้ชัดเจนขึ้นมาก ขณะนี้มีให้ใช้งานบน iPhone เท่านั้น เห็นว่าจะมี version iPad และ Android ในเร็วๆ ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้จาก www.facebook.com/MyMutualFund โดยตรง

ถ้าตัวอย่างแนะนำการใช้งานด้านบนยังไม่จุใจ ต้องลองดูวีดีโอของ MyMutualFund อีกสักตัว สรุปไว้ได้ครอบคลุมจริงๆ


แหล่งที่มา    เว็บไซต์ thumbsup.in.th 24 พ.ค. 2555

วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

10 อันดับ อัลตร้าบุ๊ค ดีที่สุดแห่งปี 2012


1. Acer Aspire S3-951
ไม่น่าเชื่อว่า "เอเซอร์" จะปาดหน้าคว้าชัยในการเป็นอัลตร้าบุ๊คดีที่สุดในปีนี้มาครองเหนือ แม็คบุ๊ค จากแอปเปิ้ลได้สำเร็จ แต่เมื่อผลออกมาเช่นนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าทางเอเซอร์ก็มีการพัฒนาความสามารถและความทันสมัยของอัลตร้าบุ๊คมาอย่างต่อเนื่อง โดย Acer Aspire S3-951 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว แสดงผลระดับ HD, โพรเซสเซอร์ 1.6 GHz Core i5, 4GB Ram และมีฮาร์ดดิสให้ถึง 320GB เลยทีเดียว


2. Apple MacBook Air 13in
แม้จะพลาดอันดับหนึ่งไป แต่แอปเปิ้ลก็ยังคงมีกระแสแรงตามมาติดๆ ซึ่ง Apple MacBook Air 13 inch รุ่นนี้ นอกจากจะมีรูปทรงสวยเก๋แล้ว ตัวเครื่องยังบางและมีน้ำหนักเบาเพียง 1.35 กิโลกรัม ซึ่งมากับโพรเซสเซอร์ 1.7GHz Core i5 CPU, 4GB RAM และมีสโตเรจให้เก็บข้อมูลได้ 128GB SSD นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีช่อง SD card slot และช่อง Thunderbolt port ให้อีกด้วย



3. Asus ZenBook UX31E
แอสซุส ก็ไม่ยอมน้อยหน้าค่ายอื่นๆ โดยนำเสนอ ZenBook UX31E แข่งกันในตลาดอัลตร้าบุ๊คเช่นกัน ซึ่งมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป แม้ดีไซน์จะดูเรียบๆ แต่ระบบในตัวเครื่องก็ไม่ธรรมดาเหมือนหน้าตา เพราะมีโพรเซสเซอร์ 1.8GHz Core i7, 4GB RAM สโตเรจอีก 128GB SSD รวมทั้งมี USB 2 และ USB 3 ports, micro HDMI และ mini-VGA ในตัว


4. Apple MacBook Air 11in
Apple MacBook Air ขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว ก็ตามมาอยู่ในอันดับ 4 ของอัลตร้าบุ๊คดีที่สุดในปีนี้อีกรุ่นหนึ่ง แม้จะมีขนาดหน้าจอที่เล็กลงมานิดนึง แต่จุดเด่นของมันก็อยู่ที่น้ำหนักที่เบาลงด้วยเช่นกัน โดยมีน้ำหนักแค่ 1.08 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งรุ่นล่าสุดนั้นเป็นโพรเซสเซอร์ 1.6GHz Core i5, 2GB RAM และสโตเรจให้เก็บข้อมูลอีก 64GB SSD


5. Asus ZenBook UX21E
Asus ZenBook UX21E ตัวนี้ ตั้งใจท้าชนกับ MacBook Air 11in อย่างเต็มตัว ด้วยราคาที่ใกล้เคียงกัน น้ำหนักเครื่องและหน้าจอเท่ากัน และเป็น Core i5 เหมือนกัน แต่ UX21E กลับมีตัวเก็บข้อมูลที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด นั่นคือ 4GB RAM และ 128GB SSD นอกจากนี้ยังมีพอร์ทและคอนเน็คเตอร์ส เหมือนกับรุ่น UX31E เป๊ะๆ เลยทีเดียว




6. Dell XPS 13
แม้จะออกตัวช้ากว่ายี่ห้ออื่นๆ แต่ในที่สุด เดล ก็ปล่อย Dell XPS 13 ออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว โดยมีคุณสมบัติเด่นที่เป็น 1.7GHz Core i7 มาพร้อมกับ 4GB RAM และสโตเรจอีก 256GB SSD ส่วนหน้าจอมีการแสดงผลแบบ HD ด้วยขนาด 13.3 นิ้ว นับว่าเป็นอัลตร้าบุ๊คที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่งจริงๆ


7. HP Envy 14 Spectre
ทางด้าน เอชพี ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ส่ง Envy 14 Spectre ออกมาประชันในตลาดอัลตร้าบุ๊คอีกรุ่นหนึ่ง โดยเครื่องรุ่นนี้มีหน้าจอที่คมชัดและมีขนาดใหญ่ถึง 14 นิ้ว หนา 22 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 1.8 กิโลกรัม ซึ่งเป็นโพรเซสเซอร์ 1.6GHz Core i5, 4GB RAM และสโตเรจ 128GB SSD นอกจากนี้ยังมี USB 2 และ USB 3, HDMI และ DisplayPort interfaces มาในตัวเครื่องอีกด้วย

         
8. Lenovo IdeaPad U300sสำหรับอัลตร้าบุ๊คจาก Lenovo รุ่น IdeaPad U300s ขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วตัวนี้ นอกจากจะมีดีไซน์เครื่องที่สุดล้ำนำสมัยแล้ว ยังจัดเต็มกับสเป็คเครื่อง 1.8GHz Core i7, 4GB RAM และสโตเรจเก็บข้อมูลอีกถึง 256GB SSD เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับการรอคอยของแฟนๆ เลโนว่าอย่างแท้จริง


9. Samsung Series 5 NP530U3B 13in
อัลตร้าบุ๊คของซัมซุงรุ่น Series 5 NP530U3B 13in เป็นที่น่าจับตามองอยู่ไม่น้อยสำหรับผู้ที่มองหาเครื่องที่มีหน่วยความจำเยอะๆ ไว้ใช้งาน ด้วยหน้าจอขนาด 13 นิ้ว แสดงผลแบบ HD มาพร้อมกับโพรเซสเซอร์ 1.6GHz Core i5, 4GB RAM แถมจัดหนักกับฮาร์ดดิสขนาด 500 GB และตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 1.39 กิโลกรัม


10. Toshiba Portégé Z830-10N
ปิดท้ายกับ Toshiba Portégé Z830-10N ที่มีหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว น้ำหนัก 1.12 กิโลกรัม มาพร้อมกับช่องยูเอสบี Gigabit Ethernet, HDMI, mini-VGA และยังมี SD card reader ให้ด้วย นอกจากนี้ยังมีหน่วยความจำเครื่อง 4GB RAM และสโตเรจอีก 128GB SSD แต่น่าเสียดายที่ยังเป็นโพรเซสเซอร์  1.4GHz Core i3 เท่านั้น เมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าค่อนข้างแพงอยู่เหมือนกัน

แหล่งที่มา    เว็บไซต์กระปุกดอทคอม

"บีบีทอร์ช 9810" ทัชสกรีนจากแบล็คเบอร์รี่

ตอนได้บีบี หรือแบล็คเบอร์รี่ ทอร์ช 9810 ตัวนี้มา ก็งุนงงสงสัยมากว่ามีอะไรบ้างที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นที่เพิ่งจะออกไปก่อนหน้านี้ คือ บีบีทอร์ช 9800 หรือเปล่า เท่าที่สังเกตคร่าวๆ ก็เป็นทัชสกรีนแบบสไลด์ ผสมกับคีย์บอร์ด ที่มาพร้อมกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กับระบบปฏิบัติการใหม่ โอเอส 7 เหมือนเดิม ต่างกันที่วัสดุภายนอกเล็กๆ น้อยๆ
โหย...ตอนนี้แวดวงคนใช้อุปกรณ์ไอที เริ่มจะมีคำถามกันแล้วว่า อะไรเหรอ บีบี? แสดงว่าเจ้าผลไม้มือถือยี่ห้อนี้เริ่มไม่เฟรนด์ลี ไม่เป็นที่นิยมกันขึ้นมาแล้ว

ถึงกระนั้นดูเหมือน บริษัท ริม (RIM) มิได้นึกกลัวว่าตัวเองจะตกยุค ตกสมัย ออกแบล็คเบอร์รี่ลักษณะใกล้เคียงกันออกมาเป็นทางเลือกมากมายหลายรุ่น หลังปรับโอเอสใหม่เป็นโอเอส 7 ที่เครื่องรุ่นก่อนหน้านั้นมิอาจเอื้อมใช้ ไม่ว่าจะเป็น บีบีทอร์ช 9860 ที่ออกมาใกล้เคียงกันมากกับบีบีทอร์ช 9850 คือเป็นทัชสกรีนเต็มรูปแบบ ปราศจากคีย์บอร์ด รวมถึงบีบีโบลด์ 9900 ซึ่งดูดีมากตอนออกมาใหม่ๆ เสียแค่ฟิกซ์โฟกัสของกล้อง 5 ล้านพิกเซล ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมๆๆๆ พร้อมๆ กับออกบีบีโบลด์ 9790 ที่ทั้งทัช (Touch) ทั้งไทป์ (Type) เหมือนกัน หากกล้องในเครื่องขนาดกะทัดรัดโฟกัสได้แจ๋วกว่า

จนกระทั่งมาถึงความละม้ายคล้ายเหมือนของบีบีทอร์ช 9800 และบีบีทอร์ช 9810 รุ่นนี้

จะว่าไปสำหรับสาวกบีบี มีทั้งทัชสกรีนบนจอสุดสวย ในระบบสุดง่าย ที่ห่างไกลมากจากชัวร์เพรสส์สมัยบีบีสตอร์ม (เป็นตราบาปจนถึงทุกวันนี้) ทั้งไวไฟ 3จี มีพร้อม แถมด้วยความว่องไว ปรู๊ดปร๊าดอย่างนี้ ใครจะไม่เลิฟได้...

