วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ระวัง "ตาล้า"

ยิ่งเทคโนโลยีฉลาดมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็ยินดีที่จะแบ่งเวลาของเราเพื่อใช้ประโยชน์จากเหล่าแกตเจ๊ตให้มากขึ้นเท่านั้น ข้อดีคือ ชีวิตของเราสะดวกสบายหลายอย่าง แต่ในทางตรงข้ามก็ส่งผลเสียต่อร่างกายของเราเอง เมื่อเพ่งมากอาจเกิด "ตาล้า" หรืออาการปวดกระบอกตา ตึงไปถึงขมับและท้ายทอยจนอาจรู้สึกคลื่นไส้ อาการดังกล่าวมักเกิดจากการใช้สมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ตติดต่อกันนานเกินไป ซึ่งสามารถแก้ไขได้หากรู้จักใช้อย่างถูกต้อง
  1. ด้วยหน้าจอที่เล็กของแกตเจ็ต ทำให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อปรับสายตาให้เห็นภาพชัดเจน ดังนั้น หากต้องอ่านข้อความนานๆ ควรปรับขนาดตัวหนังสือให้ใหญ่ขึ้น
  2. ปรับระดับความเข้มของแสงที่หน้าจอให้เหมาะสม ไม่สว้างจนต้องหยีตา และไม่มืดจนต้องเพ่งมอง
  3. อยู่ในที่ที่แสงสว่างแวดล้อมกำลังพอดี หากถนัดขวาแสงควรเข้ามาจากทางซ้ายมือ เพื่อขณะใช้งานมือจะได้ไม่บังแสง และไม่อยู่ในที่ที่มีแสงมากเกินไป เพราะอาจะทำให้ตาพร่ามองไม่ชัดเจน
  4. ไม่ใช่งานติดต่อกันนานเกิน 30 นาที และควรถือแกตเจ็ตให้ห่างจากสายตาประมาณ 35 ซม.
แหล่งที่มา นสพ. M2F วันอังคารที่ 22 พ.ย. 54 (030)

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Calibre eBook Management Software

วันนี้ขอแนะนำซอฟต์แวร์ที่น่าสนใจสำหรับสร้างอีบุ๊กรองรับการใช้งานบนมือถือ

โปรแกรม Calibre เป็นซอฟต์แวร์ฟรีและอยู่ในกลุ่ม Open Source สำหรับการจัดการอีบุ๊ก เราสามารถจัดหมวดหมู่การจัดการของโปรแกรมตัวนี้ ได้ดังต่อไปนี้
  • Library Management
  • E-book conversion
  • Syncing to e-book reader devices
  • Downloading news from the web and converting it into e-book form
  • Comprehensive e-book viewer
  • Content server for online access to your book collection
สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะทดลองใช้ สามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์โดยคลิกที่นี่ 

โปรแกรม Calibre รองรับการทำงานหลาย Platform ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบนระบบ Windows, OS X (บน Apple), Linux หรือจะดาวน์โหลดตัวที่เป็น Portable ก็ได้
  • ดู Demo โปรแกรม Calibre จากวิดีโอข้างล่างนี้
  • Calibre Tutorial - Part 1 News feeds
  • Calibre Tutorial - Part 2 Book transferring

  • Calibre Tutorial - Part 3 Book management

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ใช้แบตบีบีให้นาน

การจะให้ใช้งานแบตของแบล็คเบอร์รี่หรือบีบี ได้นานตลอดทั้งวันทั้งคืน แบตเตอรี่ไม่หมดเร็ว ก็อยู่ที่การปิดเหมือนกัน โดยสามารถเลือกคำสั่งปิดระบบเสียงต่างๆ ได้  เสียงเตือนบีบีเอ็มอีเมลเข้า เตือนการสื่อสารในโลกสังคมออนไลน์ เพราะอย่างไรเราก็มองสัญลักษณ์ที่ขึ้นมาหน้าจอได้อยู่แล้ว  ไม่ต้องตั้งให้มีเสียงเตือนตลอดทุกครั้งก็ได้ (จะได้ไม่รบกวนคนอื่นด้วย) เลือกตั้งเสียงเตือนเฉพาะที่คิดว่ามีความจำเป็น พลาดไม่ได้สักวินาทีเดียวก็เพียงพอแล้ว

