วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

แคนนอนเปิดกล้อง 23 รุ่นหวังโกยหมื่นล้าน

แคนนอน หนีสงครามราคา ท้าชนตลาดกล้องดิจิตอล เปิดตัว 23 รุ่นรวด กินรวบขึ้นผู้นำตลาด หวังรายได้รวมแตะหมื่นล้าน

นายวาตารุ นิชิโอกะ ประธาน และประธานกรรมการ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ตลาดกล้องดิจิตอลแข่งขันสูงมาก โดยเฉพาะด้านราคา และโปรโมชั่น ทำให้มูลค่าตลาดลดลง โดยปีที่ผ่านมา ตลาดกล้องประเภทคอมแพคลดลง 2-3% จากมูลค่า 6,300 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะลดลงอีกอย่างน้อย 10-15% ขณะที่จำนวนการขายคาดว่าจะมีปริมาณ 1.6 ล้านยูนิต ทั้งนี้ แคนนอนจะไม่แข่งขันในเรื่องราคา แต่จะเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น เพื่อยกระดับตลาดกล้องให้มีมูลค่าสูงขึ้น โดยปีนี้ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 23 รุ่น วางจำหน่ายในเดือนเม.ย. 2555 นี้

สำหรับกล้องรุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายในเดือนเม.ย.นี้ จะมีทั้งกล้องสำหรับมืออาชีพ (ดีเอสแอลอาร์) และกล้องคอมแพค ที่พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เน้นระบบความคมชัดสูงสมบูรณ์แบบ หรือ ฟูล เอชดี เช่น เลนส์ หรือ เพิ่มฟังก์ชั่นไวไฟ และแอพพลิเคชั่น คาเมรา วินโดว์ เพื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน เป็นต้น คาดว่าจะทำให้ยอดขายกล้องดิจิตอลของแคนนอนเพิ่มขึ้น 38% ในปีนี้ หรือมียอดขายรวม 6,346 ล้านบาท จากปีก่อนที่เติบโต 16% ขณะที่วางเป้าหมายรายได้รวม 1 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 24% จากปีที่แล้ว โดยมีรายได้จากพรินเตอร์ 3,100 ล้านบาท และเครื่องถ่ายเอกสาร 1,500 ล้านบาท

นายวรินทร์ ตันติพงศ์พานิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น กล่าวว่า การเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ของแคนนอนในปีนี้ เชื่อว่าจะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ซึ่งไม่เน้นในเรื่องราคา แต่เน้นคุณภาพของภาพเป็นหลัก และจะทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 18 เป็น 23% หรือเป็นผู้นำในตลาดกล้องคอมแพคในปีนี้ จากปีก่อนผู้นำ คือ โซนี่ ตามด้วยซัมซุง ส่วนตลาดกล้องดีเอสแอลอาร์ ปัจจุบันแคนนอนเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งตลาด 65% และปีนี้คาดว่าจะเพิ่มส่วนแบ่ง 65-70%

"ธุรกิจกล้องของแคนนอนเติบโตทุกปี แสดงให้เห็นว่าความต้องการการถ่ายภาพมีมากขึ้น 1 บ้าน มีกล้องมากกว่า 1 ตัวในปัจจุบัน แม้จะมีมือถือสมาร์ตโฟนเข้ามา เป็นการช่วยขยายวงความสนใจการถ่ายภาพให้กว้างขึ้น ไม่ได้ทำให้ตลาดกล้องหดตัวลง แต่หากจะถ่ายภาพให้ดี มีคุณภาพ ผู้บริโภคยังเลือกใช้กล้องอยู่ดี และยิ่งมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ยิ่งเข้าไปตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทางด้านนี้มากยิ่งขึ้น" นายวรินทร์กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทใช้งบทำตลาดรวม 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 20% รวมทั้งจะขยายคอนเซปท์ สโตร์เพิ่มขึ้นอีก 6 แห่ง จากที่เปิดไปแล้ว 5 แห่งเมื่อปีที่แล้ว ลงทุนแห่งละ 4 ล้านบาท โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เช่น อุดร นครราชสีมา เพื่อสนับสนุนการจำหน่ายของดีลเลอร์และพัฒนาตลาดในต่างจังหวัดในแข็งแรงขึ้น ปัจจุบันยอดขายหลักมาจากกรุงเทพฯ 70% ต่างจังหวัด 30%

แหล่งที่มา  เว็บไซต์โพสทูเดย์ 20 มีนาคม 2555 เวลา 21:10 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น