ฝาหลังดีไซน์ใหม่สีเงินลายตาราง ดูเดิร์นกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ในส่วนของขนาดและน้ำหนักยังคงเท่ารุ่นทอร์ช 9800 เพะ ที่สดใสขึ้นเห็นจะเป็นจอภาพที่ชัดกว่าเดิม อาจเป็นเพราะเพิ่มออปชันการถ่ายวิดีโอระบบเอชดีเข้ามา ก็เลยจัดหน้าจอระบบเรตินาให้ใช้กันซะเลย ซึ่งเมื่อรวมกับระบบปฏิบัติการใหม่อย่างโอเอส 7 แล้ว ทำให้ได้ภาพใสกิ๊งราวกับภาพจะลอยมาตรงหน้าทีเดียว

แนะนำให้ลงทุนโหลดธีมหรือวอลเปเปอร์ 3 มิติมาใช้ จะเห็นผลที่เวิร์กมากๆ

สำหรับคนที่เลือกใช้ บีบีทอร์ช 9810 ก็เป็นเพราะว่ายังติดการใช้ปุ่มกดที่สัมผัสได้จริงของแบล็คเบอร์รี่อยู่ เลยกล้าๆ กลัวๆ ไม่เปลี่ยนไปใช้ บีบีทอร์ช 9850/9860 แบบฉับพลันทันใด

รุ่นนี้ที่ไม่ต้องห่วงอีกอย่างก็คือ พื้นที่สำหรับการโหลดนั่น นู่น นี่ ที่จะทำให้เครื่องเต็มและใช้งานอืด เพราะมีความจุตัวเครื่องถึง 8 กิกะไบต์ ใส่มาให้ (เพิ่มเป็นดับเบิลไปเลย) ในขณะที่ไมโครเอสดีการ์ดนั้นสามารถเลือกได้ไปถึงความจุขนาด 32 กิกะไบต์ ทำให้รวมแล้วจะจุได้ตั้ง 40 กิกะไบต์ทีเดียวเชียว คราวนี้ถ่ายวิดีโอเอชดีกันได้มันระเบิดไปเลย เพราะลำพังแค่ถ่ายภาพทั่วไป ความละเอียด 5 ล้าน มันก็สิวๆ น่ะ

ความพิเศษที่เพิ่มขึ้นของ บีบีทอร์ช 9810 ยังอยู่ที่ความไวขึ้นของโพรเซสเซอร์ที่มาแบบดับเบิลกว่าเก่าอีกเช่นกัน ใครที่เพิ่งซื้อ ทอร์ช 9800 ไปหยกๆ ก็คงเซ็งเล็กน้อย อาจจะหันมาเทิร์นด้วยเครื่องรุ่นล่าสุดกันเป็นแถว แต่คนระดับจับเครื่องทอร์ชก็คงทำได้อยู่แล้วล่ะ หากซื้อมาก็อย่าลืมใช้งานให้คุ้ม ไม่ว่าจะกระหน่ำโหลดเกม 3 มิติ ถ่ายวิดีโอเอชดี ถ่ายภาพแชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ฯลฯ มิอย่างนั้นก็จะจ่ายแพงทำไม สู้ใช้บีบีเคิร์ฟ 9360 หรือโบลด์ 9790 ก็เพียงพอ

ว่าแต่... เมื่อไหร่จะมีคนพัฒนาอินสตาแกรมกับไลน์มาให้สาวกบีบีใช้กันบ้าง ไม่อย่างนั้นก็อาจจะกลายเป็นทางเลือกในฐานะมือถือ “เครื่องที่ 2” เพราะต้องใช้งานในองค์กรแค่นั้นเอง...

แบล็คเบอร์รี่ ทอร์ช 9810
จุดเด่น

  1. แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
  2. หน้าจอสวยงาม
  3. คีย์บอร์ดบนจอสัมผัสใช้ง่ายขึ้น
  4. การจัดการสมุดโทรศัพท์ล้ำเลิศ
  5. กล้องแค่ 5 ล้าน แต่เสถียรและให้รูปสวยใส
จุดด้อย

  1. อินเทอร์เน็ตไม่รองรับโปรแกรมแฟลช
  2. วิดีโอตอบสนองช้าไปหน่อย
  3. ลำโพงตัวเครื่องเสียงไม่เด่น (โบลด์ 9900 แจ๋วกว่า)
  4. ไม่ค่อยต่างจากบีบีทอร์ช 9800 เท่าไหร่
  5. กล้องแค่ 5 ล้าน ความละเอียดน้อยไปมั้ย
แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ โดย...เคอร์มิท 24 พฤษภาคม 2555 เวลา 20:59 น.

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

OM-D E-M 5 รวมฟังก์ชั่นมืออาชีพ

โอลิมปัสเปิดตัวกล้องมิลเรอร์เลสในตระกูล OM-D รุ่น E-M5 ที่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพสำหรับมือโปร

โอลิมปัสเปิดตัวกล้องในตระกูล OM-D รุ่น E-M5 เพื่อรักษาตำแหน่งอันดับหนึ่งของกล้อง Mirrorless โดยรุ่นนี้ถือเป็นการต่อยอดของซีรีส์ OM ซึ่งยังคงโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์สุดคลาสสิกตามแบบฉบับ งดงามแบบกล้องฟิล์มผสมผสานกับเทคโนโลยีทันสมัยของกล้องดิจิตอล

เป็นรุ่นที่สร้างมาเพื่อมืออาชีพโดยเฉพาะ ฟังก์ชั่นครบ น้ำหนักเบา (425 ก.) และทนทานด้วยวัสดุส่วนบนทำจากแมกนีเซียมอัลลอย พร้อมซีลยางกันฝุ่นและละอองน้ำพิเศษ สมบุกสมบันแค่ไหนก็ไม่หวั่น พร้อมเป็นคู่ใจไปในทุกที่

ว่าด้วยคุณสมบัติ สามารถเปลี่ยนเลนส์เพื่อการใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ในระบบ Four Thirds หรือ Micro Four Thirds ที่มีกว่า 60 รุ่น ครบทุกช่วงการใช้งาน สร้างสรรค์ผลงานไม่จำกัด มีเซ็นเซอร์ LIVE MOS ละเอียดถึง 16.05 ล้านพิกเซล และหน่วยประมวลผลภาพแบบ TruePic VI ใหม่ล่าสุด ช่วยลด Noise ที่รบกวนขณะถ่ายภาพ นอกจากนี้ยังมาพร้อม ISO สูงสุดถึง 25600

มีช่องมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ละเอียด 1.44 ล้านจุด จึงมองเห็นวัตถุที่ต้องการถ่ายได้อย่างชัดเจนในทุกสภาพแสง และยังสามารถปรับเปลี่ยนแสงสว่างและโทนสีได้เหมือนการปรับแต่งผ่านหน้าจอแสดงผลปกติของกล้อง ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ด้วยระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ เปลี่ยนการแสดงผลที่หน้าจอแอลซีดีให้ไปที่ช่องมองภาพ EVF ทันทีที่ดวงตาสัมผัสบริเวณช่องมองภาพ

ความเก่งกาจยังไม่หมดเท่านั้น ครั้งแรกของโลกกับระบบป้องกันการสั่นของภาพ 5 ทิศทาง คือ แนวราบ แนวตั้ง และแบบหมุนใหม่ล่าสุดที่เพิ่มขึ้นมา ยิ่งเมื่อร่วมกับประสิทธิภาพของระบบโฟกัสอัตโนมัติที่เร็วที่สุด และระบบโฟกัสการติดตามแบบ 3D เพื่อการติดตามวัตถุเคลื่อนไหวที่ดียิ่งขึ้น ก็ล้วนแต่ทำให้คุณสามารถโฟกัสภาพได้ฉับไว แม่นยำ จึงคมชัด ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
นอกจากนี้ E-M5 ยังสามารถเชื่อมต่อได้กับอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น Power Battery Holder HLD-6 ซึ่งออกแบบมาพิเศษโดยเฉพาะ แบตเตอรี่กริป HLD-6 ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ Lithium-ion BLN-1 ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 640 ภาพ หรือใช้พลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง ผ่าน AC-3 AC Adapter เข้า HLD-6 ที่ช่องเชื่อมต่อ DC IN

รุ่นนี้มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำและสีเงิน มาพร้อมกับเลนส์คิท ใหม่ล่าสุด M.ZUIKO DIGITAL ED 12-50mm F3.5-6.3 EZ วางจำหน่ายในราคา 44,990 บาท

ทดสอบประสิทธิภาพและหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ อาทิ บิ๊กคาเมร่า, เพาเวอร์บาย, เวิลด์คาเมร่า, โฟโต้ฮัท, ไอที ซิตี้ เป็นต้น

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 24 พฤษภาคม 2555 เวลา 13:34 น.

พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ปี 2554 ฉบับใหม่

พรบ. คอมพิวเตอร์ได้ออกมาเมื่อปี 2550 ซึ่งผู้ใช้คอมพิวเตอร์โดยมาก ก็ยังคงกังขา สับสน เกี่ยวกับข้อกฏหมายดังกล่าว ซึ่งมีผลบังคับใช้ และออกจะลงโทษผู้กระทำผิดแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

กระทั่งมีการปรับปรุงแก้ไข พรบ. คอมพิวเตอร์ล่าสุด เมื่อปีก่อน (พรบ. ปี 2554)  โดยรวมแม้ข้อกฏหมายดังกล่าว จะถูกโจมตีขนาดที่มีแฟนเพจออกมา  แต่เมื่อ พรบ. ดังกล่าวออกมาแล้ว และมีผลบังคับใช้ ที่กระทบต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์โดยรวมทุกคน

เราจึงต้องเรียนรู้ ระวัง พรบ. คอมพิวเตอร์ ดังกล่าว เพื่อผลประโยชน์กับทุกท่านผู้ใช้คอมพิวเตอร์เอง !!

เมื่อวันจันทร์ที่ 28 มี.ค. 54 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จัดประชุมรับฟังและให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยเชิญตัวแทนผู้ประกอบการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยในการประชุมดังกล่าว มีการแจกเอกสารร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ที่กระทรวงไอซีทีจัดทำขึ้นด้วย

ร่าง กฎหมายนี้ เขียนขึ้นเพื่อให้ยกเลิกพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550 ทั้ง ฉบับ และให้ใช้ร่างฉบับใหม่นี้แทน อย่างไรก็ดี โครงสร้างของเนื้อหากฎหมายมีลักษณะคล้ายคลึงฉบับเดิม โดยมีสาระสำคัญที่ต่างไป ดังนี้

ประเด็นที่ 1  เพิ่มนิยาม “ผู้ดูแลระบบ”
มาตรา 4 เพิ่ม นิยามคำว่า “ผู้ดูแลระบบ” หมายความว่า “ผู้มีสิทธิเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการแก่ผู้อื่นในการเข้าสู่อิน เทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น”

ใน กฎหมายเดิมมีการกำหนดโทษของ “ผู้ให้บริการ” ซึ่งหมายถึงผู้ที่ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า การพยายามเอาผิดผู้ให้บริการซึ่งถือเป็น “ตัวกลาง” ในการสื่อสาร จะส่งผลต่อความหวาดกลัวและทำให้เกิดการเซ็นเซอร์ตัวเอง อีกทั้งในแง่ของกฎหมายคำว่าผู้ให้บริการก็ตีความได้อย่างกว้างขวาง คือแทบจะทุกขั้นตอนที่มีความเกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารก็ล้วนเป็น ผู้ให้บริการทั้งสิ้น

สำหรับ ร่างฉบับใหม่ที่เพิ่มนิยามคำว่า “ผู้ดูแลระบบ” ขึ้นมานี้ อาจหมายความถึงเจ้าของเว็บไซต์ เว็บมาสเตอร์ แอดมินระบบเครือข่าย แอดมินฐานข้อมูล ผู้ดูแลเว็บบอร์ด บรรณาธิการเนื้อหาเว็บ เจ้าของบล็อก ขณะที่ “ผู้ให้บริการ” อาจหมายความถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

ตาม ร่างกฎหมายนี้ ตัวกลางต้องรับโทษเท่ากับผู้ที่กระทำความผิด เช่น หากมีการเขียนข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง กระทบกระเทือนต่อความมั่นคง ผู้ดูแลระบบและผู้ให้บริการที่จงใจหรือยินยอมมีความผิดทางอาญาเท่ากับผู้ที่ กระทำความผิด และสำหรับความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์ เช่นการเจาะระบบ การดักข้อมูล หากผู้กระทำนั้นเป็นผู้ดูแลระบบเสียเอง จะมีโทษ1.5 เท่าของอัตราโทษที่กำหนดกับคนทั่วไป

ประเด็นที่ 2 คัดลอกไฟล์ จำคุกสูงสุด 3 ปี
สิ่งใหม่ในกฎหมายนี้ คือ มีมาตรา16 ที่ เพิ่มมาว่า “ผู้ใดสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ทั้งนี้ การทำสำเนาคอมพิวเตอร์ อาจหมายถึงการคัดลอกไฟล์ การดาว์นโหลดไฟล์จากเว็บไซต์ต่างๆ มาตรานี้อาจมีไว้ใช้เอาผิดกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์หรือเพลง แต่แนวทางการเขียนเช่นนี้อาจกระทบไปถึงการแบ็กอัปข้อมูล การเข้าเว็บแล้วเบราว์เซอร์ดาว์นโหลดมาพักไว้ในเครื่องโดยอัตโนมัติหรือที่ เรียกว่า “แคช” (cache เป็น เทคนิคที่ช่วยให้เรียกดูข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น โดยเก็บข้อมูลที่เคยเรียกดูแล้วไว้ในเครื่อง เพื่อให้การดูครั้งต่อไป ไม่ต้องโหลดซ้ำ) ซึ่งผู้ใช้อาจมิได้มีเจตนาหรือกระทั่งรับรู้ว่ามีกระทำการดังกล่าว

ประเด็นที่ 3 มีไฟล์ลามกเกี่ยวกับเด็ก
ผิดในมาตรา 25 “ผู้ ใดครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งมีลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กหรือ เยาวชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

เป็นครั้งแรกที่มีการระบุขอบเขตเรื่องลามกเด็กหรือเยาวชนโดยเฉพาะขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ยังมีความคลุมเครือว่า ลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนนั้นหมายความอย่างไร นอกจากนี้ มาตราดังกล่าวยังเป็นการเอาผิดที่ผู้บริโภค ซึ่งมีความน่ากังวลว่า การชี้วัดที่ “การครอบครอง” อาจทำให้เกิดการเอาผิดที่ไม่เป็นธรรม เพราะธรรมชาติการเข้าเว็บทั่วไป ผู้ใช้ย่อมไม่อาจรู้ได้ว่าการเข้าชมแต่ละครั้งดาว์นโหลดไฟล์ใดมาโดย อัตโนมัติบ้าง และหากแม้คอมพิวเตอร์ถูกตรวจแล้วพบว่ามีไฟล์โป๊เด็ก ก็ไม่อาจหมายความได้ว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้ดูผู้ชม

ประเด็นที่ 4 ยังเอาผิดกับเนื้อหา
มาตรา24 (1) นำ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความ ตื่นตระหนกแก่ประชาชน

เนื้อ ความข้างต้น เป็นการรวมเอาข้อความในมาตรา14 (1) และ (2) ของ กฎหมายปัจจุบันมารวมกัน ทั้งนี้ หากย้อนไปถึงเจตนารมณ์ดั้งเดิมก่อนจะเป็นข้อความดังที่เห็น มาจากความพยายามเอาผิดกรณีการทำหน้าเว็บเลียนแบบให้เข้าใจว่าเป็นหน้าเว็บ จริงเพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล (phishing) จึง เขียนกฎหมายออกมาว่า การทำข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมถือเป็นความผิด แต่เมื่อแนวคิดนี้มาอยู่ในมือนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ ได้ตีความคำว่า “ข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม” เสียใหม่ กลายเป็นเรื่องการเขียนเนื้อหาอันเป็นเท็จ และนำไปใช้เอาผิดฟ้องร้องกันในเรื่องการหมิ่นประมาท ความเข้าใจผิดนี้ยังดำรงอยู่และต่อเนื่องมาถึงร่างนี้ซึ่งได้ปรับถ้อยคำใหม่ และกำกับด้วยความน่าจะเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่น ตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกสูงสุด ห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หาก พิจารณาจากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินคดีคอมพิวเตอร์ที่ผ่านมา ปัญหานี้ก่อให้เกิดการเอาผิดประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะหลายกรณี รัฐไทยเป็นฝ่ายครอบครองการนิยามความจริง ปกปิดความจริง ซึ่งย่อมส่งผลให้คนหันไปแสดงความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตแทน อันอาจถูกตีความได้ว่ากระทบต่อความไม่มั่นคงของ “รัฐบาล” ข้อความกฎหมายลักษณะนี้ยังขัดต่อสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิด เห็นโดยไม่จำเป็น

ประเด็นที่ 5 ดูหมิ่น ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
มาตรา26 ผู้ ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือข้อมูลอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย หรือเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่แท้จริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่ผ่านมา มีความพยายามฟ้องคดีหมิ่นประมาทซึ่งกันและกันโดยใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำนวนมาก แต่การกำหนดข้อหายังไม่มีมาตราใดในพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่จะใช้ได้อย่างตรงประเด็น มีเพียงมาตรา 14 (1) ที่ระบุเรื่องข้อมูลอันเป็นเท็จดังที่กล่าวมาแล้ว และมาตรา 16 ว่าด้วยภาพตัดต่อ ในร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ได้สร้างความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ใช้ตั้งข้อ หาการดูหมิ่นต่อกันได้ง่ายขึ้นข้อสังเกตคือ ความผิดตามร่างฉบับใหม่นี้กำหนดให้การดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทมีโทษจำคุกสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท ทั้งที่การหมิ่นประมาทในกรณีปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญามีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