นอกจากนี้ ระบบสั่นเตือนก็เป็นตัวกินพลังงานแบตเตอรี่ไว้เพื่อการโทรเข้ารับสาย  ก็ต้องปิดฟังก์ชั่นพวกนี้ไปก่อน และยังสามารถตั้งลดความสว่างของไฟแบ็กไลต์ได้อีก ยิ่งสว่างน้อยก็ยิ่งกินแบตไม่มาก

แหล่งที่มา นสพ. M2F วันพฤหัสบดีที่ 17 พ.ย. 54 (027)

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ปิดบ้าง ไอโฟนใช้นานขึ้น

ไอโฟนแบตหมดเร็วง่ายถ้าเปิดแอพพลิเคชั่นมากมายทิ้งไว้ ดังนั้น อะไรที่ปิดได้หรือไม่จำเป็นก็เลือกปิดไปก่อน เผื่อว่าหากต้องการโทรศัพท์ขึ้นมาฉับพลันทันควัน หาปลั๊กไฟชาร์จก็ยาก จะได้ยังมีใช้งานอยู่
  1. ปิดระบบแจ้งเตือน (Push Notification) ทั้งหลายการตั้งให้เตือนตลอด เตือนทุกอย่าง ทำให้กินพลังงานไปอย่างรวดเร็ว
  2. ปิด Push e-mail ถ้าไม่ได้ต้องเช็กอีเมลอยูู่ทุกนาที ปิดเสียก่อนก็ได้
  3. ปิด 3จี เมื่อก่อนเราก็ใช้งานกันแค่ 2G ปิดสักพักคงไม่กระทบบ้าง เพราะ 3G เนี่ยตัวกินแบตอย่างมาก โดยเฉพาะตอนที่เครื่องสแกนหาเมื่อสัญญาณ 3G หายไป มันก็จะหาๆๆๆ เปลืองแบตไปเสียเปล่า
แหล่งที่มา นสพ. M2F วันพุธที่ 16 พ.ย. 54 (026)

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

DraftSight : Free CAD software

โปรแกรม DraftSight เป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับงานออกแบบ เขียนแบบ 2มิติ นามสกุลไฟล์เป็น DWG 

DraftSight รองรับการทำงานบน Microsoft Windows XP, Windows Vista, Windows 7 (General Release), Mac และ Linux

คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดโปรกรมมาทดลองใช้งานได้ (ฟรีแวร์จ้า)

กล้องตกน้ำ

กล้องถ่ายรูปดิจิตอลเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่นเดียวกับพวกโทรศัพท์มือถือ ไม่ถูกกับน้ำ แต่ถ้าเผลอทำตกน้ำ อย่าเพิ่งตกใจเราอาจยังไม่เกิดการสูญเสียอย่างแท้จริงก็ได้
  1. รีบคว้าขึ้นมาให้เร็ว
  2. อย่าเปิดปุ่ม Power หรือว่า On อย่างเด็ดขาด
  3. เปิดฝาแบตเตอรี่นำแบตฯ ออก รวมทั้งพวกการ์ดต่างๆ
  4. ถ้ามองเห็นน้ำขังอยู่ให้เทน้ำออก อย่าเขย่าเดี๋ยวน้ำจะยิ่งกระจาย
  5. ใช้พัดลมเป่า หรือหมกไว้ในข้าวสาร
  6. นำส่งเข้าศูนย์ซ่อมโดยด่วน
เหล่านี้เป็นวิธีพื้นฐาน เผื่อว่าจะทำให้กล้องถ่ายภาพที่รักไม่ถึงกับพังเสียหายจากการตกน้ำ

แหล่งที่มา นสพ. M2F วันจันทร์ที่ 14 พ.ย. 54 (024)

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การเรียงภาพในรูปแบบต่างๆ ด้วย Shape Collage

โปรแกรม Shape Collage สำหรับสร้างภาพ โดยการนำรูปถ่ายหลายๆ รูปมารวมกันเพื่อสร้างเป็นภาพ หรือตัวอักษรรูปแบบต่างๆ ได้ดั่งใจ โดยโปรแกรมจะมีรูปแบบให้เลือกมากมาย และแบบที่สามารถกำหนดรูปแบบเอง โปรแกรมถูกออกแบบด้วยหน้าตาที่เรียบง่าย ใช้งานง่าย เพียงแค่ลากรูปที่ต้องการมาวางลงในโปรแกรม เหมาะสำหรับผู้ใช้ ที่ไม่ชำนาญการในการตกแต่งภาพ

สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Shape Collage ได้ที่นี่ (ดาวน์โหลดเวอร์ชันฟรี)