ประเด็นที่ 6 ส่งสแปม ต้องเปิดช่องให้เลิกรับบริการ

มาตรา 21 ผู้ ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนตามหลักเกณฑ์ที่ รัฐมนตรีประกาศกำหนด เพื่อประโยชน์ทางการค้าจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ และโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จากที่ กฎหมายเดิมกำหนดเพียงว่า การส่งจดหมายรบกวน หากเป็นการส่งโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มา ถือว่าผิดกฎหมาย ในร่างฉบับใหม่แก้ไขว่า หากการส่งข้อมูลเพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการ บอกรับได้ ทั้งนี้อัตราโทษลดลงจากเดิมที่กำหนดโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท มาเป็นจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้ง นี้ ยังต้องตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากการส่งข้อมูลดังกล่าว แม้จะเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ แต่ไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ทางการค้า ก็จะไม่ผิดตามร่างฉบับใหม่นี้

ประเด็นที่ 7 เก็บโปรแกรมทะลุทะลวงไว้ คุกหนึ่งปี
มาตรา 23 ผู้ ใดผลิต จำหน่าย จ่ายแจก ทำซ้ำ มีไว้ หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ชุดคำสั่ง หรืออุปกรณ์ที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความ ผิดตามมาตรา 15 มาตรา 16 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 และมาตรา 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

น่า สังเกตว่า เพียงแค่ทำซ้ำ หรือมีไว้ซึ่งโปรแกรมที่ใช้เจาะระบบ การก๊อปปี้ดาวน์โหลดไฟล์อย่างทอร์เรนท์ การดักข้อมูล การก่อกวนระบบ ก็มีความผิดจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท เรื่องนี้น่าจะกระทบต่อการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์โดยตรง

ประเด็นที่ 8 เพิ่มโทษผู้เจาะระบบ
สำหรับกรณี การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ เดิมกำหนดโทษจำคุกไว้ไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ร่างกฎหมายใหม่เพิ่มเพดานโทษเป็นจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท(เพิ่มขึ้น 4 เท่า)

ประเด็นที่ 9 ให้หน้าที่หน่วยใหม่ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
ร่างกฎหมายนี้กำหนดหน้าที่ให้หน่วยงานซึ่งมีชื่อว่า “สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)” เรียกโดยย่อว่า “สพธอ.” และให้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Electronic Transactions Development Agency (Public Organization)” เรียกโดยย่อว่า “ETDA” เป็นองค์การมหาชนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงไอซีที

หน่วย งานนี้เพิ่งตั้งขึ้นเป็นทางการ ประกาศผ่าน “พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิสก์ พ.ศ. 2554” เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 54 โดยเริ่มมีการโอนอำนาจหน้าที่และจัดทำระเบียบ สรรหาประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 54

ในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่นี้ กำหนดให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) มีบทบาทเป็นฝ่ายเลขานุการของ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์” ภายใต้ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับที่กำลังร่างนี้

นอก จากนี้ หากคดีใดที่ต้องการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดซึ่งอยู่ในต่างประเทศ จะเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ในร่างกฎหมายนี้กำหนดว่า พนักงานสอบสวนอาจร้องขอให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์การ มหาชน) เป็นผู้ประสานงานกลางให้ได้ข้อมูลมา

ประเด็นที่10 ตั้งคณะกรรมการ สัดส่วน 8 – 3 – 0 : รัฐตำรวจ-ผู้ทรงคุณวุฒิ-ประชาชน
ร่างกฎหมายนี้  เพิ่มกลไก “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์” ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยระบุตัวบุคคลจากผู้มี ความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ในด้านกฎหมาย วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การเงินการธนาคาร หรือสังคมศาสตร์จำนวนสามคน โดยให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี

คณะ กรรมการชุดนี้ ให้ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์กรมหาชน), สำนักงานกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (สังกัดกระทรวงไอซีที), สำนักคดีเทคโนโลยี (สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม), และ กลุ่มงานตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำความผิดทางเทคโนโลยี กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี (บก.สสท.) (สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เป็นเลขานุการร่วมกัน

คณะ กรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ออกระเบียบ ประกาศ ตามที่กำหนดในพ.ร.บ.นี้ และมีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหลักฐาน รวมถึง “ปฏิบัติการอื่นใด” เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ โดยให้ถือว่าคณะกรรมการและอนุกรรมการเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

แหล่งที่มา   เว็บไซต์ MTHAI

ทีวีสามมิติ ต่อเน็ตบนจอโทรทัศน์

แอลจี เปิดตัวแฟอลจีซีนีม่า 3 ดี สมาร์ททีวีรุ่นใหม่ อวดรีโมตนวัตกรรมใหม่ ทำงานเหมือนเมาส์ไร้สายรองรับบริการท่องเน็ตออนไลน์บนจอทีวี

 มร.ยอน โฮ (ไมเคิล) เจิง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แอลจี ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผสานเทคโนโลยีกับดีไซน์ที่สวยงาม เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่ ผ่านแอลจี ซีนีม่า 3 ดี สมาร์ททีวี ซึ่งแอลจีจะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกประมาณ 30 รุ่นในประเทศไทย เพื่อขึ้นเป็นผู้นำตลาดทีวีสามมิติของไทยให้ได้ภายในปีนี้

 แอลจี เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีสามมิติ ซีนีม่า 3 ดี รายแรกของโลก โดยใช้นวัตกรรมจอแอลอีดีแบบล่าสุด พาเนลชนิดพิเศษ เรียกว่า นาโน ฟูล แอลอีดี (NANO FULL LED) จะให้ภาพคมชัด สดใส และมีมิติสมจริง ทั้งการชมภาพสามมิติและภาพทั่วไป โดยผสมผสานร่วมกับเทคโนโลยีเอฟพีอาร์ (Film Patterned Retarder) ช่วยให้มองเห็น เอฟเฟกต์สามมิติที่สมจริง ปราศจากภาพเหลื่อมซ้อน ภาพกะพริบและลดความเมื่อยล้าของสายตา โดยทำงานร่วมกับแว่นสามมิติที่น้ำหนักเบา ไม่ใช้แบตเตอรี่ และชมได้จากทุกมุมในห้อง

 นอกจากนี้ ทีวีสามมิติของแอลจี ซีนีม่า 3 ดี สามารถแปลงคอนเทนต์สองมิติให้เป็นภาพสามมิติคุณภาพสูง ปรับระดับความลึกของภาพสามมิติได้ถึง 20 ระดับ มีคอนเทนต์พรีเมียมจาก 3 ดีเวิลด์ พร้อมฟังก์ชันดูอัล เพลย์ เล่นเกมได้สองคนในเวลาเดียวกันแบบเต็มหน้าจอ ไม่ต้องแบ่งหน้าจอทีวี

 ตัวจอทีวีบาง 4.9 มิลลิเมตร แสดงภาพเต็มหน้าจอ ระบบประมวลผลแบบดูอัลคอร์ รีโมตพิเศษหรือเมจิก คอนโทรล รีโมต พัฒนาให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นเหมือนเมาส์ไร้สาย

 นอกจากนี้ แอลจีได้จัดกิจกรรมออนไลน์ “แอลจีให้ทีวีดูฟรีที่บ้าน” ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านทางแอลจี เฟซบุ๊ก แฟนเพจเพื่อลุ้นรับสมาร์ททีวี ไปชมที่บ้านนาน 1 เดือน ทั้งนี้ แอลจี ซีนีม่า สมาร์ททีวี มีให้เลือก 30 รุ่น ราคา 22,990–299,990 บาท รายละเอียด www.lg.com/th.

แหล่งที่มา   เว็บไซต์เดลินิวส์ วันพุธที่ 23 พฤษภาคม 2555 เวลา 00:03 น.

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ตัวจิ๋วฟังก์ชั่นแจ๋ว

ซัมซุงเปิดตัวกล้องดิจิตอล WB150F ที่มาพร้อมขนาดเล็กกระทัดรัดแต่แฝงไว้ด้วยประสิทธิภาพเด่นๆหลายด้าน

เปิดตัวกันไปสดๆ ร้อนๆ สำหรับซัมซุง WB150F (Samsung WB 150F) กล้องดิจิตอลคอมแพคสุดสมาร์ต ช่วยเติมเต็มทุกอารมณ์การถ่ายภาพทั้งระยะใกล้และไกล

WB150F มาพร้อมกับขนาดบาง 23.4 มม. ขนาด “เล็ก” จึงง่ายต่อการพกพา แต่ “ใหญ่” ด้วยประสิทธิภาพการใช้งาน ด้วยความละเอียดภาพ 14.2 ล้านพิกเซล เลนส์กว้างพิเศษ 24 มม. และออฟติคอลซูม 18X, OIS คมชัดแม้ภาพระยะไกล ชัดเจนแม้โคลสอัพ

กล้องรุ่นใหม่ช่วยให้ได้งานเหมือนมืออาชีพง่ายๆ เมื่อ WB150F มีฟังก์ชั่น Smart Auto 2.0 ที่จะวิเคราะห์องค์ประกอบภาพและปรับแต่งค่าต่างๆ ให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวที่สวยงาม มี Live Panorama ช่วยให้เห็นภาพรวมทั้งหมดก่อนบันทึกเป็นภาพจริง นอกจากนี้ ยังรองรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวความละเอียดสูงที่ระดับ 720p HD ในอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที ส่วนการบันทึกไฟล์วิดีโอก็มีฟังก์ชั่น Sound Alive ลดเสียงรบกวน จึงได้เสียงคมชัดน่าฟัง