แนะนำการใช้งานโปรแกรม ZoomIt

บทนำ
ZoomIt เป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ตัวหนึ่งที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับการนำเสนอหรือสาธิตการใช้งานซอฟต์แวร์ เราสามารถใช้ ZoomIt โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์แต่ประการใด เพียงเรียกใช้โปรแกรมก็สามารถนำมาช่วยการสาธิตใช้งานด้วยคีย์ลัด (hotkeys) เพื่อขยายส่วนต่างๆ ให้มีความน่าสนใจ หรือขีดเขียนเป็นวงกลม วงรี สี่เหลี่ยม เขียนข้อความกำกับการอธิบาย หรืออื่นๆ สามารถทำงานได้ทั้ง Platform บน Windows และ tablet PCs

Runs on
Client: Windows XP and higher
Server: Windows Server 2003 and higher

การใช้งานโปรแกรม
เมื่อเราเรียกใช้งานโปรแกรม ZoomIt ครั้งแรก จะแสดงไดอะล็อกเพื่อให้กำหนดคุณสมบัติ (หรือจะใช้ตามที่กำหนดไว้ก็ได้) หากไม่ปรากฎไดอะล็อกเราก็สามารถตรวจสอบโปรแกรมที่เราเรียกใช้งานได้ที่ Task Pane ที่ System Tray จะปรากฎไอคอน ZoomIT


เราสามารถแสดงคุณสมบัติเพิ่มเติม โดยคลิกไอคอน ZoomIT > Options



เพื่อกำหนดคีย์ลัด (hotkeys) หรือจะใช้ค่าตามที่โปรแกรมกำหนดมา ดังต่อไปนี้



Zoom Tab : Ctrl + 1 ต้องการขยายให้ใช้คีย์ลัด Ctrl + 1 และสามารถหมุนเม้าส์ปุ่มกลางเพื่อซูม-ย่อการนำเสนอได้ สำหรบโหมดนี้จะไม่สามารถควบคุมซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่เรานำเสนอได้ ยกเว้นเราจะออกจากการใช้โหมดนี้ก่อน หากต้องการออกจากโหมดนี้ให้ใช้คีย์ลัด Esc หรือคลิกเม้าส์ขวาเลือก Exit


LiveZoom Tab : Ctrl + 4 สำหรับโหมดนี้จะทำงานบน Platform ของ Vista หรือสูงกว่า โหมดนี้ก็คล้ายกับ Zoom Tab : Ctrl + 2 เมื่อเราใช้งานโหมดนี้ก็จะขยายหน้าจอทันที แล้วสามารถเข้าควบคุมการใช้งานซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่เราใช้งานได้ปกติ จะเหมาะสำหรับการขยายหน้าจอค้างไว้ แล้วไม่ต้องเสียเวลาย่อหรือขยาย เราสามารถควบคุมการย่อ-ขยายในโหมดนี้ได้ด้วยใช้คีย์ลัด Ctrl + Up หรือใช้คีย์ลัด Ctrl + Down

Draw Tab : Ctrl + 2
เข้าสู่โหมดการวาดโดยไม่เข้าสู่โหมดซูม ใช้คีย์ลัด Ctrl + 2 และหากต้องการออกจากโหมดนี้ให้ใช้คีย์ลัด Esc
  1. เข้าสู่โหมด Zoom Tab : Ctrl + 1 เราสามารถวาดสิ่งต่างได้โดยคลิกเม้าส์ปุ่มซ้ายก็จะเข้าสู่โหมดการวาดทันที หากเราวาดผิดหรือต้องการลบสิ่งที่วาดล่าสุดออกให้ใช้คีย์ลัด Ctrl + Z และหากต้องการลบทั้งหมดที่เราวาดมาให้ใช้คีย์ลัด e และต้องการออกจากโหมดการวาดให้คลิกเม้าส์ปุ่มขวา
    • เปลี่ยนขนาดเส้นวาดให้หนาหรือบาง ใช้คีย์ลัด left Control + หมุนเม้าส์ปุ่มกลาง เพื่อเพิ่มขนาดความหนาหรือบาง
      • เปลี่ยนสีปากกา ใช้คีย์ลัด r (Red), y (Yellow), g (Green), b (Blue), o (Orange), p (Pink)
      • การวาดเส้นต่างๆ ใช้คีย์ลัด
        • Shift : วาดเส้นตรง
        • Control : วาดวงกลม
        • Tab : วาดวงรี
        • Shift + Control : วาดลูกศร
      • ล้างหน้าจอ ใช้คีย์ลัด w (White) k (Black)
      • การคัดลอกหน้าจอ ใช้คีย์ลัด Ctrl + C
      • การจัดเก็บหน้าจอ ใช้คีย์ลัด Ctrl + S


      Type Tab เมื่อเข้าสู่โหมดการวาด เราสามารถพิมพ์ข้อความได้ ใช้คีย์ลัด t ถ้าต้องการออกจากการพิมพ์ ใช้คีย์ลัด Esc หรือคลิกเม้าส์ปุ่มซ้าย นอกจากนี้เราสามารถกำหนดความเข้ม จางของอักษร ใช้การหมุนเม้าส์กลางขึ้นลง



      Break Tab เมื่อต้องการล้างหน้าจอ และแสดง Counter โดยสามารถกำหนดได้ว่าจะจับเวลากี่วินาทีได้ และสามารถกำหนดสีอักษรได้เช่นเดียวกับที่กล่าวข้างต้น และสามารถออกจากโหมดนี้ได้ ใช้คีย์ลัด Esc

      สามารถดาวน์โหลด ZoomIt ได้ที่นี่ อีกนิด โปรแกรมนี้ฟรี

      นำเสนองานง่ายด้วย ZoomIt

      ZoomIt เป็นโปรแกรมอรรถประโยชน์ตัวหนึ่งที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับการนำเสนอหรือสาธิตการใช้งานซอฟต์แวร์ เราสามารถใช้ ZoomIt โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์แต่ประการใด เพียงเรียกใช้โปรแกรมก็สามารถนำมาช่วยการสาธิตใช้งานด้วยคีย์ลัด (hotkeys) เพื่อขยายส่วนต่างๆ ให้มีความน่าสนใจ หรือขีดเขียนเป็นวงกลม วงรี สี่เหลี่ยม เขียนข้อความกำกับการอธิบาย หรืออื่นๆ

      ZoomIt สามารถทำงานได้ทั้ง Platform บน Windows และ tablet PCs

      ดูรายละเอียดวิธีการใช้งานได้ที่นี่

      วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

      ระวังหูแว่ว

      คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในลอส แองเจลิส ของสหรัฐ ได้ออกมาระบุเมื่อไม่นานมานี้ว่า การใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการหูแว่วว่าได้ยินเสียงโทรศัพท์ หรือรู้สึกว่ามือถือสั่นอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่มีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น

      สอดคล้องกับผลวิจัยทางการแพทย์ ระบุว่า ผู้ป่วยชาวออสเตรียกว่า 70% ที่ใช้มือถือ 10 นาทีต่อวัน มีปัญหาหูแว่วอาการข้างเคียงนอกจากจะทำให้รู้สึกไม่มีสมาธิในการทำงานแล้ว ยังทำให้นอนไม่หลับ รู้สึกกระสับกระส่ายอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น นักวิจัยยังกล่าวเพิ่มอีกว่า โดยปกติแล้ว การใช้มือถือต่อเนื่องกันเป็นเวลา 4 ปี มีอัตราเสียงต่อการเป็นโรคประสาทหูเสื่อมถึง 2 เท่า

      แหล่งที่มา นสพ. M2F วันอังคารที่ 8 พ.ย. 54 (020)

      วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

      วิธีเก็บหูฟัง

      1. เวลาดึงหูฟังออกจากตัวเครื่องให้จับที่หัว อย่าดึงที่สายเครื่องให้จับที่หัว อย่าดึงที่สาย เพราะอาจทำให้สายภายในฉีกขาด
      2. เช็ดทำความสะอาดหูฟังหลังใช้บ้าง เพื่อขจัดความสกปรกและฝุ่นที่มาจากการใช้งาน
      3. ควรม้วนเก็บ โดยนำส่วนของหูรวบเข้ากับด้านปลายหูฟังที่ใช้เสียบต่อกับอุปกรณ์ ก่อนเอาหนังยางรวบไว้ด้วยกัน หรือพันเข้ากับอุปกรณ์เก็บหูฟัง สมัยนี้มีให้เลือกหลายแบบ รูปลักษณ์น่ารักทั้งนั้น
      4. สุดท้ายเก็บใส่กระเป๋าหรือกล่องเก็บหูฟัง ที่ควรมีสารดูดความชื้นและกลิ่นเหมือนอับ เพื่อถนอมให้ใช้งานได้นานขึ้น
      แหล่งที่มา นสพ. M2F วันพฤหัสบดีที่ 3 พ.ย. 54 (017)