เก๋กว่านั้นด้วยฟังก์ชั่น Picture in Picture Shot แทรกภาพถ่ายหรือภาพยนตร์ลงในภาพได้อีก หรือใช้ Split Shot เพื่อรวมภาพสูงสุดถึง 3 ภาพลงในภาพเดียว เพิ่มความสนุกด้วย Smart Filter 3.0 สำหรับการแต่งภาพ ไม่ว่าจะทำภาพกราฟฟิกการ์ตูนและเพิ่มแสงวิบวับเป็นต้น WB150F สามารถควบคุมการทำงานด้วย Full Manual ทั้งการตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ ความเร็วแสง ภาพชัดลึก-ตื้น หรือในสภาวะแสงไหนก็ตาม

นอกจากนี้ยังแชร์ภาพได้ทันทีด้วยการเชื่อมต่อ Wi-Fi แชร์คอนเทนต์ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ปิคาซ่า โฟโต้บัคเก็ต และอีเมล หรืออัพโหลดภาพเคลื่อนไหวไปยังยูทูบได้ทันที แค่มีซัมซุง WB150F ไว้ใช้ ก็เตรียมพร้อมรอการกดไลค์จากเพื่อนๆ ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้เลย

ซัมซุง WB150F มีให้เลือก 2 สี คือ ดำและขาว ราคาน่าสนใจ 7,990 บาท

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 23 พฤษภาคม 2555 เวลา 11:53 น.

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เกรย์เมลทะลักเข้าฮอตเมล

ไมโครซอฟท์แนะเจ้าของอีเมล "ฮอตเมล" ใช้ระบบกลั่นกรองแยกแยะอีเมลหลังพบเกรย์เมลทะลักกล่องจดหมาย

บริษัท ไมโครซอฟท์ ผู้ให้บริการฮอตเมล เผยตัวเลขจำนวนอีเมลในแต่ละวันที่เข้ามาในกล่องข้อความ โดยจากคนไทยที่มีผู้ใช้ฮอตเมลแอ็กทีฟกว่า 10 ล้านราย พบว่า 75% ของอีเมลที่เข้ามาเป็น เกรย์เมล คือ อีเมลที่เป็นจดหมายข่าว ข้อมูล ช็อปปิ้ง การแจ้งเตือนต่างๆ จากโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ใช้ได้สมัครหรือลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลด้วยตัวเอง

ทั้งนี้ พบว่ามี 14% เท่านั้นที่เป็นเมลที่ใช้ติดต่อถึงกันจริงๆ ขณะที่สแปมเมลที่ไม่เป็นที่ต้องการ มีเพียง 2-3% เท่านั้น
ดังนั้น หากมีระบบกลั่นกรองอีเมลที่มีประสิทธิภาพ ช่วยในการแยกแยะอีเมลประเภทต่างๆ ออกจากกัน จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลที่ไหลเข้ามาแต่ละวันได้อย่างดียิ่งขึ้น

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 22 พฤษภาคม 2555 เวลา 11:37 น.

คียบอร์ดคู่ใจไอแพด

โลจิเทคแนะนำคีย์บอร์ดคู่ใจสำหรับสาวกไอแพดที่บางเบาพกพาง่ายแถมชาร์จไฟด้วยพลังแสงอาทิตย์

ไลฟ์สไตล์สมัยนี้ หลายคนใช้ไอแพดติดตัวไปทำงานทดแทนโน้ตบุ๊กตัวเดิมที่มีน้ำหนักมาก ยากต่อการพกพา ดังนั้นเพื่อการทำงานไอแพดที่ดีกว่าเดิม ได้เวลาของผู้ช่วยมือฉมังแล้ว

โลจิเทค บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ เปิดตัวอุปกรณ์เสริม Logitech Solar Keyboard Folio เคสคีย์บอร์ดบางเฉียบสำหรับใช้กับนิวไอแพด และไอแพด 2 พร้อมกับการปกป้องทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้อย่างลงตัว

Solar Keyboard Folio อำนวยความสะดวกต่อการทำงาน เพราะสามารถใช้งานไอแพดได้ในตำแหน่งที่เหมาะสม จะพิมพ์งานและใช้ฟังก์ชั่นหลากหลายได้อย่างง่ายดายราวกับกำลังใช้งานคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ไม่เพียงเท่านั้น หากเปลี่ยนตำแหน่งวางก็สามารถทำหน้าที่เสมือนเป็นเครื่องเล่นสื่อและตัวควบคุมระดับเสียงได้อีกด้วย ทีนี้ก็สามารถใช้งานไอแพดสุดรักได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ยังเป็นคีย์บอร์ดบลูทูธในตัวซึ่งทำงานโดยอาศัยพลังงานแสง ไม่ว่าจะอยู่ในที่ที่มีแสงน้อยในร่มหรือกลางแจ้ง คีย์บอร์ดจะชาร์จไฟด้วยแผงโซลาร์ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง โดยแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 2 ปี
Logitech Solar Keyboard Folio คาดว่าจะพร้อมจัดจำหน่ายในไทยประมาณเดือน มิ.ย.นี้ ราคาแนะนำ 3,900 บาท สนใจดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ www.logitech.com

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 22 พฤษภาคม 2555 เวลา 13:52 น.

Office Timeline 2010


Office Timeline 2010 คืออะไร ?
โดยทั่วไปแล้วเวลาที่ต้องการเขียนแผนผังระยะเวลาเพื่อแสดงความคืบหน้าต่างๆ ของโครงงานเราก็จำเป็นที่จะต้องสร้างสิ่งที่เรียกว่า Timeline ขึ้นมา ซึ่งจะมีการเขียนที่ยุ่งยากหรือซับซ้อนมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับขนาดของโครงงาน และถ้าเป็นโครงงานที่ซับซ้อนมากๆ เราก็คงจะต้องใช้โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะอย่าง Microsoft Project แต่ว่าสำหรับผู้ใช้ตามบ้านหรือสำนักงานเล็กๆ อย่างเราแล้ว แนะนำว่าให้ไปดาวน์โหลด Add-In ที่ชื่อว่า Office Timeline 2010 มาติดตั้งก็พอ โดยโปรแกรมนี้จะเป็นส่วนเสริมของโปรแกรม PowerPoint โดยคุณจะใช้เวอร์ชัน 2007 หรือ 2010 ก็ได้

การทำงานของ Office Timeline 2010 นั้นจะเป็นในลักษณะของ Wizard คือง่ายและมีคำแนะนำการใช้งานตลอดทุกขั้นตอน ที่สำคัญยังสามารถจัดรูปแบบเพื่อใช้ในการทำพรีเซนท์ด้วย PowerPoint ให้เกิดความสวยงามได้ง่าย ใครที่ PowerPoint 2007/2010 เป็นโปรแกรมสำหรับการนำเสนอเป็นประจำอยู่แล้ว การมี Office Timeline 2010 ติดตั้งเพิ่มเข้าไปก็จะทำให้คุณมีทางเลือกในการทำงานได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

Office Timeline 2010 Free! นอกจากนี้ยังไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่ประการใด

ขั้นตอนการติดตั้ง
  1. Download zip file and extract to hard drive คลิกที่ Free Download of Office Timeline 2010
  2. ปิดโปรแกรม PowerPoint ที่เปิดไว้
  3. Run "officetimeline.msi" และทำตามขั้นตอน wizard
  4. เปิดโปรแกรม PowerPoint อีกครั้ง 
Download Size: 6.2 MB
System Requirements:
  • Windows Vista or Windows 7
  • PowerPoint 2007 or PowerPoint 2010
  • Microsoft .NET Framework 3.5 SP1
  • Visual Studio Tools for Office 2010 Runtime (VSTO 4.0) - included with install.
หมายเหตุ
ถ้าใช้ Microsoft Office 2007 จะต้องติดตั้งโปรแกรม Visual Studio Tools for Office 2010 (VSTO 4.0) เพื่อจัดการ Office Timeline

แหล่งที่มา   เว็บไซต์ QuickPC

ลบข้อมูลใน"ฮาร์ดดิสก์"ภายในหนึ่งวินาที

มีฮาร์ดดิสก์ตัวเก่า แต่ภายในมีข้อมูลสำคัญที่ไม่อยากให้ใครได้เข้าถึง และต้องการกำจัดข้อมูลดังกล่าวออกไป ซึ่งวิธีที่ง่ายทีสุดก็คือ การฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์ซ้ำอีกครั้ง แต่ก็ยังพบว่า มันยังอาจจะสามารถกู้ขึ้นมาโดยบริษัทกู้ข้อมูลได้อยู่ดี รักษาความลับด้วยการลบข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ออกจนเกลี้ยงด้วย Data Killer เครืองลบข้อมูลด้วยสนามแม่เหล็กแรงสูงที่มีเพียงข้อมูลที่หายไปส่วนฮาร์ดดิสก์จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังใช้เวลาในการลบข้อมูลสั้นมากๆ

Data Killer เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิดขึ้นมาโดยบริษัท Platform of Japan โดยทางบริษัทอ้างว่า เครื่องลบข้อมูลที่ดูคล้ายตู้เซฟนี้จะสามารถลบข้อมูลบนสื่อบันทึกแม่เหล็กได้ด้วยการจัดเรียงอนุภาคแม่เหล็กใหม่ทั้งหมดให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน (หมายความว่า ข้อมูลบนสื่อบันทึกที่สลับกลับขั้ว 0 กับ 1 เพื่อแสดงข้อมูล จะถูกเปล่ยนกลายเป็น 0 หมด หรือ 1 หมด) นอกจาก DataKiller จะสามารถลบข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ได้อย่างเกลี้ยงเกลายากกู้กลับคืนแล้ว มันยังมีความเร็วในการลบข้อมูลทีสูงมากอีกด้วย ซึ่งหลังจากคุณใส่ฮาร์ดดิสก์เข้าไป แล้วกดปุ่มลบข้อมูล เพียงแค่อึดใจ คุณก็ได้ฮาร์ดดิสก์ที่เสมือนเพิ่งออกจากโรงงานแล้ว

แม้ไอเดียการลบข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ด้วยสนามแม่เหล็กของ Data Killer จะไม่ใช่เรื่องใหม่ที่น่าตื่นเต้นแต่ประการใด แต่มันกลับเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ทางด้านนี้ เพื่อทำลายข้อมูลที่เป็นความลับอย่างจริงจัง หรือจะเรียกว่า มันเป็นอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่อาจจจะจำเป็นมากขึ้นในโลกดิจิตอลที่ข้อมูลความลับของคุณ หรือธุรกิจสามารถแพร่กระจายไปบนเน็ตได้ภายในลัดนิ้วเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ที่เห็นตู้ยาวๆ Data Killer จะสามารถลบข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ได้พร้อมกันทีเดียว 14 ตัวอีกด้วย

แหล่งที่มา   กองบรรณาธิการเว็บไซต์ ARiP.co.th - 22 พฤษภาคม 2555 เวลา 06:47 น.

เคสกันน้ำ"บางเฉียบ"สำหรับ iPhone 4



ปัญหาที่ยังคงได้ยินกันอยู่เสมอก็คือ การทำสมาร์ทโฟนตกน้ำทั้งอ่างล่างหน้า และชักโครก - -" คำตอบที่ช่วยปกป้องให้สมาร์ทโฟนปลอดภัยได้ง่ายที่สุด ก็คือ การเลือกใช้เคสกันน้ำ (waterproof case)

อย่างไรก็ตาม เคสกันน้ำสำหรับสมาร์ทโฟนทีออกมากันก่อนหน้านี้ มักจะไม่ค่อยสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากมีความหนา เทอะทะ และดูโดดเด่นจนเกินงาม เแต่ Case Marine สำหรับ iPhone 4 และ Galaxy S2 เคสกันน้ำรุ่นใหม่จาก Gooma จะทำให้คุณรู้สึกว่า นี่แหละคือ เคสกันน้ำที่ต้องการ โดย Case Marine จะไม่ใช่เคสพลาสติกใสที่มีขอบยางกันน้ำเข้าขนาดใหญ่กว่าเครื่องสองเท่าอย่างที่พบเห็นกันทั่วไป แต่มันทำจากโพลียูรีเทนที่ไม่เพียงแต่จะมีความบางเป็นพิเศษ (แค่ 0.25 มม.) เท่านั้น แต่มันยังมีความยืดหยุ่นสูงอีกด้วย โดยสามารถยืดออก เพื่อคลุม iPhone 4 หรือ Galaxy S2 ได้ตลอดทั้งตัวเครื่อง ซึ่งแน่นอนว่า น้ำไม่มีทางเล็ดลอดเข้าไปในตัวเครื่องได้เลย 

Case Marine ได้รับการรับรองจาก IPX8 ว่า มันสามารถจมในน้ำลึกได้มากสุดถึง 10 เมตร (ประมาณ 33 ฟุต) ถ้าใครอยากดำน้ำไปด้วยทวีตไปด้วยก็คงทำได้ ประเด็นที่ในวิดีโอไม่ได้นำเสนอก็คือ เวลาเชื่อมต่อคอนเน็คเตอร์ และหูฟังที่ด้านล่าง เพราะน่าจะเป็นจุดที่นำเข้าได้ หรือว่าต้องถอดมันออกอย่างเดียว Case Marine ของ Gooma ที่มีการเปิดตัวออกมาจะมีเฉพาะรุ่นที่ใชกับ iPhone 4 และ Samsung Galaxy S2 ส่วนเวอร์ชันสำหรับ iPad กำลังจะออกมาเร็วๆ นี้ สนนราคาอยู่ที่ 71 เหรียญฯ (ประมาณ 2,130 บาท)

แหล่งที่มา   กองบรรณาธิการเว็บไซต์ ARiP.co.th - 21 พฤษภาคม 2555 เวลา 06:44 น.

วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

หูฟัง Soul by Ludacris SL100

ไอทีซิตี้ แนะนำหูฟังรุ่นใหม่ "Soul by Ludacris SL100" ที่เน้นเสียงเบสและการแยกเสียงเครื่องดนตรีที่ชัดเจน

บริษัท ไอที ซิตี้ แนะนำผลิตภัณฑ์ Soul by Ludacris SL100 หูฟังชั้นนำแบบใหม่ล่าสุดออกแบบโดยศิลปินชื่อดัง Luda Cris เน้นเสียงเบสและซาวด์สเปกกว้างไม่อึดอัดในการฟัง สามารถฟังเสียงร้องและแยกเสียงดนตรีได้ชัดเจน นอกจากนี้สามารถเล่นกับ iPod, iPhone และ iPad ได้อีกด้วย

Soul by Ludacris SL100 จะมาเติมเต็มความสุขของการฟังเพลงโดยเฉพาะแนวเพลงร็อกที่สามารถรับรู้ในการควบคุมเสียงดนตรีได้ในทุกจังหวะ และรับรู้ถึงท่วงทำนองสูง-ต่ำของจังหวะเพลงและเอกลักษณ์พิเศษของแต่ละโทนเสียง เป็นหูฟังที่มีน้ำหนักเบาเพียง 213 ก. รูปทรงสวยงาม ทันสมัยสำหรับแฟนเพลงพันธุ์แท้ที่รักเสียงเพลง สามารถซื้อหากันได้แล้วที่ไอที ซิตี้ทุกสาขา ราคา 9,000 บาท (รับประกันนาน 1 ปีเต็ม)

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 21 พฤษภาคม 2555 เวลา 11:20 น.

วอลล์เปเปอร์ป้องกันสัญญาณไวไฟถูกขโมย

หมดปัญหาสัญญาณไวไฟที่บ้านหรือที่ทำงานโดนเจาะ โดนแฮก ด้วยวอลล์เปเปอร์ที่สามารถป้องกันสัญญาณไวไฟรั่วไหลและจำกัดอยู่ในพื้นที่ที่ต้องการ ผลงานสุดเจ๋งนี้เป็นของนักวิจัยจาก Grenoble Institute of Technology และ Paper Technical Centre ที่ได้ร่วมกันคิดค้นวอลล์เปเปอร์ติดผนังที่สามารถป้องกันสัญญาณไวไฟไม่ให้ออกไปนอกบริเวณที่ติดวอลล์เปเปอร์หรือในพื้นที่ถูกกำหนดไว้

ตัวอย่างวอลล์เปเปอร์
ประโยชน์ของวอลล์เปเปอร์ตัวนี้มีไว้สำหรับป้องกันสัญญาณไวไฟออกไปข้างนอกบริเวณที่กำหนดและทำให้สัญญาณไวไฟจากภายนอกไม่สามารถเข้ามายังบริเวณที่ติดวอลล์เปเปอร์นี้ได้ ส่วนคลื่นวิทยุอื่น ๆ เช่น คลื่นโทรศัพท์มือถือ, คลื่นวิทยุ สามารถทะลุผ่านวอลล์เปเปอร์นี้มาได้ หรือพูดง่าย ๆ ว่าวอลล์เปเปอร์จะป้องกันเฉพาะสัญญาณไวไฟเท่านั้น สำหรับตัววอลล์เปเปอร์ถูกออกแบบให้มีลวดลายพิเศษประกอบไปด้วยเส้นลวดเงินเล็ก ๆ เชื่อมต่อกัน เพื่อใช้ป้องกันสัญญาณไวไฟออกนอกบริเวณที่ติดวอลล์เปเปอร์นั่นเอง

ทั้งนี้ตัววอลล์เปเปอร์จะถูกผลิตและออกวางขายช่วงปี 2013 โดยบริษัท Alhstrom จากฟินด์แลนด์จะรับหน้าที่เป็นผู้ผลิตวอลล์เปเปอร์สุดไฮเทคชิ้นนี้ ส่วนเรื่องราคาของวอลล์เปเปอร์ยังไม่มีการเปิดเผย

สำหรับใครที่เจอปัญหาโดนข้างบ้านขโมยใช้สัญญาณไวไฟบ่อย ๆ หรือธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยสูงในการใช้สัญญาณไวไฟ สามารถใช้วอลล์เปเปอร์ชิ้นนี้เพื่อป้องกันบริเวณหรือติดเฉพาะห้องที่ต้องการไม่ให้สัญญาณไวไฟรั่วไหล ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มากเลยทีเดียวและไม่ใช่แค่ป้องกันสัญญาณไวไฟเท่านั้น รูปแบบของวอลล์เปเปอร์ยังดูดีมีลวดลายเฉพาะตัวอีกด้วย

แหล่งที่มา   เว็บไซต์กระปุกดอทคอม

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

กราฟฟิกการ์ดสำหรับคอเกม

เอซุสเปิดตัวกราฟฟิกการ์ดตัวแรง ASUS GTX 680 สำหรับคอเกมพีซีที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด 

เอซุส เปิดประสบการณ์ในการเล่นเกมอย่างสมจริงด้วย ASUS GTX 680 กราฟฟิกการ์ด ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี NVIDIA GPU Boost เพื่อความเร็วอย่างเหนือระดับและตอกย้ำความแรงด้วยเทคโนโลยี NVIDIA Adaptive Vertical Sync เพื่อการเล่นเกมอย่างไม่สะดุด มาพร้อมสถาปัตยกรรม Kepler ขนาด 28 นาโนเมตร รองรับ DirectX 11 เต็มรูปแบบเพื่อประสิทธิภาพความบันเทิงบนคอมพิวเตอร์ทั้งการเล่นเกมและมัลติมีเดียที่เหนือกว่าระดับ Full HD

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการโอเวอร์คล็อก ASUS GTX 680 มาพร้อม GPU Tweak ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการโอเวอร์คล็อกได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยี NVIDIA GPU Boost เพื่อความเร็วชั้นสูง พร้อมฟังก์ชั่นล็อกโหมด 2D/3D เพื่อประสิทธิภาพที่แม่นยำที่สามารถแสดงค่าต่างๆ บนหน้าจอเพื่อการตรวจสอบฮาร์ดแวร์ได้อย่างรวดเร็วและฟังก์ชั่น Live Update สำหรับไดรฟ์เวอร์และ BIOS เพื่อการอัพเดตฮาร์ดแวร์เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ

ASUS GTX 680 ยังมาพร้อมฟังก์ชั่น Vsync (Adaptive Vertical Sync) เทคโนโลยีล่าสุดจาก NVIDIA เพื่อการปรับแต่งอัตรา Frame Rate ให้การแสดงผลที่นุ่มนวลยิ่งขึ้นและช่วยลดการกระตุกขณะเล่นเกมได้อย่างอัตโนมัติ
สนใจสอบถามได้จากร้านตัวแทนจำหน่ายเอซุสทั่วประเทศ

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 20 พฤษภาคม 2555 เวลา 14:35 น.

คลาวด์คอมพิวติ้ง เทคโนโลยีใหม่ใกล้ตัว

ทุกวันนี้ เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะจากนี้ต่อไป การใช้งานคอมพิวเตอร์ จะไม่ใช่รูปแบบเดิมๆ ที่ต้องเก็บไฟล์ทุกอย่างไว้ในเครื่องส่วนตัว แต่จะขยับไปสู่เทคโนโลยีที่เรียกว่า “คลาวด์คอมพิวติ้ง” และจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หรือจากองค์กรต่างๆ มากมายทั้งในและต่างประเทศ

แนวความคิดของคลาวด์คอมพิวติ้ง เป็นการเข้าใช้บริการจากระบบคอมพิวเตอร์ผ่านออนไลน์ โดยที่ผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามีทรัพยากรมากน้อยแค่ไหน หรือมีคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ที่ใด และไม่ต้องสนใจเรื่องการจัดการทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที นั้นๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ระบบอีเมล์ฟรีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Google Mail (gmail) หรือ Yahoo Mail เป็นต้น
รวมถึงเครือข่ายทางสังคม ที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน มีผู้ใช้หลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก อย่าง เฟซบุ๊ก วิกิพีเดีย หรือทวิตเตอร์ ที่นิยมใช้งานอย่างแพร่หลาย ก็ใช้ระบบคลาวด์มาประมวลผล ทำให้การใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นไปด้วยความรวดเร็วทั้งเนื้อหาและภาพ

ระบบดังกล่าว นอกจากจะทำให้การใช้งานได้อย่างสะดวกและรวดเร็วแล้ว ยังช่วยลดภาระการลงทุนด้านระบบไอที ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรด้วย จะเหลือเพียงฝ่ายไอที ที่เป็นพื้นฐานเท่านั้น เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในการให้บริการเท่านั้น

เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่กระทรวงเทค-โนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) โดยสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มที่จะนำระบบคลาวด์มาใช้ Government Cloud Service เพื่อเปิดให้หน่วยงานราชการต่างๆมาใช้ระบบคลาวด์ เพื่อลดการลงทุนซ้ำซ้อนเกี่ยวกับไอที ซึ่งสามารถลดงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐสำหรับการลงทุนด้านไอที ปีละเกือบ 10,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีหน่วยงานราชการกว่า 10 แห่ง ได้ทดลองการใช้งานคลาวด์คอมพิวติ้งแล้ว

การใช้คลาวด์ในภาครัฐนั้น เพิ่งจะเริ่มต้นที่จะให้ความสำคัญ ขณะที่ภาคเอกชนได้ล้ำหน้าในการใช้งานไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา

แม้วันนี้การใช้งานระบบคลาวด์ ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย และประชาชนยังไม่สัมผัสได้ถึงการใช้บริการ แต่เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ ประชาชนจะรับรู้ถึงบริการภาครัฐที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะจะใช้บริการผ่านบริการอี-เซอร์วิส ที่จะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

แหล่งที่มา   เว็บไซต์ไทยรัฐ

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ทันทุกเกมมันทุกโหมดไอ-โมบาย

ไอ-โมบายเปิดตัวโทรศัพท์มือถือซีรีย์สปอร์ต ไลฟ์สไตล์ พร้อมแอพพลิเคชั่นอัพเดตความเคลื่อนไหวสโมสรฟุตบอลไทยลีก

เห็นบอลลีกต่างประเทศดราม่ากันอย่างเข้มข้นกันไปแล้ว ลีกไทยเองก็สนุกสุดมันไม่แพ้กัน ใครที่อยากอัพเดตข่าวคราวความเคลื่อนไหวไปดูมือถือจาก บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย ที่ร่วมมือกับ 3 ทีมดังจากไทยพรีเมียร์ลีก เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ ไอ-โมบาย สปอร์ต ไลฟ์สไตล์ ถึง 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นไอเดีย 1, รุ่นซ่า 1 และรุ่นซ่า 2 พร้อมแอพพลิเคชั่นอัพเดตของแต่ละสโมสรกีฬาให้แฟนๆ ได้อัพเดตเกมก่อนใคร

เริ่มต้นด้วยรุ่นไอเดีย 1 ซึ่งมาในระบบหน้าจอสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว รองรับ 2 ซิมใช้งานได้พร้อมกัน กล้องดิจิตอลความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส แฟลช พร้อมกล้องหน้า นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Wi-Fi อีกด้วย ซึ่งไอเดีย 1 มาพร้อมกับแอพพิเคชั่นของสโมสรเอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด ซึ่งอัดแน่นไปด้วยคอนเทนต์ต่างๆ ได้แก่ วิดีโอคลิป ภาพวอลเปเปอร์ ภาพยิงประตู เพลง ผลการแข่งขัน และริงโทน เป็นต้น

วางจำหน่ายแล้วในราคา 2,490 บาท และ 2,690 บาท พร้อมไมโครเอสดี การ์ด 4GB บรรจุคอนเทนต์สโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ

เล็กลงมาอีกนิดต้องรุ่นซ่า (Zaa) 1 ด้วยหน้าจอขนาด 2.6 นิ้ว ใช้งาน 2 ซิมได้พร้อมกัน มีกล้องดิจิตอล VGA พร้อมซูมได้ มีเครื่องเล่นเพลงเอ็มพีสาม วิทยุเอฟเอ็ม และออนไลน์โซเชียลเน็ตเวิร์กได้ มีแอพพลิชั่นสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาพร้อมในเครื่องอัพเดตโปรแกรม ผลการแข่งขันแบบไลฟ์สกอร์และคอนเทนต์อื่นๆ ได้มากมาย

รุ่นซ่า 1 ราคา 1,490 บาท และ 1,790 บาท พร้อมไมโครเอสดี การ์ด 24GB บรรจุคอนเทนต์สโมรสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ปิดท้ายด้วยรุ่นซ่า 2 ดีไซน์กะทัดรัด สีสันสุดจี๊ด พร้อมไฟกะพริบเปลี่ยนสีได้ หน้าจอขนาด 2.4 นิ้ว รองรับ 2 ซิม เติมเต็มทุกอรรถรสความบันเทิง ทั้งทีวี กล้องดิจิตอล VGA พร้อมซูม เล่นเพลงเอ็มพีสาม วิทยุเอฟเอ็ม และท่องไปในโลกออนไลน์ได้ คนรักชลบุรี เอฟซี ห้ามพลาด เพราะมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นจากสโมสรนี้ ให้ติดตามข่าวสารกีฬาได้ก่อนใคร ทั้งคอนเทนต์สารพัดที่หาไม่ได้จากที่อื่น

รุ่นซ่า 2 ราคา 1,490 บาท และ 1,590 บาท พร้อมไมโครเอสดี การ์ด 4GB บรรจุคอนเทนต์สโมสร ชลบุรี เอฟซี

พิเศษสำหรับ 1,000 เครื่องแรกจากแต่ละรุ่น มาพร้อมกับสัญลักษณ์ของทีม สกรีนให้ฟรีที่ตัวเครื่องอีกด้วย

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 17 พฤษภาคม 2555 เวลา 11:23 น.

ใช้ซอฟต์แวร์แบบไหนดี ?

คำแนะนำสำหรับการเลือกซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์จากไมโครซอฟท์เพื่อความคุ้มค่าในการใช้งาน

เมื่อต้องการซื้อคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กแต่ละครั้ง ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกคงหนีไม่พ้นเรื่องวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่นเดียวกับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามเช่นเดียวกัน ซึ่งซอฟต์แวร์แต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป วันนี้ไมโครซอฟท์มีคำแนะนำดีๆ ในการเลือกซื้อซอฟต์แวร์มาฝาก

ใช้งานในบ้าน
  1. Windows 7 Home Premium เหมาะสำหรับความบันเทิงโดยเฉพาะ สามารถทำให้คอมพิวเตอร์หลายเครื่องเชื่อมโยงกันได้ง่าย เหมาะกับการแชร์ภาพถ่าย วิดีโอ และดนตรีผ่านฟีเจอร์โฮมกรุ๊ป
  2. Windows 7 Home Basic ตอบโจทย์คนทำงานที่ต้องใช้งานด้านเอกสารเป็นประจำ เพราะง่ายต่อการค้นหา และรวดเร็วกว่าเดิม
  3. Office Home and Business 2010 เครื่องมือที่เชื่อมต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้จึงสามารถทำงานได้จากทุกที่ที่ต้องการ ผ่านอีเมลและปฏิทินนัดหมาย ประกอบด้วย Word, Excel, PowerPoint, OneNote และ Outlook
  4. Office Home and Student 2010 เหมาะกับการจัดการเอกสารข้อมูลของลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นแบบฝึกหัด การบ้าน และการจัดการการเงิน ประกอบด้วย Word, Excel, PowerPoint และ OneNote

ใช้งานที่ทำงาน
  1. Windows 7 Ultimate เหมาะกับความบันเทิงและธุรกิจ ใช้งานได้ง่าย มาพร้อมกับ Windows Media Center ความบันเทิงออนไลน์และชุดภาษา 35 ชนิด นอกจากนี้ ยังสามารถเรียกใช้โปรแกรมธุรกิจใน Windows XP ใน Windows XP Mode ได้ด้วย
  2. Windows 7 Professional โดดเด่นด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลทางธุรกิจ หายห่วงเรื่องการโดนแฮกข้อมูล นอกจากการเลือกซอฟต์แวร์ให้ตรงกับความต้องการแล้ว จะให้ดีควรเลือกใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ เพราะช่วยยืดอายุการใช้งานของคอมพิวเตอร์ และจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัยและการอัพเดตผลิตภัณฑ์ฟรี เป็นต้น

 แหล่งที่มา    เว็บไซต์โพสทูเดย์ 16 พฤษภาคม 2555 เวลา 21:19 น

วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

โซนี่อัลฟ่า 57 ช่วยให้สนุกกับการถ่ายภาพ

โซนี่แนะนำกล้องดิจิตอล อัลฟ่า 57 ที่มาพร้อมความสามารถระดับโปรทั้งภาพนิ่งและการถ่ายวิดีโอ
พัฒนาการของกล้องดิจิตอลที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่รักการถ่ายภาพมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้ใช้งานได้มากขึ้น มากกว่านั้นคือ...จินตนาการ

สำหรับ กล้องดิจิตอล โซนี่ อัลฟ่า 57 ถูกพัฒนาขึ้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีกระจกโปร่งแสง ซึ่งยอมปล่อยให้แสงถูกส่งตรงมาที่เซ็นเซอร์รับภาพ CMOS และเซ็นเซอร์โฟกัสอัตโนมัติได้โดยตรงในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้กล้องสามารถโฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่องได้ตลอดเวลาทั้งการถ่ายภาพนิ่งและภาพวิดีโอ ไม่ว่าจะจัดองค์ประกอบ โฟกัสภาพ และเห็นภาพที่ต้องการถ่ายได้ทันที ผ่านช่องมองภาพ Tru-Finder ความละเอียดสูง ซึ่งมีมุมมองที่กว้างและครอบคลุมการมองเห็นได้มากถึง 100% นี่ถือเป็นคุณสมบัติเด่นอย่างหนึ่งของรุ่นนี้

ด้วยเทคโนโลยีกระจกโปร่งแสง ทำให้ถ่ายภาพนิ่งความเร็วสูงแบบเทเลซูม 12 เฟรมภาพต่อวินาที มีคุณภาพสูง ให้ความไวต่อแสงสูง โหมดวัดแสงอัตโนมัติขณะถ่ายภาพต่อเนื่องแบบเทเลซูม เพิ่มกำลังซูมให้กับภาพได้มากขึ้นอีก 1.4 เท่า โดยการดึงภาพตรงกลางภาพเข้ามาใกล้ขึ้น โหมดถ่ายภาพนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ซับซ้อนอย่างการโฟกัสตามวัตถุ ซึ่งช่วยให้วัตถุที่ต้องการถ่ายอยู่ในโฟกัสได้ไม่ว่าวัตถุจะหยุดนิ่งหรือมีการเคลื่อนไหว ทำงานด้วยความเร็วสูงและตอบสนองได้เร็วเหนือใคร เหมาะกับการถ่ายภาพกีฬา เด็กเล็ก ตั้งค่า ISO ได้ตั้งแต่ 100-16,000 เซ็นเซอร์รับภาพแบบ APS-C (23.5 x15.6 มม.) Exmor APS HD CMOS พร้อมฟิวเตอร์สีหลัก RGB ภาพขนาดใหญ่ 16 ล้านพิกเซล มีแฟลชในตัวรวมถึงมีระบบป้องกันการสั่นไหว

การถ่ายภาพคน มีฟังก์ชั่นอัตโนมัติให้เลือกมากมาย ตั้งแต่การจัดวางองค์ประกอบ ตรวจจับใบหน้าบุคคลที่ถูกถ่ายผ่านเทคโนโลยีค้นหาใบหน้า ตัดภาพบางส่วนแบบอัตโนมัติเพื่อองค์ประกอบของภาพที่สวยสมดุลตามกฎสามส่วน โดยที่ภาพต้นฉบับยังคงอยู่

สำหรับการบันทึกภาพวิดีโอแบบ Full HD ที่ตอบสนองการโฟกัสภาพอัตโนมัติได้ต่อเนื่องตลอดเวลา ช่วยให้เก็บบันทึกภาพวัตถุที่มีการเคลื่อนไหวให้อยู่ในโฟกัสได้ไม่ต่างจากการถ่ายภาพนิ่ง ไฟล์ภาพแบบ AVCHD (Ver. 2.0) แบบ Progressive จะทำให้บันทึกภาพวิดีโอความละเอียดสูงแบบ Full HD ได้สูงถึง 50p (Progressive) ใน 1 เฟรมภาพจึงไม่สะดุด ไม่มีฉากเบลอมารบกวน และยังสามารถเลือกบันทึกแบบ 25p เพื่อให้เก็บบันทึกภาพได้มากขึ้น ได้อีกหนึ่งอารมณ์เหมือนแบบภาพยนตร์

วางจำหน่ายในราคา 27,990 บาท

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 16 พฤษภาคม 2555 เวลา 10:59 น.

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

โซนี่เชื่อมต่อความบันเทิงในรถ

โซนี่แนะนำเครื่องเสียงติดรถยนต์รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์อย่างหลากหลาย

โซนี่พร้อมมอบประสบการณ์ล่าสุด เพื่อทุกการเชื่อมต่อให้แก่ผู้ขับขี่ด้วยชุดความบันเทิงในรถยนต์ มาพร้อมระบบควบคุมการใช้งาน iPod/iPhone และสมาร์ตโฟนรุ่นต่างๆ รวมทั้งระบบการเชื่อมต่อทางช่อง USB เร้าใจไปกับระบบเสียงรอบทิศทางแบบมัลติแชนแนลและอื่นๆ อีกมากมาย เพิ่มความสุนทรีย์แห่งความบันเทิงระหว่างการเดินทางในอีกระดับ

ฟังก์ชั่น Passenger App Control ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ iPod หรือ iPhone ผ่าน USB เพื่อรับชมรายการทีวีหรือภาพยนตร์เรื่องโปรด รวมทั้งแอพพลิเคชั่นต่างๆ บนหน้าจอ นอกจากนี้เมื่อต่อเชื่อมไมโครโฟนผ่าน Bluetooth ในเครื่อง XAV-701BT, XAV-601BT และ XAV-64BT จะยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายเมื่อจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ในระหว่างขับรถ

ชุดเอวีรีซีฟเวอร์ รุ่น XAV-701BT/741/601BT มาพร้อมกับหน้าจอ WVGA คุณภาพสูง ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัสหน้าจอ ให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับการส่งและแบ่งปันความบันเทิงแบบมัลติมีเดียได้ตลอดการเดินทาง ในขณะที่ระบบการเชื่อมต่อแบบ Dual USB ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อใช้งานกับอุปกรณ์ USB เช่นวอล์กแมนเพื่อใช้เล่นเพลงไปพร้อมๆ กับการแสดงปกอัลบั้มและรายชื่อเพลง

ทั้งยังมีระบบเชื่อมต่อการใช้งานกับสมาร์ตโฟนที่หลากหลายที่มีระบบเชื่อมต่อแบบ MirrorLink-Certified ซึ่งเมื่อทำการเชื่อมต่อแล้วผู้ขับขี่สามารถเปิดเพลงหรือใช้โทรศัพท์ รวมทั้งควบคุมการทำงานแอพพลิเคชั่น และบริการของสมาร์ตโฟนด้วยจากหน้าจอสัมผัสของเครื่อง และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่อีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ใหม่เริ่มวางจำหน่ายแล้วในรุ่น XAV-64BT ราคา 14,990 บาท และ XAV-63 ราคา 12,990

แหล่งที่มา   เว็บไซต์โพสทูเดย์ 14 พฤษภาคม 2555 เวลา 20:27 น.